How To เลิกขี้เกียจ?

156

NoLedgeness

27 ก.ค. 2021|2 min read

อ่านบทความอื่นจาก NoLedgeness

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

ทุกคนคงเคย “ขี้เกียจ” กันสินะครับ ขี้เกียจก็คือ การที่เราไม่อยากทำนั่นเอง เช่น ขี้เกียจทำงาน ขี้เกียจทำการบ้าน ขี้เกียจนู่นนี่นั่น จนสุดท้ายก็ทำให้มันไม่ประสบความสำเร็จ หรือว่าบางทีก็จะบอกกับตัวเองว่า “ขี้เกียจ ไว้ทำพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” แล้ววันต่อมาก็บอกอย่างนี้เช่นเคย คิดอย่างนี้อยู่ทุกวันๆ จนสุดท้ายก็ไร้ความคืบหน้า หรือที่เรียกกันว่า “ผัดวันประกันพรุ่ง” และความขี้เกียจนั้น ถ้าถามว่าเกิดจากอะไร คำตอบก็คือ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความอ่อนเพลีย ความเหนื่อยล้า แล้วถ้าเราประสบปัญหานี้ขึ้นมาจะทำอย่างไรดี วันนี้เราจึงขอนำเสนอ

5 วิธีเอาตัวรอดเมื่อ “ขี้เกียจ”

1.To-Do List

To-Do List มาจากคำว่า To do แปลว่า ที่จะทำ และ List ที่แปลว่ารายการ รวมกันเป็น “รายการสิ่งที่จะทำ” หรือก็คือการแพลนตัวเองว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง ตื่นกี่โมง จากนั้นไปอาบน้ำกี่โมง อาหารเช้ากี่โมง เป็นการแพลนเอาไว้ และเมื่อแพลนเอาไว้แล้ว ก็ต้องทำให้สิ่งที่แพลนเอาไว้นั้นเป็นจริง โดยการทำจริงๆ ตามเวลาที่แพลนเอาไว้ อาจจะทำก่อนเวลาที่แพลนไว้หรือทำหลังจากเวลาที่แพลนไว้เล็กน้อยก็ได้ ถ้าหากว่าเวลาที่แพลนเอาไว้ในตอนแรกคลาดเคลื่อนซึ่งอย่างตัวผมในช่วงแรกๆ ก็จะทำตรงบ้างไม่ตรงบ้าง ขี้เกียจบ้าง ค่อยๆ ฝึกกันไปทีละนิดละหน่อย จนติดเป็นนิสัย

2.Wake Up Early

Wake Up Early แปลว่า ตื่นเช้า หรือในที่นี้ก็จะหมายถึงว่า “พยายามตื่นให้เช้า” จากที่บอกข้างต้นว่าความขี้เกียจสามารถเกิดขึ้นได้จากการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นเราก็จะต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งเวลานอนที่เหมาะสมของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ซึ่งก็จะเป็นไปตามตารางด้านบน และนั่นหมายความว่าการนอน 6-8 ชม.จะดีที่สุด ที่เคยเรียนกันมานั้น เป็นความคิดที่ผิด และพยายามนอนไม่ให้ดึกมากเกินไป ถึงแม้ว่าระยะเวลานอนจะพอดี แต่ถ้าเวลาที่นอนไม่พอดีก็จะส่งผลต่อความขึ้นเกียจได้ เช่น ถ้าเราต้องนอน 7-9 ชม. แล้วนอนตอนตี 4 ตื่นตอนเที่ยงก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาความขี้เกียจได้ ยกตัวอย่างเช่นตัวผมเองก็จะนอนประมาณ 23.30 แล้วตื่นประมาณ 7.30 เท่ากับว่านอนประมาณ 8 ชม.

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : safeheartgtoup.com

3.Bath First

Bath First แปลว่า อาบน้ำก่อน หรือในที่นี้ก็จะหมายถึงว่า “อาบน้ำเป็นอย่างแรกหลังจากตื่น” คนส่วนใหญ่เมื่อตื่นนอนสิ่งแรกที่จะทำก็คือ หยิบโทรศัพท์ที่ชาร์จไว้ที่หัวเตียง แล้วเล่นโซเชียลมีเดีย เช็คว่ามีอะไรอัปเดตบ้างเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ควรทำนั้นไม่ใช่ สิ่งที่ควรทำก็คือ อาบน้ำ เพราะการอาบน้ำเหมือนว่าเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ เพราะหลังจากอาบน้ำแล้วเราก็จะรู้สึกสดชื่น อยากทำงาน กระปรี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้น อันนี้ผมก็ทำเหมือนกัน ช่วงแรกรู้สึกฝืนๆ หน่อย

4.Do Something

Do Something หมายถึง ทำบางอย่าง หรือในที่นี้ก็จะหมายถึงว่า “หาอะไรทำสักอย่าง” ควรจะเป็นสิ่งเล็กสักนิดสักหน่อย แล้วก็จะมีอะไรที่ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เช่น เช็ดโต๊ะ แล้วเห็นว่าของที่วางดูรกจึงจัดต่อไปเรื่อยๆ พอทำไปก็จะรู้สึกขยันขึ้น ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยคุณได้

5.Relax

Relax แปลว่า ผ่อนคลาย ก็หมายถึงว่า “ผ่อนคลายตัวเองสักนิด” หาอะไรทำเพื่อผ่อนคลาย เช่น ทำงานอยู่ และถ้าเกิดว่างานนั้นเป็นงานที่ไม่ต้องใช้สมาธิมากก็จะเปิดเพลงหรือเปิดฟังพอดแคสต์ที่ชอบไว้ ฟังให้ผ่อนคลาย ซึ่งวิธีนี้ก็เป็นวิธีหนึ่งผมเองก็ใช้ เวลานั่งเขียนบทความ ก็จะตั้งใจเขียน แล้วพอต้องหารูปภาพ หรือตัดต่อรูปภาพ หรือตอนที่กำลังจัดหน้าบทความ ก็จะฟังเพลงไปด้วย