8 วิธี"รักษ์โลก"ที่หลายคนเข้าใจผิด

   คำว่า "รักษ์โลก" เรามักจะได้ยินคำเหล่านี้กันบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาของแบรนด์สินค้าต่างๆ หรือเป็นการรณรงค์จากหน่วยงานต่างๆ แล้วก็จะมีสิ่งที่เหมือนแคมเปญออกมาให้ทำอะไรสักอย่างที่เป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนช่วยประหยัดพลังงานรักธรรมชาติ แต่จะมีใครรู้ว่าในบางสิ่งบางอย่างที่ทำไปก็อาจจะไม่ได้ส่งผลดีต่อโลกมากนักแต่อาจจะกลายเป็นผลเสียต่อโลกเลยก็ได้ โดยสิ่งต่างๆที่เคยทำตามกันมาเหล่านี้ก็อาจจะเกิดจากการที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการสื่อสารหรือแจ้งสารที่ถูกต้องถูกหลักจริง ๆ ให้ผู้คนอื่นได้ทราบว่าอะไรที่ทำแล้วดีอะไรที่ทำแล้วอาจจะเกิดผลเสียมากกว่า แต่ไม่เป็นไรมาทำความเข้าใจใหม่ตอนนี้ก็ยังไม่สาย เราจึงอยากจะนำเสนอข้อเท็จจริงในเรื่องของวิธีการ "รักโลกษ์" ยังไงให้โลกนั้นหันกลับมารักเรา 

8 ข้อเท็จจริงในเรื่องการ "รักษ์โลก"

3. สินค้ารักษ์โลกมีราคาแพง

   โดยส่วนใหญ่แล้วสินค้ารักษ์โลกนั้นจะถูกตั้งราคาแพงอยู่เสมอ เพราะสินค้านั้นเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มมากๆ มีผู้คนไม่มากที่จะเลือกใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อโลกมันเลยทำให้มีสินค้าจำพวกนี้ผลิตมาน้อยเมื่อทำการผลิตน้อยก็จะต้องมีต้นทุนต่อหน่วยที่สูงขึ้นในการผลิต และสินค้าบางอย่างก็เป็นการผลิตด้วยมือเป็นแบบแฮนด์เมดเพื่อลดการใช้ทรัพยากรในการผลิตก็จะยิ่งทำให้ราคาแพงเพราะใช้เวลานานในการผลิตแล้วก็ผลิตได้น้อยชิ้นจึงทำให้ผู้คนทั่วไปไม่เลือกใช้สิ่งเหล่านี้ แต่เอาจริง ๆ แล้วการที่จะช่วยลดภาระของทรัพยากรธรรมชาตินั้นก็ต้องดูว่าสิ่งที่จะซื้อนั้นมันจำเป็นแค่ไหน มันเป็นของที่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้หรือไม่ ต่อให้สินค้านั้นจะบอกว่าเป็นสินค้าช่วยลดโลกร้อนถ้าแต่ยังต้องผลิตเรื่อย ๆ ก็ต้องใช้ทรัพยากรต่าง ๆ อยู่เรื่อยก็เหมือนการทำลายธรรมชาติทางอ้อมเลย ซึ่งจริงๆแล้วการที่จะช่วยลดโลกร้อนนั้นมันก็คือการใช้ของเพียงแค่จำเป็นอะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องมีก็ได้ เพราะการซื้อน้อยใช้ซํ้าก็ถือเป็นการช่วยโลกได้ดีมากๆแล้ว

4. ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ

   ปัจจุบันมีสินค้าที่มีขายในตลาดมากมายที่บอกว่าสินค้าเหล่านั้นมีบรรจุภัณฑ์หรือภาชนะสวมใส่นั้นสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% แต่จริงๆแล้วมันสามารถย่อยสลายได้จริงหรือไม่ ผู้คนส่วนใหญ่ก็มักจะเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ที่บอกว่าย่อยสลายตามธรรมชาติได้ก็คือมันจะสามารถทิ้งลงที่ไหนก็ได้เพราะยังไงเดี๋ยวมันก็จะย่อยไปเอง ซึ่งจริงๆ มันเป็นความคิดที่ผิดมากๆ ถึงพวกมันจะสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติแต่ก็ใช่ว่ามันจะย่อยสลายได้เอง ต้องอาศัยพวกจุลินทรีย์ในธรรมชาติ ภายใต้อุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม ถ้าทิ้งตามสถานที่ทั่วไป ไม่เหมาะสม ก็ไม่สามารถย่อยสลายได้เร็วตามคำเคลม

