อื่นๆ
iPad air 4 ทำอะไรได้บ้าง ซื้อแล้วคุ้มไหม?

แล้ว Apple ก็ออก iPad mini รุ่นที่ 6 กับโฉมดีไซน์ใหม่ ที่ออกแบบมาให้เหมือนกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPad Air และ iPad Pro มีการลดความหนาของจอทั้งสี่ด้าน และเปลี่ยนเซ็นเซอร์ Touch ID มาติดไว้กับปุ่ม Power แทน แต่เราจะไม่ได้มารีวิวการใช้ iPad mini แต่เพราะข่าวการออกมาของเขาทำให้เราคิดได้ว่า เรายังไม่เคยรีวิว iPad air 4 ที่ใช้อยู่เป็นประจำเลย เราก็เลยจะมารีวิวหลังจากใช้งานมาแล้ว 5 เดือนกันจ้า
ข้อมูลเครื่อง ( สเปก)
ดีไซน์หน้าจอกว้าง ขนาดเครื่องบาง น้ำหนักเบา พกพาสะดวก มาพร้อมจอภาพ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 1640 x 2360 พิกเซล
ปลดล็อกด้วย Touch ID เพียงแค่แตะก็ปลดล็อกได้อย่างง่ายได้ ที่สำคัญปลอดภัยเพราะเป็นระบบเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ คนอื่นแอบปลดล็อกมาแอบเช็กเฟซบุ๊กไม่ได้แน่นอน แต่ก็สามารถใส่รหัสป้องกันเวลาระบบเซ็นเซอร์ Error ได้เช่นกัน
ชิปเครื่อง ใช้ A14 Bionic ( 5nm ) เป็นชิปที่ล้ำหน้าที่สุด ( ตามคำเคลมของ Apple )
- มีหน่วยความจำ 64GB. และเป็นระบบ iPadOS 14.
- ความละเอียดกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ - mAh (28.6 Wh)
- ลำโพงคู่สเตอริโอ แต่ไม่มีช่องเสียบหูฟัง
- รองรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 , Bluetooth 5.0 และ USB ( Type-C )
- รองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2)
- สี : มี 5 สี คือสกายบลู, เขียว, โรสโกลด์, เงิน และเทาสเปซเกรย์
Advertisement
Advertisement

iPad air 4 ทำอะไรได้บ้าง
สำหรับ ipad air 4 2020 ที่มีหลาย ๆ เสียงบอกว่าเกือบจะเทียบเท่า ipad Pro นั้น จริงเท็จแค่ไหนผู้เขียนก็มิอาจตอบชัด ๆ ได้ แต่ที่แน่ ๆ ความละเอียดหน้าจอต่างกับโปรแน่ ๆ รวมถึงระบบเสียงด้วย หากใครที่ทำงานด้านสื่อแบบขั้นสุด ทั้งตัดต่อและทำกราฟิกแบบหนัก ๆ ตัวโปรก็ตอบโจทย์กว่า ส่วนผู้เริ่มต้น หรืออาจจะยังไม่ทำแบบจัดหนักจัดเต็มขนาดนั้นก็หันมาลองใช้ iPad air 4 ก่อนก็ได้
จากประสบการณ์ที่ใช้มา ระบบเสียงดีมาก ต้องบอกก่อนว่าตัวนี้จะเป็นลำโพงคู่สเตอริโอ ก็คือมี 2 ลำโพง แต่ถ้าเป็นตัวโปรจะ 4 ลำโพงกันเลยทีเดียว ซึ่งมาแค่ 2 ลำโพงนี่เสียงก็แจ่มชัด ฟังหนัก ๆ แน่น ๆ ได้อารมณ์แล้ว หลัก ๆ แล้ว iPad air 4 จะทำได้เกือบทั้งหมด สายครีเอทต้องมี เป็นเสมือนครีเอทีฟสตูดิโอแบบพกพาของคุณเลยก็ว่าได้ ด้วยความละเอียดหน้าจอมีมากขึ้น การทำงานจึงตอบโจทย์งานกราฟิก งานวาด รวมถึงการตัดต่อวิดีโอ ค่าสีสมจริง งานสวยได้ตรงตามสีที่ต้องการใช้ หมดปัญหาตอนวาดสีหนึ่ง เซฟงานออกไปดูจออื่น หรือปริ้นออกมาแล้วสีเพี้ยนไปจากที่วาดไว้
