อื่นๆ
Logistic ในไทย: 5 ขนส่งที่มีบทบาทต่อคนไทยในปัจจุบัน
ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นสังคมไทยหรือทั่วโลก มีแนวโน้มที่จะซื้อของออนไลน์กันเพิ่มมากขึ้นในทุกวันเนื่องจากสะดวก ถูก ง่าย และปลอดภัยไม่ซับซ้อนทำให้เกิดบริษัท Logistic ใหม่ๆขึ้นมา เรามาดู 5 บริษัท ที่กำลังเข้ามามีอิทธิพลต่อสังคมไทยในปัจจุบันกันดีกว่าว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง
1.ไปรษณีย์ไทย บริษัทขนส่งของภาครัฐที่อยู่อยู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานและมีสาขาครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย มีสาขากว่า 177 สาขา ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณกว่า 50% ระบบ EMS ของไปรษณีย์ไทยมีความรวดเร็วแม่นยำหากส่งก่อน 11.00 น. ถึงปลายทางภายในวันเดียวกัน พื้นที่ในจังหวัดเดียวกัน ส่วนพื้นที่ปลายทางอื่นก็ใช้เวลา 2-3 วันที่สำคัญการจัดส่งของไปรษณีย์ไทยมีความแม่นยำไม่ต้องโทรศัพท์ถามที่อยู่ของผู้รับ เนื่องจากมีการความเชี่ยวชาญในการจัดส่งเอกสารเป็นประจำอยู่แล้ว ราคาคิดตามน้ำหนัก ไม่เกิน 20 กรัม เริ่มต้นที่ 32 บาท ทั่วประเทศโดยรับฝากสูงสุดไม่เกิน 20 กิโลกรัม
Advertisement
Advertisement
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://m.facebook.com/thailandpost.co.th/
2.Kerry Express บริษัท Logistic ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีสาขาที่ให้บริการกว่า 300 สาขา ขอบคุงพื้นที่ประเทศไทยกว่า 99.99% การจัดส่งจะใช้ระยะเวลา 2-3 วัน ค่าบริการคิดตามน้ำหนักและระยะทาง ราคาไม่เกิน 1 kg. กรุงเทพ 30-35 บาท ต่างจังหวัด 45/50 บาท Kerry เนื่องจากสาขาที่ให้บริการมีมากกว่า 300 สาขา จึงสะดวกในการนำทางไปฝาก ที่สำคัญ Kerry ยังมีบริการรับถึงบ้านผู้ส่งอีกด้วย เรียกได้ว่าสะดวกมาก แต่เนื่องจากผู้ส่งของKerry ยังไม่ชำนาญมานักจึงยังต้องโทรถามทางกับผู้ส่ง-ผู้รับอยู่
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://m.facebook.com/KerryExpressThailand/
3.J&T Express บริษัทสัญชาติฮ่องกง ซึ่งเข้ามาตีตลาดในไทย มีการตั้งสาขากว่า 300 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศไทยโดยมีการปรับราคาเริ่มต้นที่ 19 บาท เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาด ในช่วงแรกระบบการของส่งของ J&T Express ค่อนข้างช้ามากแต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาจนขนส่งได้ตามระยะเวลาที่กำหนด แต่อาจจะช้ากว่าไปรษณีย์ไทยและ Kerry เล็กน้อย ใครไม่รีบร้อนก็สามารถเลือกบริษัทนี้ได้เพื่อค่าขนส่งที่ประหยัดกว่า แต่ก็ยังไม่เชี่ยวชาญเหมือนไปรษณีย์ไทยต้องโทรถามทางกับผู้รับเช่นกัน
Advertisement
Advertisement
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://m.facebook.com/jntexpressthailandHQ/
4.Best Express บริษัทขนส่งจากประเทศจีนที่มีสาขาในไทยถึง 544 สาขาทั่วประเทศ ถ้าของส่งเริ่มต้นที่ 30 บาท โดยคิดค่าขนส่งตามระยะทางและน้ำหนักโดย Best Express มีบริการรับส่งถึงบ้าน ซึ่งสะดวกมากทั้งนี้ เนื่องจากความครอบคลุมของสาขาและราคาค่าจัดส่งที่ถูกและยังมีบริการรับฝากถึงบ้าน ทำให้ บริษัทนี้เริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทย แต่ก็ยังไม่มีความชำนาญด้านการจัดส่งต้องโทรถามทางเหมือนกัน แต่ก็ยังส่งช้ากว่า Kerry และ ไปรษณีย์ไทย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://m.facebook.com/BESTExpressThailand/
5.DHL Express ซึ่งเป็นบริการขนส่งด่วนและบริการขนส่งระหว่างประเทศ ค่าบริการจะค่อนข้างสูง แต่จัดส่งได้รวดเร็วโดยจะเน้นการขนส่งระหว่างประเทศเป็นหลัก DHL Express เป็นผู้นำบริการด้านขนส่งด่วนระหว่างประเทศ มีประมาณ37 สาขาทั่วประเทศ โดยคนที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัดจะหาสาขาที่มีบริการยากหน่อย โดยใช้เวลาประมาณ 2-7 วันทำการ เหมาะสำหรับการขนส่งไปต่างประเทศแบบด่วน ค่าขนส่งขึ้นตามระยะทาง
Advertisement
Advertisement
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://m.facebook.com/DHLExpressThailand.iExpressByDHL/
เราเองก็เป็นคนนึงที่สั่งซื้อของออนไลน์เยอะมากจนทำให้ทราบข้อดีข้อเสียของแต่ละบริษัท ซึ่งเราเคยใช้ทุกบริษัทเพราะว่าแต่ละบริษัทจะมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน สามารถสรุปสั้นๆได้ดังนี้ ถ้าเราต้องการความสะดวกรวดเร็วเรามักจะเลือก Kerry หรือไปรษณีย์ไทยแบบ EMS ซึ่งจะส่งได้รวดเร็วภายใน 1-2 วันแต่ราคาจะสูงกว่าบริษัทอื่น อีก 2 บริษัทที่เหลือเราจะสั่งสลับกันไปแล้วแต่ความครอบคลุมของพื้นที่ที่เราจะสั่งซื้อหรือจัดส่งสินค้า เหมาะสำหรับสินค้าที่เราไม่ได้รีบใช้เพราะราคาถูกมาก แต่จัดส่งช้ากว่า 2 บริษัทข้างต้น
ความคิดเห็น
