ไลฟ์แฮ็ก
7 แอปอัดเสียงที่ดีที่สุด (ก.พ. 65)
ในปัจจุบันนี้การอัดเสียงถือเป็นอีกหนึ่งวิถีชีวิตที่เรามักต้องทำ เพราะด้วยความสะดวกที่มากกว่าการพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นการอัดเสียงในที่ประชุม อัดเสียงการสอนในห้องเรียน หรือแม้กระทั่งอัดเสียงตัวเองเพื่อบันทึกบางอย่าง ดังนั้น การเลือกแอปสำหรับอัดเสียงจึงมีความสำคัญมาก เพื่อไม่ให้เกิดการตกหล่นในการอัดเสียง หรือ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการนำไฟล์เสียงที่อัดแล้วไปทำอย่างอื่นต่อไป เราจึงขอนำเสนอ 7 แอปอัดเสียงที่น่าสนใจ โดยไม่ต้องเสียเวลาทดลองกันหลาย ๆ แอปให้เสียเวลา ซึ่งมีทั้งในระบบ iOS และ Android ดังนี้
ข้อมูล ณ ก.พ. 2565
1. Alice (iOS)
Alice เป็นแอปฟรีที่มีเฉพาะใน iOS เท่านั้น และมีฟีเจอร์ที่ต้องเสียค่าบริการบางอย่าง โดยเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานสื่อสาร แต่ก็ใช้งานได้ดีสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป นั่นเพราะแอปนี้สามารถเปิดแอปแล้วอัดเสียงได้ใน 5 วินาทีโดยไม่ต้องตั้งค่าใด ๆ พร้อมฟีเจอร์แบบรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น ระหว่างการอัดสามารถแตะ 1 ครั้งเพื่อ bookmark ตำแหน่งเวลาไว้ และหลังการอัดเสียงเสร็จสิ้นสามารถย้อนกลับมาไล่ตาม bookmark ไว้ได้ หรือ ปัดขวา เพื่อหยุดการอัดชั่วคราว โดยหลังการอัดเสร็จสิ้นแล้วยังสามารถตั้งค่าให้แอปส่งไฟล์เสียงที่อัดแล้วไปยังอีเมล์ที่เราตั้งไว้โดยอัตโนมัติ
Advertisement
Advertisement
2. Easy Voice Recorder (iOS, Android)
Easy Voice Recorder มี 2 เวอร์ชั่นคือ Easy Voice Recorder ฟรี และ Easy Voice Recorder Pro เสียค่าบริการ โดยมีความแตกต่างคือเรื่องของโฆษณาเท่านั้น สำหรับการใช้งานเหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา โดยเป็นแอปแบบง่าย คือแตะปุ๊บอัดปั๊บ สามารถตั้งสกุลไฟล์ได้เป็น MP3 และ AAC เพื่อประหยัดพื้นที่จัดเก็บพร้อมความสามารถ Upload ไปยัง Google Drive หรือ Dropbox
3. RecForge II - Audio Recorder (Android)
RecForge II - Audio Recorder แอปอัดเสียงอย่างง่ายที่มีส่วนพิเศษคือ สามารถเลือกอัดเป็น สเตอริโอ (stereo) หรือ โมโน (mono) ได้สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้ในงานแยกเสียงซ้ายขวา สามารถข้ามช่วงที่ไม่มีเสียง และตั้งเวลาอัดเสียงได้ พร้อม Upload ไปยัง Cloud ได้ทันที โดยมีความสามารถพิเศษเพิ่มเติมคือการถอดเสียงออกจาก Video ได้ แอปนี้เป็นแอปฟรี มีโฆษณา และฟีเจอร์บางอย่างต้องเสียค่าบริการ
Advertisement
Advertisement
4. Tape-a-Talk (Android)
Tape-a-Talk เป็นแอปฟรี มีโฆษณา และในแบบ Pro มีค่าบริการ คุณสมบัติที่พิเศษกว่าแอปอื่นคือบันทึกเสียงในแบบ Lossless แต่ก็จะต้องใช้พื้นที่มหาศาลเช่นเดียวกัน สามารถ Upload ไปยัง Cloud Drive ของเราได้ และมีความสามารถที่เพิ่มเติมจากแอปอื่น ๆ คือ สามารถอัดในขณะพักหน้าจอได้ และสามารถดึงเสียงออกมาเป็นเสียงเรียกเข้าได้
5. Voice Memos (iOS)
Voice Memos ถึงตรงนี้ท่านถือที่ iPhone หรือ iPad คงร้อง อ้าว ... ใช่ครับ แอปติดเครื่องของ Apple นั่นเอง ที่มีการพัฒนามาโดยตลอด เพราะความสามารถในการอัดเสียง, แก้ไขตำแหน่งที่อัด, การลองฟังเสียงก่อนหน้า หรือถอยหลัง 15 วินาที พร้อมทั้ง คัดลอก, แชร์ รวมถึงการแก้ไขชื่อไฟล์ที่อัดแล้วได้ จึงถือเป็นแอปที่มีความมาตรฐานที่สุดในการอัดเสียง
6. Voice Recorder & Audio Editor (iOS, Android)
Advertisement
Advertisement
Voice Recorder & Audio Editor แอปนี้เป็นแอปฟรีมีโฆษณา และมีฟีเจอร์ที่เป็นลูกเล่นที่ต้องเสียค่าบริการ โดยในเวอร์ชั่นฟรีนั้นจะสามารถอัดเสียงทั่วไปดังเช่นแอปอื่น ๆ แต่มีความสามารถพิเศษคือ สามารถแชร์ไปยัง Facebook, YouTube หรือ Podcast ต่าง ๆ ได้ทันทีหลังอัด หรือแก้ไขเสร็จ ทั้งยังสามารถป้องกันไฟล์เสียงที่อัดแล้วได้โดยใส่ Password, Touch ID หรือ Face ID เพื่อไม่ให้ผู้อื่นเปิดไฟล์เสียงนั้น
7. Voice Record Pro (iOS, Android)
Voice Record Pro เป็นแอปฟรี มีโฆษณา หรือเสียค่าบริการเพื่อนำโฆษณาออก โดยแอปนี้มีความพิเศษที่สามารถเร่งเสียงในการอัดและหลังอัดได้ (Gain) รวมถึงลูกเล่นแบบสตูดิโอเช่น echo, reverb หรือจะใส่ distortion ก็ทำได้ สามารถ Upload ไปยัง Cloud ต่าง ๆ ได้ แม้กระทั่งการส่งผ่าน FTP แต่ใน Android นั้น มีความไม่เข้ากัน เกิดปัญหาเสียงซ่า ไฟล์ไม่ครบ ฯลฯ ภายหลังการอัด กับโทรศัพท์บางรุ่นบางยี่ห้อ ขอให้ทดลองก่อนใช้งานจริง ส่วนใน iOS นั้นไม่พบปัญหาใด ๆ
ทั้งหมดนี้คือแอปอัดเสียงที่คัดเลือกตามความหลากหลายที่สามารถนำไปปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ในแต่ละรูปแบบเป็นอย่างดีที่สุด
ภาพประกอบบทความโดย ผู้เขียน
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
เพราะชีวิตย่อมมีตัวช่วย https://www.facebook.com/chalermchaipress/
ความคิดเห็น
