ไลฟ์แฮ็ก
Bullet Journal Ep.1: BUJO เคล็ดลับคลายเครียดกับตารางชีวิตที่ออกแบบเองได้

ชีวิตปัจจุบันมีอะไรทำมากมาย จนบางครั้งเรารู้สึกยุ่งจนไม่รู้ว่าจะทำอะไรก่อนหลัง หลายคนคงเคยแก้ปัญหาด้วยการซื้อสมุดแพลนเนอร์ แต่เคยมั๊ยว่า การจะหาสมุดแพลนเนอร์ที่ถูกใจสักเล่มนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย บางเล่มเป็นแบบสำเร็จรูปซึ่งอาจไม่เหมาะกับการใช้งานของเรา หรืออาจจะมีดีไซน์ที่เราไม่ชอบ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อเรามี Bullet Journal
Bullet Journal หรือเรียกสั้นๆ ว่า BUJO คือรูปแบบการจดบันทึกและเก็บข้อมูลส่วนตัวของเรา ถูกคิดค้นขึ้นโดย Ryder Carroll นักเขียนชาวอเมริกัน โดยเขาเชื่อว่าการเขียน BUJO เป็นการใช้ประโยชน์จากวิธี analog เพื่อทำให้รูปแบบการใช้ชีวิตในยุคดิจิตัลง่ายขึ้น ช่วยบันทึกอดีต จัดการปัจจุบันและวางแผนอนาคตได้อย่างเป็นรูปธรรม

