อื่นๆ
“First Solo” หยาดเหงื่อและน้ำตา สู่การบินเดี่ยวครั้งแรก

ประสบการณ์ในชีวิตของนักบินที่มีความตื่นเต้นและน่าจดจำมากที่สุด ก็คงจะไม่พ้นช่วงที่เริ่มทำการฝึกบิน ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาเรียนในโรงเรียนบินวันแรก การขึ้นบินวันแรก การได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ สังคมใหม่ ๆ แต่ช่วงที่สำคัญที่สุดของการทำการบินก็คือ “First Solo” นั่นเอง
ในวันแรกที่เราได้เริ่มขึ้นบิน เต็มไปด้วยความตื่นเต้นปนไปกับความกลัว ตื่นเต้นที่จะได้ขับเครื่องบินครั้งแรก แต่ก็กลัวว่าจะทำอะไรไม่ได้เลย ในช่วงบ่ายที่อากาศแจ่มใสหลังจากที่ทำการบรีฟกับครูการบินเรียบร้อยแล้ว เมื่อตรวจเช็กเครื่องบินลำน้อยของเราเสร็จแล้วก็ขึ้นไปบนเครื่อง แค่สตาร์ทเครื่องยนต์ก็ทุลักทุเลแล้ว Procedure ต่าง ๆ ที่ (คิดว่า) ท่องมาอย่างดีก็เหมือนจะลอยหายไปพร้อมกับตอนที่ใบพัดเครื่องบินสะบัดขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วไปหมด ทั้งเสียงครู เสียงเครื่องยนต์และเสียงหอบังคับการบินก็อื้ออึงไปหมด การฝึก Takeoff Landing ในไฟล์ทแรกก็ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกตื่นเต้นกลับกลายเป็นความกังวลไปในทันทีว่าเราจะสามารถ “First Solo” ได้มั้ย
Advertisement
Advertisement
“First Solo” คือการบินเดี่ยวหรือบินคนเดียวเป็นครั้งแรกในชีวิตของนักบิน หลังจากที่ทำการฝึกบินโดยมีครูการบินนั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างน้อย 10 ไฟล์ท เมื่อครูการบินยอมรับว่าความสามารถของเราดีพอแล้ว ก็จะให้ทำการบินคนเดียวโดยทำการ Takeoff และ Landing เอง ซึ่ง “First Solo” มีความสำคัญกับนักบินเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นตัวบ่งชี้ความสามารถในการเป็นนักบินได้เลยทีเดียว
การฝึกบินในแต่ละวันก็ผ่านไปเรื่อย ๆ ขั้นตอนการบินหรือ Procedure ต่าง ๆ ก็เริ่มทำได้ดีขึ้น แต่การ Landing ก็ยังคงกระท่อนกระแท่น ยิ่งการฝึกผ่านไปมากขึ้นเท่าไหร่ ความกดดันก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ถ้าไม่สามารถ Takeoff และ Landing ได้ด้วยตัวเอง ครูการบินก็จะไม่ปล่อยให้เราได้ไป First Solo ซึ่งการเก็บตัวฝึกบินในช่วงนี้จะมีเพียงแค่ 15 ไฟล์ทเท่านั้น ถ้าหากไม่สามารถ First Solo ได้ภายในไฟล์ทที่ 15 ก็เหมือนกับเป็นการบอกว่า “เราอาจจะไม่เหมาะกับการเป็นนักบินก็ได้”
Advertisement
Advertisement

แต่ละวันที่ฝึกบินก็มีวันที่ทำได้ดีบ้าง แย่บ้าง ทั้งเหนื่อย ทั้งร้อน หยาดเหงื่อและน้ำตาก็คลุกเคล้ากันไป ทำไมการเป็นนักบินมันถึงได้ยากเย็นขนาดนี้ ฝึกบินไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งเครียด ยิ่งกดดัน ครูก็ทั้งดุ ทั้งปลอบ ปน ๆ กันไป มาถึงไฟล์ทที่ 12 ก็เริ่มทำได้ดีขึ้น ความหวังที่จะได้ First Solo ก็เริ่มมีความหวังมากขึ้นตอนที่ครูมาบอกว่า “ถ้าพรุ่งนี้ทำได้ดีจะให้ปล่อยเดี่ยวได้เลย” ความรู้สึกมั่นใจก็เริ่มมีมากขึ้น หลังจากบินเสร็จก็กลับมาทบทวน Procedure ต่าง ๆ เหมือนเคย

