อื่นๆ
mebmarket บ้านหลังใหม่

internet
เมื่อการมาถึงของ internet ทำให้การติดต่อสื่อสารที่ไร้ขอบเขต หรือ อาจกล่าวได้ว่า สังคมออนไลน์ไร้พรมแดนจริง ๆ ถ้าไม่พิจารณาอุปสรรคทางภาษา เราสามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างสะกดวกขึ้น โดยไม่ต้องทำ passport หรือขอ visa ใด ๆ ... อีกประการ เราหาได้ต้องเสียค่าเครื่องบินไปพบคนทางไกลไม่ เพียงเปิดคอมต่อเน็ต ทุกอย่างก็ง่ายมากแล้ว
online calling
นอกจากการติดต่อสื่อสาร การประกอบสัมมาชีพทั้งหลายก็ต้องพึ่งอินเตอร์เน็ตแทบทั้งสิ้น เช่น การทำงานที่บ้าน สอนออนไลน์ ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า ปากท้องรอไม่ได้ ความรู้ ความรักก็เช่นกัน ส่งผลให้หลายอุตสาหกรรมต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด โดยเฉพาะ สื่อสิ่งพิมพ์ที่เดิม มักเผยแพร่ผ่าน อุปกรณ์ที่จับต้องได้ เปลี่ยนมาอยู่ในรูปแบบดิจิทัลทั้งหมด
ดิจิทัล
ถ้าพิจารณาด้านรายจ่ายทางธุรกิจ ค่าใช้จ่ายทางการตลาด-โฆษณา จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะ สื่อออนไลน์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง หน้าร้านก็ดี พนักงานขายก็หาได้จำเป็นไม่ และเมื่อไม่นานมานี้ สำนักพิมพ์ชื่อก้องโลก OX * ประกาศปิดกิจการเพราะตำรา/หนังสือ (กระดาษ) ขายได้ไม่ดีเท่าเดิม รวมถึงตลาดดิจิทัลถือเป็นขู่แข่งที่ทรงพลังมาก เข้าสำนวน "อ่อนแอก็แพ้ไป" หากจะถามความเห็นส่วนตัว น่าสงสารไหม? ก็น่าสงสาร แต่อีกมุมหนึ่ง ธุรกิจใดจะอยู่รอดก็ต้องปรับตัวทั้งสิ้น ส่วนตัวผมว่าน่าสงสารจะฟังขึ้นก็ต่อเมื่อต้องใช้กับผู้ประกอบการทุก ๆ รายอย่างเสมอภาค ไม่ใช่รายหนึ่งรายใด หมายความว่าถ้าเราสงสารรายหนึ่ง เราจะมองกิจการที่อยู่รอดว่าอย่างไร? - ไม่น่ารัก รุนแรง กราดเกรี้ยวเกินไป?
Advertisement
Advertisement
ใช่หรือ?
เมื่อสำนักพิมพ์ที่ไม่สามารถปรับตัวก็จำต้องปิดตัวลง ในทางกลับกัน นักเขียน ผู้ซึ่งเป็นผู้เล่นสำคัญในวงการนี้ก็ย่อมมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น เพราะเดิมเราอาจจะเข้าใจว่าการแสดงความเห็นจะในทางวิชาการหรือ จะถูกถ่ายทอดผ่านอะไรก็ตามที่ควรจะจับต้องได้ โปรดพิจารณาวิวัฒนาการของมนุษย์ที่จะบันทึกข้อมูลจากผนังถ้ำ สู่กระดาษและล่าสุดอยู่ในรูปแบบ digital content เช่น E-book ความสะดวกอย่างเห็นได้ชัดคือ น้ำหนักของ E-book ต่อเล่มมันเบามาก แม้จะเก็บไว้หลายเล่มก็หนักไม่เกินเครื่องอ่าน EBook หนังสือที่พิมพ์เป็นเล่ม ๆ
ด้วยเหตุนี้อาชีพนักเขียนที่เดิมเขาจะต้องพึ่งสำหนักพิมพ์เพื่อพิมพ์หนังสือตำรา เปลี่ยนค้นหาผู้ให้บริการเผยแพร่ผลงานของตนในรูปแบบ ดิจิทัลเป็นพอ ทว่า การเผยแพร่งานงานเขียนไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะ นักเขียนย่อมมาคู่กับผู้อ่านเสมอ เพราะถ้าไม่มีผู้อ่าน งานเขียนจะได้รับความนิยมอย่างไร กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ค่าตอบแทนน่าจะเป็นสิ่งจูงใจอันดับต้น ๆ ที่ทำให้นักเขียนอยากเขียนงานสักชิ้น แต่ต้นทุนกว่าจะขายผลงานได้ ไม่ได้อยู่เพียงที่ว่า เขียนจบส่งเผยแพร่แล้วได้รับค่าตอบแทน เฉกเช่นเดียวกับการขายสินค้า ผู้ผลิตมีความจำเป็นต้องโฆษณาสินค้าเพื่อให้เข้าถึงการรับรู้ขอกลุ่มเป้าหมาย ถ้าไม่เข้าไปนั่งในใจผู้บริโภคสินค้าย่อมขายไม่ได้
Advertisement
Advertisement
วานนี้ผมได้บังเอิญได้เจอกับ www.mebmarket ที่มีประโยคดึงดูดใจว่า "คุณเขียน เราขาย สบายใจ" เห็นแล้วผมค่อยใจชื้นขึ้นหน่อยเพราะ เมื่อผมทราบว่าตัวเองถนัดเขียน ไม่ถนัดทำการตลาด แต่ทาง meb จะทำการตลาดให้ เพราะลึก ๆ ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับทาง meb ว่าสุดท้ายผู้อ่านจะเป็นคนตัดสินใจเองว่า งานเขียนสมควรได้รับผลตอบแทนหรือไม่ อย่างไร ไม่ใช่บก.
ท้ายนี้ขอบพระคุณภาพ
2.ที่ 1 โดย geralt จาก pixabay
3.ที่ 2 โดย 17959117 จาก pixabay
4.ที่ 3 โดย geralt จาก pixabay
5.ที่ 4 โดย AdinaVoicu จาก pixabay
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น