หลังจาก 1 ปี ที่ลองเขียน BUJO ประยุกต์จนได้สไตล์ที่ใช่ นอกจากชีวิตจะ productive มากขึ้น ยังทำให้เห็นว่าหากเราจัดการเวลาได้ดี เราจะมีเวลาเหลือไปทำสิ่งอื่นที่สร้างสีสันให้กับชีวิตได้มากมาย อีกทั้งยังค้นพบความชอบของตัวเองโดยบัญเอิญนั่นคือการวาดรูป วันนี้จึงอยากมาแชร์ไอเดียการ set up BUJO สำหรับปี 2020 นี้ว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
Advertisement
Advertisement
ส่วนที่ 1: สมุดเปล่า เราใช้สมุดแบบ Grid Dot ของ Midori notebook (ราคาประมาณ 300-400 บาท) เพราะเนื้อกระดาษดี เขียนลื่น ไม่ซึม ใช้ได้กับปากกาแทบทุกประเภท แม้กระทั่งสีน้ำ แนะนำให้เลือกเล่มที่เราชอบเนื้อกระดาษจริงๆ เพราะเราจะใช้เล่มนี้ไปอีก 1 ปี
ส่วนที่ 2: ภาพรวมของปฏิทินทั้งปี เราแบ่งด้านหนึ่งเป็นวันที่ และอีกด้านไว้สำหรับจดรายละเอียดวันสำคัญต่างๆ ระหว่างปีถ้ามีอะไรอัพเดทเพิ่มเติม ก็จะเอามาบันทึกไว้ตรงนี้ก่อน เพื่อให้เห็นภาพรวมของทั้งปี
ส่วนที่ 3: Goal เป้าหมายทั้งปีที่เราต้องการจะทำ หรือเราคุ้นชินกับคำว่า New Year Resolution ส่วนนี้เราแบ่งเป็นเป้าหมายในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ส่วนนี้สำคัญมากเพราะการเขียนเป้าหมายที่ชัดเจนออกมาเป็นข้อ มีพลังเหมือนมีกฎแห่งแรงดึงดูดคอยช่วย ทุกครั้งที่เราเปิดมาดูจะทำให้เราโฟกัสและหาหนทางเพื่อจะทำเป้าหมายให้สำเร็จ โดยปีที่แล้วที่เราเขียนไว้เป็นจริงได้ 8 ใน 10 ข้อ
Advertisement
Advertisement
ส่วนที่ 4: Mood Tracker ส่วนที่เอาไว้บันทึกอารมณ์แบบรายวัน เราทำแบบเป็นภาพรวมให้เห็นทั้งปี เพราะอยากมาดูสรุปตอนปลายปีได้ง่ายๆ ซึ่งหากใครอยากดีไซน์ออกแบบใหม่ทุกเดือนก็สามารถทำได้เช่นกัน วันไหนรู้สึกอย่างไรก็มาระบายสีตามที่เรารู้สึก ข้อดีของส่วนนี้คือทำให้เราเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับตัวเอง สามารถใส่ quote เอาไว้ปลุกใจตัวเองก็ได้นะคะ
ส่วนที่ 5: Book Tracker ในส่วนนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามอุปนิสัยของแต่ละคน เราเป็นคนชอบอ่านหนังสือ จึงอยากทำบันทึกไว้ว่าทั้งปีอ่านอะไรไปบ้าง มีกองหนังสือที่อ่านแล้ว และมี wish list ที่อยากได้ ส่วนนี้เรียกอีกอย่างว่า Habit Tracker คือเราสามารถ personalize ได้ตามความเฉพาะเจาะจงของแต่ละคน เช่น นอนหลับ 8 ชั่วโมง, ออกกำลังกาย หรือภาพยนตร์ที่ดูไปแล้ว ข้อดีคือถ้าเราออกแบบใหม่ทุกเดือนเราก็สามารถเปลี่ยนการ track นิสัยได้ทุกเดือน แต่สำหรับคนที่ชัดเจนแล้วจะทำแบบทั้งปีเลยก็จะเห็นภาพมากกว่า
Advertisement
Advertisement
ส่วนที่ 6: Monthly BUJO เป็นส่วนที่มีฟอร์แมตชัดเจน แต่เปลี่ยนดีไซน์ตีมไปทุกเดือน จะเริ่มที่การดีไซน์ตีมหน้าปกเพื่อกำหนด mood&tone ของเดือนนั้นๆ ก่อน สำหรับเดือนมกราคมเปิดปีมาเราอยากได้พลังงานความสดใส ซี้ดซ้าดจึงเลือกเป็นตีมเลมอน
หน้าถัดมาจะเป็นตารางเดือนมกราคม มีช่องให้เติมว่าวันไหนต้องไปไหน หรือทำอะไรสำคัญบ้าง รวมถึงกำหนดเรื่องที่ต้องโฟกัสในเดือนนี้เพื่อจะได้วางแผนบรรลุเป้าหมาย และจะมีช่อง Thankful โดยเราจะกลับมาเขียนช่องนี้ในตอนสิ้นเดือนว่าตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมาเราอยากขอบคุณเรื่องดีๆ ในชีวิตอะไรบ้าง 3 อย่าง ตรงนี้จะทำให้เรามีโฟกัสและเป็นคนคิดบวกมากขึ้น

ส่วนสุดท้ายของเดือนจะเป็น To do list แยกรายวัน ซึ่งยังอยู่ภายใต้ตีมเลมอนสีเหลืองสดใส จะวางแผน to do list ไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 อาทิตย์ เขียนไปก่อนว่าต้องทำอะไรบ้าง รู้สึกมีแรงใจเวลาที่ทำอันไหนไปแล้วก็มาเช็คลิสต์ตรงนี้
การดีไซน์ทำได้หลายรูปแบบบางคนอาจใช้สีไม้ ปากกาสีทั่วไปหรือแม้แต่ปากกาดำด้ามเดียวก็ยังได้ ลองดูสักพักจะเริ่มค้นพบความเป็นตัวเราขึ้นมา บางวันก็จะใช้หน้าที่ว่างอยู่วาดรูปลงไปด้วยจนสมุด BUJO โดยหาแรงบันดาลใจจาก Pinterest สำหรับใครที่กำลังหาแรงบันดาลใจอยู่เดี๋ยวเราจะมาทำ 2019 review ตีม BUJO ในแต่ละเดือนใน Bullet Journal Ep.2 นะคะ
ความคิดเห็น