Advertisement
Advertisement
และประสิทธิภาพ CPU เร็วขึ้น 40% กราฟิกเร็วขึ้น 30% จึงทำให้ไม่ว่าจะเขียนโน้ตหรือวาดรูป ปากกาลื่นไหลไปตามไอเดียความคิด ไม่มีหน่วงหรือสะดุดเลย สายวาดเหมาะมาก วาดงานลงสีออกมารวดเร็วทันใจ ให้ความรู้สึกเหมือนวาดในงานกระดาษ สำหรับคนที่เน้นงานวาด แนะนำให้เลือกติดฟิล์มกระดาษ เพื่อให้งานวาดรูปลื่นไหลได้เยี่ยมยิ่งขึ้น
ทางด้านงานวิดีโอก็ไม่ได้น้อยหน้างานด้านอื่นค่ะ สามารถนำไอแพดถ่ายงานเลยก็ได้นะคะ นิ่งมาก ถ่ายทั้ง ๆ ที่เดินยังลดการสั่นไหวได้ดีมาก ๆ กล้องหลังนั้นสามารถถ่ายวิดีโอได้ละเอียดได้จนถึง 4K@24/30/60fps ส่วนกล้องหน้าจะได้ประมาณ 1080p@30/60fps
ส่วนเรื่องการตัดต่อ โอ้โหส่วนนี้เลิศมาก ไม่ต้องย้ายไฟล์ไปตัดต่อในคอมก็ได้ แอปพลิเคชันตัดต่อบนไอแพดเจ๋ง ๆ เพียบเลยค่ะ ถ้าให้แนะนำ ขอแนะนำเป็น VLLO ลูกเล่นเยอะ ตัดดีใช้งานง่าย ถ้าอยากดูตัวอย่างคลิปที่ตัดบนไอแพดด้วย VLLO สามารถคลิกดู >ตัวอย่าง< ได้เลย
Advertisement
Advertisement

ถัดมาที่ความบันเทิงบ้าง เรื่องการเล่นเกมนี่ก็ดีอีกแล้ว เพราะความละเอียดหน้าจอดีแหละนะ เกมแต่ละเกมเลยภาพสวยมาก และเล่นได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด ส่วนการดูหนังดูอนิเมะนั้น ก็อย่างที่บอกไปตั้งแต่ย่อหน้าแรก เพราะเป็นลำโพงคู่สเตอริโอไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม สนุกได้ยินชัดสะใจแน่นอน สำหรับคนที่ติดหูฟัง แม้ว่าเขาจะไม่มีช่องเสียบหูฟัง แต่เราสามารถซื้อหูฟังบลูทูธมาใช้ได้ค่ะ แต่ราคาก็สูงขึ้นมากว่าหูฟังแบบมีสายล่ะนะ


ราคาเท่าไหร่ ในกล่องมีอะไรให้บ้าง
- สำหรับราคาก็จะแบ่งตามความจุ และประเภทเครื่อง ดังนี้
- ipad air 4 : Wi-Fi 64GB ราคา 19,900 บาท
- ipad air 4 : Wi-Fi 256GB ราคา 24,900 บาท
- ipad air 4 : Wi-Fi + Cellular 64GB ราคา 24,400 บาท
- ipad air 4 : Wi-Fi + Cellular 256GB ราคา 29,400 บาท
- ในกล่องจะมีแค่ตัวไอแพด ที่ชาร์จแบตเตอรี่ คู่มือการใช้งาน และสติกเกอร์โลโก้แอปเปิลเท่านั้น หูฟังและปากกาต้องซื้อแยก รวมถึงการติดฟิล์มด้วยเช่นกัน
- ปากกาจะใช้ Apple Pencil หรือของแบรนด์อื่นก็ได้ แต่ส่วนตัวว่าปากกา Apple Pencil ดีสุด แต่ตอนนี้ใช้ของแบรนด์อื่นอยู่ ก็ใช้ได้นะคะ แต่ไม่ดีเท่า Apple Pencil ก็แล้วแต่งบของแต่ละคนด้วย หาที่ใช่และกระเป๋าเงินไหวเป็นพอค่ะ
คำถามยอดฮิต : ซื้อรุ่นไหนดี?