ในไฟล์ที่ 13 ที่เราหมายใจไว้ว่าเราจะต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะได้ First Solo เหมือนกับคนอื่น ๆ เครื่องบินที่ใช้บินก็เป็นเครื่องบินลำเก่งของเราด้วย แต่แล้วเมื่อเจอลมกรรโชกก็กลับทำให้การควบคุมเครื่องบินของเรามันไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ เราไม่สามารถพาเครื่องบินมาลงที่สนามบินได้อย่างสวยงามตามที่เราหวังเอาไว้ จนครูก็ได้เรียกไปคุยว่า ไม่สามารถให้ไป First Solo ได้ ต้องฝึกบินเพิ่มอีกหนึ่งวัน
Advertisement
Advertisement
เมื่อได้ยินตามนั้นก็ทำให้ความเสียใจและผิดหวังมันพรั่งพรูออกมาจนไม่สามารถหยุดน้ำตาที่ไหลออกมาได้ และด้วยความที่เป็นวันที่ใกล้กับวันสุดท้ายที่จะได้ปล่อยเดี่ยวพร้อมกับเพื่อนในรุ่นแล้ว ก็ยิ่งเหมือนเป็นการตอกย้ำอยู่ในใจว่าเรายังดีไม่พอ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ทั้งเสียใจและผิดหวังในตัวเอง เพราะมันเป็นสิ่งที่ “เข้าใจ แต่ทำไม่ได้” ทำได้เพียงแค่รอลุ้นว่าในวันรุ่งขึ้นเราจะตั้งสติได้มากแค่ไหนและจะสามารถทำได้ตามที่ตั้งใจไว้หรือเปล่า
หลังจากนั้นก็มาถึงไฟล์ทที่ 14 ที่จะเป็นตัวตัดสินว่าเราจะได้ First Solo หรือไม่ ครูก็ได้เลือกเครื่องบินลำเก่งลำเดิม พร้อมกับเลือกช่วงเวลาในตอนเช้าที่ลมสงบมาให้เราได้ทำการฝึกบิน วันนั้นครูไม่ดุ ไม่ว่าอะไรเราเลย กลายเป็นว่าเรากลับทำได้ดี สามารถพาเครื่องบินขึ้น-ลงได้อย่างสวยงามจนครูอนุญาตให้ไป First Solo ในวันพรุ่งนี้ได้
ในที่สุดวันแห่งการรอคอยก็ได้มาถึง “First Solo”
วันนี้อากาศแจ่มใส เราได้บินเป็นคนแรกซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพราะลมสงบเหมือนกับวันก่อนหน้า ครูก็ได้เลือกเครื่องบินลำเก่งไว้ให้เราเช่นเคย แต่ก่อนที่จะได้ “First Solo” ก็จะต้องผ่านการเช็กจากครูการบินท่านอื่นก่อน เมื่อทุกอย่างเป็นใจ ได้เครื่องบินลำเก่งพร้อมกับอากาศที่แจ่มใสและเงียบสงบทำให้การฝึกบินในวันนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ครูก็ได้พูดกับเราว่า “First Solo ได้” เมื่อกลับมาที่สนามบินก็ได้ขับเครื่องบินไปส่งครูที่ลานจอด เสียงปิดประตูเครื่องบินก็เหมือนเป็นสัญญาณว่า “เราจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวของเราเองแล้ว”

และแล้ว “First Solo” ก็มาถึงต่อจากนี้จะเป็นความสามารถของเราเองล้วน ๆ ไม่มีครูมาคอยช่วยเราเหมือนอย่างที่ผ่านมา จังหวะที่รอขึ้นไปตั้งตัวบนรันเวย์เพื่อเตรียมพร้อมจะ Takeoff ใจก็เต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็พยายามที่จะหายใจเข้าออกให้ลึกที่สุดเพื่อตั้งสติ สิ่งที่เราตั้งใจและฝึกฝนมาตลอดก็ช่วยให้เราไม่สติหลุดไปพร้อมกับใบพัดเครื่องบินเหมือนกับวันแรกแล้ว เมื่อได้รับคำสั่งจากหอบังคับการบินเราก็ขึ้นไปรอบนรันเวย์ด้วยความตื่นเต้น
“Cleared for Takeoff” เมื่อได้รับคำสั่งให้ขึ้นบินจากหอบังคับการบิน เราก็ไม่รอช้า เร่งเครื่องไปด้วยกำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ เครื่องบินก็เร่งความเร็วขึ้นไปจนเครื่องบินค่อย ๆ ลอยขึ้นจากพื้นด้วยมือของเราเอง หลังจากล้อเครื่องบินพ้นจากพื้นมันก็เป็นความรู้สึกที่ฟินอย่างบอกไม่ถูก เราพาเครื่องบินขึ้นมาบนฟ้าได้ด้วยตัวเองแล้วจริง ๆ
ระหว่างที่เครื่องลอยอยู่บนฟ้าก็ทำให้เรารู้สึกได้ถึงอิสระที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ลมที่พัดผ่านเข้ามาก็เย็นสบายจนทำให้รู้สึกโล่งและตัวเบาขึ้นมาทันที แต่ผ่านไปไม่นานก็ถึงเวลาที่เรากลัวที่สุด นั่นก็คือการ Landing ที่ทำให้เรารู้สึกกังวลใจมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าจะรู้สึกกังวลใจไปบ้างแต่เราก็บอกกับตัวเองไว้ว่า เราจะต้องพาเครื่องบินลงไปที่พื้นได้แน่ ๆ
“Cleared to Land” เมื่อได้รับคำสั่งจากหอบังคับการบินก็ทำให้เราใจเต้นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และมองไปที่รันเวย์ด้วยความแน่วแน่พร้อมกับสูดหายใจอย่างแรงเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง สุดท้ายเราก็พาเครื่องบินลำน้อยมาแตะพื้นสนามบินได้อย่างสวยงาม “ในที่สุดเราก็ทำได้” ความตื่นเต้นในตอนนั้นมันก็หายไปจนหมดสิ้น กลายเป็นความมั่นใจในการทำการบิน และเป็นความภูมิใจเล็ก ๆ ของเด็กที่เพิ่งเริ่มฝึกบินคนหนึ่ง

“First Solo” นั้นมีความหมายกับเด็กคนหนึ่งมากจริง ๆ เพราะมันเหมือนเป็นผลตอบแทนของความพยายามและความมุ่งมั่น ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นแต่นั่นก็เป็นประตูไปสู่หนทางแห่งความฝันที่รอคอยเราอยู่ หลังจากนี้ก็จะเป็นการเริ่มต้นบินเดินทางไปยังสนามบินอื่น ซึ่งก็ยังคงเป็นเส้นทางอีกยาวไกลกว่าจะไปถึงเป้าหมายนั่นก็คือ การเป็น”นักบินแอร์ไลน์” นั่นเอง
ความคิดเห็น