5. การปล่อยสัตว์กลับสู่ธรรมชาติ

   เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ถูกพบบ่อยมากในสังคมไทยนั้นก็คือการที่จะมีพ่อค้าจับสัตว์ต่าง ๆ มาใส่ถุงเพื่อให้ผู้ใจบุญนั้นซื้อไปปล่อยแล้วก็คิดว่าจะได้บุญ ซึ่งเอาจริงๆแล้วมันคือการทำบาปอย่างชัดเจนเลยเพราะสิ่งต่างๆ ที่เรานั้นปล่อยเขาไปก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเขาจะรอดจากระบบนิเวศแถวนั้นเพราะที่เขาถูกจับมาก็อาจจะไม่ใช่ที่ที่เรากำลังนำเขาไปปล่อยมันก็อาจจะทำให้ทำเขานั้นไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมเหล่านั้นก็อาจจะทำให้เขานั้นไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานไม่ก็อาจจะตกเป็นเหยื่อของสัตว์อื่นในพื้นที่นั้น และมันก็ยังเป็นการสนับสนุนให้เหล่าพ่อค้าทั้งหลายทำการจับสัตว์ต่างๆ มากยิ่งขึ้นเพื่อที่จะนำมาขายให้กับเหล่าผู้ใจบุญแต่ทำบุญผิดวิธีจากการที่จะได้บุญกับได้ทำบาปไปแทน

6. การรีไซเคิล

   เชื่อว่าหลายคนจะคิดว่ายังไงขวดพลาสติกก็สามารถรีไซเคิลได้แน่นอน 100% แต่ความจริงๆแล้วก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเสมอไปเพราะขวดพลาสติกประเภทที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้นั้นจะต้องเป็นขวดพลาสติกที่สะอาดแล้วจึงจะนำไปทำการรีไซเคิลได้มันจึงทำให้พวกขวดพลาสติกที่มีสารอื่น ๆ ปนเปื้อนนั้นจะถูกแยกเป็นขยะทั่วไปทันที เพราะฉะนั้นมันควรจะเริ่มต้นที่ตัวเราเองเราควรที่จะแยกขวดพลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ออกจากขยะอื่น ๆ เพื่อที่จะป้องกันสารปนเปื้อนจากขยะเหล่านั้นจะได้นำพลาสติกนั้นไปทำการรีไซเคิลได้ง่ายยิ่งขึ้น

7. การลอยกระทงขนมปัง

   เป็นอีกหนึ่งความเชื่อว่าจะช่วยลดขยะและช่วยเหลือธรรมชาติ ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ไม่ผิดและไม่ถูกไปซะทั้งหมดเพราะการที่จะลอยกระทงขนมปังนั้นก็จะช่วยให้พวกปลาในนํ้านั้นมีอาหารแต่ก็ใช่ว่าปลาทุกชนิดจะทานขนมปังและใช่ก็ว่าปลาทุกตัวในนํ้าจะกินขนมปังจนหมด การที่เราทุกคนพากันลอยกระทงขนมปังนั้นถ้าหากว่าปลาไม่สามารถกินขนมปังเหล่านั้นได้หมดมันก็จะทำให้ขนมปังเหล่านั้นเน่าเสียจนทำให้แหล่งนํ้าเหล่านั้นเน่าเสียตามไปด้วย พอนํ้าเน่าเสียก็จะทำให้ปลาบางชนิดนั้นตายได้เลยมันจึงกลายเป็นการทำลายระบบนิเวศของปลาเหล่านั้นไป ทางที่ดีนั้นควรที่จะลอยกระทงขนมปังแบบครอบครัวละ 1 กระทงก็เพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องลอยคนละอันหรือเป็นไปได้ก็ลอยกระทงออนไลน์ไปเลย แต่ถ้าอยากจะลอยกระทงเพื่อจะขอบคุณพระแม่นํ้าคงคาก็เลือกลอยเป็นกระทรงนํ้าแข็งไปเลยสามารถย่อยสลายได้แน่นอนและก็แทบจะไม่มีผลเสียต่อระบบนิเวศทางนํ้าเลย