อันนี้ต่อให้เป็นกูรูหรือสาวกแอปเปิลบางทีก็ตอบให้ยากค่ะ เพราะว่ามันต้องดูการใช้งานของผู้ซื้อ ถ้ามีข้อจำกัดเรื่องงบ และจะใช้แค่ดูหนัง ฟังเพลง จดโน้ตนิดหน่อย จริง ๆ แค่ ipad mini ก็ได้แล้ว แต่ตัวใหม่ ipad mini 6 ที่ออกมานั้นสวยและสเปกเด่นเตะตาไม่แพ้ iPad air 4 เลยค่ะ ส่วนรุ่น pro และ air นั้นก็ต้องบอกว่าแตกต่างกันนิดเดียวคือ ลำโพง กับความละเอียดหน้าจอ ถ้าประเมินแล้วว่าเนื้องานของตัวเองไปทางกราฟิกจ้า ๆ ตัดต่อเน้น ๆ งบไหวก็เลือก pro ไปเลยก็ได้ค่ะ แต่ถ้างบไม่ไหว หรืองานยังไม่หนักขนาดนั้น ก็สามารถเซฟงบด้วยการเลือกเป็น iPad air 4 แทนก็ได้ค่ะ
นี่ก็เป็นการรีวิวจากการใช้งานจริงที่ผ่านมาแล้ว 5 เดือน ณ ตอนนี้เครื่องก็ยังปกติ ไม่มีเอ๋อ ค้าง หรือติดขัดตรงไหนเลย และเป็นเครื่องมือช่วยทำมาหากินได้มาก ๆ ด้วย อิอิ สุดท้ายหากรู้สึกชอบบทความนี้ก็แชร์ออกไปได้เลยนะคะ และถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของเรา ก็สามารถติดตามได้ที่
- facebook (ท่องเที่ยว) : แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อย
- facebook (Art&Anime) : Artinime
- YouTube : I Tell You Try
- twitter : Artinime
เรียบเรียงและถ่ายภาพโดย : หญิงเถื่อน
#ipadair4 #ipad2020 #ipadmini6 #Appleipados #ไอแพดแอร์4 #ไอแพด2020
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- - รีวิวเกม Totally Reliable Delivery เกมจำลองคนส่งของจอมเปิ่นสุดฮา
- - รีวิวเกม Ragnarok X: Next Generation สนุก ภาพสวย ไม่ลองคือพลาด
- - รู้ยัง!! เปลี่ยนแถบ ( youtube progress bar )เล่นวิดีโอยูทูปธรรมดา ๆ ให้น่ารักได้อย่างไร
- - กุ้งเผาที่ไม่ต้องเผา ทำกุ้งเผาง่าย ๆ ด้วย เตาไฟฟ้า 3 IN 1 อบ-ปิ้ง-ย่าง
- - Jujutsu kaisen กับ 5 ตัวละครหญิงผู้ใช้คุณไสยสุดเท่ ในมหาเวทย์ผนึกมาร
- - เจาะลึกสกิลของริมุรุ เกิดใหม่ทั้งทีก็กลายเป็นสไลม์ไปซะแล้ว สกิลไหนเทพสุด?
- - รีวิวคาเฟ่ อากาศ R-gard cafe สุพรรณบุรี สวยจนต้องไปเช็กอิน
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
หลักๆ จะเน้นรีวิวอนิเมะ แต่ก็มีเรื่องเที่ยวปนๆ ด้วย มาตามกันได้นะคะ
ความคิดเห็น






