Forza300 ไม่แรง แต่มีอะไรเจ๋ง?!

111

Chloe in Cosmo

10 มิ.ย. 2020|2 min read

อ่านบทความอื่นจาก Chloe in Cosmo

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

Bigbike หลบไป เพราะ Big Scooter กำลังมา! ถ้าหากคุณผู้อ่านอยู่ในวงการรถมอเตอร์ไซค์ หรือติดตามข่าวสารของวงการ 2 ล้อนี้อยู่ละก็ ต้องบอกเลยว่า กระแสของรถบิ๊กสกู๊ดเตอร์ในคลาส 300 ซีซี ในช่วงปีนี้กำลังมาแรง แข่งขันกันอย่างจัดเต็มระหว่างค่าย Honda Forza 300 และ Yamaha Xmax 300 หลายๆคนก็ต่างแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากระหว่างรถทั้ง 2 รุ่นนี้ โดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนเองเป็นหนึ่งในผู้ขับขี่รถสกู๊ดเตอร์รุ่น Honda Forza 300 จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์จากการใช้จริงให้ผู้ที่กำลังศึกษาหาข้อมูลรถเพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจนะครับ

Forza and V-Strom ก่อนจะเข้าเนื้อหาเกี่ยวกับรถ ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านเข้าใจเกี่ยวกับรถรุ่นนี้สักหน่อย ต้องเข้าใจกันก่อนว่า Honda Forza 300 คือรถประเภท Big Scooter ที่เน้นออกไปในแนวเดินทางไกล ท่องเที่ยว หรือที่เรียกๆกันในวงการว่า “ทัวร์ริ่ง” ซะมากกว่าการเอามา “ขี่ซิ่ง วิ่งมิดไมล์” ดังนั้น รถรุ่นนี้จึงไม่แรงสำหรับสายซิ่ง แต่ถ้าคุณเป็นสายทัวร์ริ่ง วิ่งชิลล์ๆตามที่กฏหมายกำหนด คันนี้ถือว่าเป็นรถที่น่าสนใจคันหนึ่งครับ

Forza300 Touring จุดเด่นอย่างแรกเลย นั่นก็คือ ชิวด์บังลมไฟฟ้าที่สามารถปรับระดับได้ ซึ่งถ้าหากไปสำรวจตลาดปัจจุบันจะพบว่า แทบจะไม่มีรถรุ่นไหนให้ชิวด์ที่สามารถปรับระดับได้แบบ Forza 300 มาเลย จะมีอีกทีต้องเป็นรถ Bigbike รุ่นใหญ่ ราคาแพงๆเท่านั้นถึงจะมีมาให้นั่นเอง แล้วชิวด์สำคัญยังไง? ชิวด์จะช่วยกันแมลง เศษหิน ดิน ทราย จนไปถึงลมที่มาปะทะร่างกายเพื่อลดความเหนื่อยล้าได้ และยิ่งได้เปรียบสำหรับผู้ที่ใช้ Forza300 ขับขี่ในเมืองก็คือ “ไม่ร้อน” เนื่องจากสามารถลดชิวด์บังลมให้ต่ำ และให้ลมปะทะร่างกายได้ ซึ่งรถรุ่นอื่นอาจจะต้องหาของแต่ง หรือใช้อุปกรณ์ในการปรับ ซึ่งจะยุ่งยากกว่านั่นเอง

Wind Shield ปลอดภัยไปอีกระดับกับกระจกมองข้างที่เหมือนกับรถยนต์ และสามารถพับได้เมื่อคุณต้องการขับขี่ในพื้นที่ที่มีการจราจรติดขัด ตัวผู้เขียนเองก็การันตีเลยว่า นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่ผู้เขียนตัดสินใจซื้อรถรุ่นมาใช้ เนื่องจากเดินทางไกล ออกต่างจังหวัดบ่อย และแน่นอนว่ากระจกมองหลังคือสิ่งที่สำคัญมากไม่แพ้กับหมวกกันน็อคหรือถุงมือเลย ซึ่งเวลาจะเร่งแซงเปลี่ยนเลน กระจกแบบนี้ทำให้เห็นทัศนวิสัยด้านหลังได้ชัดเจนและกว้างกว่ากระจกรถทั่วๆไปนั่นเอง

Mirror wing เรือนไมล์ที่ดูง่าย และสบายตาในตอนกลางคืนกับสี Dark Blue เรือนไมล์ของ Forza 300 นั้นมีฟังก์ชั่นที่สามารถบอกเกจ์วัดน้ำมัน ความร้อนเครื่องยนต์ ทริป (A และ B) นาฬิกา อัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย และแบบเรียลไทม์ ระยะเวลาที่ใช้เดินทางจริง ระยะกิโลเมตรที่ใช้ไป แบตเตอรี่ อุณหภูมิในปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถแจ้งระยะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ระยะที่ต้องนำรถเข้าศูนย์เช็ค และบอกระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ต่อน้ำมันที่เหลือในถัง และมาพร้อมกับเรือนไมล์วัดความเร็ว และรอบเครื่องยนต์ ซึ่งต้องบอกเลยว่า “ครบครันในคันเดียว”

Speed meter of Forza300 ช่องเก็บของด้านหน้าขนาดใหญ่ ใส่ขวดเบียร์เข้าไปก็ยังได้! อีกทั้งยังมีช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จแบตโทรศัพท์อีกด้วย ไม่ว่าทริปไหน ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องแบตหมด โทรศัพท์เปิด GPS ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว แต่ต้องหาซื้อตัวต่อกับที่จุดบุหรี่มาต่อก่อนนะครับถึงจะใช้งานได้

Front Box Forza300 ช่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบได้ถึง 2 ใบถ้าหากคุณไม่ใส่หมวกกันน็อค มันก็ใหญ่พอที่บรรจุเสื้อผ้า ของใช้จำเป็นๆ และพอดีของทั้งผู้ขี่และผู้ซ้อนสำหรับเที่ยวได้ประมาณ 5-7 วันได้อย่างสบายๆ

Forza300 Ubox ระบบความปลอดภัย เบรก ABS ปัจจุบันถือว่าเริ่มเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับรถในยุคปัจจุบัน ซึ่งระบบเบรกนั้นจะช่วยทำให้ล้อไม่ล็อคจากการเบรคกระทัน ลดอาการลื่น ปัดขณะเบรกแรงๆนั่นเอง และห้ามล้อหมุนฟรีไปกับระบบห้ามล้ออย่าง Traction Control ที่มีจะช่วยตัดรอบการทำงานของเครื่องยนต์ เพื่อให้ล้อหน้าและล้อหลังเคลื่อนที่ได้สอดคล้องกันเมื่อเจอพื้นลื่น พื้นเปียก หรือพื้นที่ที่มีน้ำขัง ซึ่งระบบนี้ถือว่าจำเป็น และสามารถรับมือกับถนนในประเทศไทยของเราได้เป็นอย่างดี
ABS

และท้ายที่สุดที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดก็คือ อะไหล่ถูก และไม่ต้องห่วงเรื่องศูนย์บริการ ตัวอย่างเช่นการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ยี่ห้อในศุนย์ฮอนด้าไม่ถึงหนึ่งพันบาท สายพานไม่เกินสองพันบาท ซึ่งถือว่าประหยัดมากเมื่อเทียบกับรถ Bigbike

Honda Service ภาพทั้งหมด : ถ่ายเองจากผู้เขียน