8. สร้างฝายกั้นนํ้า 

   การสร้างฝายกั้นนํ้านั้นมักจะมีจุดประสงค์เพื่อกักเก็บไว้สำหรับป่าที่แห้งแล้งขาดแคลนนํ้าป้องกันไม่ให้นํ้านั้นไหลออกจากป่าไปจนหมด แต่ก็มักจะมีผู้คนจำนวนมากที่จะเลือกสร้างฝายกั้นนํ้าในป่าที่อุดมสมบูรณ์แล้วซึ่งมันเป็นโทษกับป่ามากกว่าประโยชน์เพราะป่าที่อุดมสมบูรณ์นั้นต้องการนํ้าในการหล่อเลี้ยงสิ่งต่างๆภายในป่าไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ สัตว์ป่า และสัตว์นํ้า การที่เรานั้นไปสร้างฝายกั้นในป่าที่สมบูรณ์ดีแล้วนั้นมันเหมือนไปทำลายระบบนิเวศของป่าเลยเพราะจากที่นํ้าจะนำพวกตะกอนต่างๆไหลผ่านป่าออกไปก็ต้องมาติดอยู่ที่ฝายกั้นนํ้า พวกก้อนหินที่จะกลายเป็นที่อาศัยของสัตว์นํ้าบางชนิดก็กลายไปเป็นฝายกั้นนํ้าแทนจึงทำให้ที่อยู่อาศัยของสัตว์นํ้าลดน้อยลง พวกสัตว์นํ้าที่ต้องอาศัยอยู่ในนํ้าที่ไหลแรงก็ไม่สามารถอยู่ได้เพราะนํ้าถูกกั้นไว้ด้วยฝายจึงทำให้นํ้าไม่สามารถไหลไปได้ และเมื่อถึงฤดูกาลวางไข่ของปลา ปลาก็ไม่สามารถไปหาที่วางไข่ได้เพราะมีฝายกั้นอยู่ ฝายกั้นนํ้าที่ถูกสร้างมาไม่ถูกที่ถูกทางจึงกลายเป็นตัวทำลายธรรมชาติไปซะเอง

   หากใครที่รู้ตัวแล้วว่าตัวเองนั้นได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดไปตลอดก็ลองมาปรับปรุงแก้ไขกันใหม่เพราะอย่างน้อยก็ถือว่ามีเจตนาดีแล้วแค่ทำผิดวัตถุประสงค์ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เราสามารถทำให้มันดีขึ้นได้โดยเริ่มจากการบอกกล่าวให้กับผู้คนรอบข้างให้รับรู้ว่าสิ่งใดที่ผิดสิ่งใดที่ถูกต้องควรทำเพราะการรักษ์โลกจริงๆแล้วมันคือการเข้าใจธรรมชาติของโลก โลกของเรานั้นเสื่อมสภาพมากขึ้นทุกๆวัน ถ้าหากเราที่อาศัยอยู่บนโลกยังไม่เข้าใจโลกแล้วโลกจะอยู่ได้ไปได้อีกนานได้ยังไง ส่วนคนที่อาจจะไม่เคยสนใจเลยว่าโลกที่เราอยู่นั้นจะเป็นยังไงก็ให้ลองพิจารณาสิ่งต่างๆ รอบข้างดูว่าธรรมชาติในพื้นที่อยู่อาศัยนั้นมันเริ่มจะเป็นยังไง เสื่อมสภาพไปแค่ไหนแล้ว อย่าลืมไปว่าที่เราอยู่กันได้ทุกวันนี้เพราะมีพลังงานจากธรรมชาติ ร่มเงาช่วยบังแดดจากต้นไม้แล้วก็ยังช่วยดูดซึมคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย และก็ยังรวมไปถึงนํ้าที่เราใช้ดื่มใช้อาบในแต่ละวัน ทุกสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมานั้นมีค่ามากถ้าหากสักวันเราจะต้องสูญเสียธรรมชาติไปมนุยษ์ก็อาจจะไม่สามารถอาศัยอยู่บนโลกได้

ขอบขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบปก : รูปภาพที่ 1 โดย yogendras31 / รูปภาพที่ 2 โดย qimono 

ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบ : รูปภาพที่ 1 โดย KRiemer / รูปภาพที่ 2 โดย Vladvictoria / รูปภาพที่ 3 โดย DanaTentis / รูปภาพที่ 4 โดย aitoff / รูปภาพที่ 5 โดย ivabalk / รูปภาพที่ 6 โดย VIVIANE6276 / รูปภาพที่ 7 โดย ID 1195798 / รูปภาพที่ 8 โดย RyanMcGuire

*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*

ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`

คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkq

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQ

ร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565