RoV Guide : ตำแหน่งแครี่ Carry เล่นยังไงให้เก่ง

                Carry  ตำแหน่งในดวงใจคนไทยหัวใจแครี่ เป็นตำแหน่งที่คนมักจะแย่งกันเล่นมากที่สุด แต่จะมีเพียง carry กี่ตัวกันที่จะรู้ว่าบทบาทหน้าที่จริง ๆ ของตำแหน่งนี้คืออะไร ต้องทำอะไรบ้างถึงจะเป็น ตัว Carry ที่พึ่งพาของทีมในช่วง Late Game ได้ ให้เพื่อนไว้วางใจได้ว่าเกมนี้ ทีมกูมีตัว Damage ที่พึ่งพาได้นะ  วันนี้ผมจะมาสรุปให้แบบจัดเต็มเลยว่าตำแหน่งนี้ควรเล่นยังไงแล้วต้องทำอะไรบ้างแบบละเอียดเลยครับ รับรองว่าเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเล่นในตำแหน่งนี้ของท่านแน่นอน

                                                         รูปภาพโดย : Cap จาก'ปรแกรม Bluestack ของเจ้าของบทความ

Lane Position : มังกร , Jungle , mid lane , Off lane

                 ตำแหน่งเลนที่เห็นส่วนมากของ Carry คือ เลนมังกรและ Jungle แต่จะมีให้เห็นเป็น mid Lane หรือ Off Lane บ้างในบาง Position ในการเล่น Rank ระดับ Conqueror ขึ้นไปที่ เป็นการจัด Formation แบบหยิบ Carry มา 2 ตัว   ข้อดีของการไปเลนมังกรหลักๆ คือ เมื่อตำแหน่งป่าฝั่งเราทำการเข้ามังกรเราจะสามารถเข้าช่วยเหลือในการทำดาเมจมังกรได้อย่างรวดเร็ว ส่วนข้อเสียคืออาจเจอการกดดันเลนจากทางฝั่งตรงข้ามโดยการนำโรมมิ่งมายืนทับเลนที่เราอยู่แบบ 2 - 1 ทำให้เราฟาร์มช้าได้ ส่วนการนำมาเล่น Jungle คือจะทำให้เราได้รับเงินค่อนข้างมากเป็นการการันตีว่ายังไงเกมนี้ Carry เรามีเงินแน่ ๆ แต่ข้อเสียคือในช่วงต้นเกมเราอาจเดินเกม Gank หรือลอบฆ่าได้ไม่โหดเท่าพวกตัวฟามสาย Assassin  ส่วนการหยิบมาในตำแหน่ง mid หรือ ออฟเลนนั้นผมไม่สามารถอธิบายในภาพรวมได้เพราะเป็นตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะตัวและเล่นให้เข้ากับแผนของ Formation Team เฉพาะอย่างที่เลือกมาล้วน ๆ 

2.ช่วงกลางเกม  : จะเป็นตัวชี้วัดว่าในต้นเกมคุณทำมาดีหรือไม่ สังเกตง่าย ๆ คือดูจากไอเทมและเงินของคุณเอง หากต้นเกมคุณทำมาดี ช่วงนี้คุณควรจะมีของหลัก ๆ อย่างน้อย 1 - 2 ชิ้นติดตัวคุณมาแล้ว และเงินคุณจะไม่ห่างจาก Carry ของอีกทีมมากนัก ถ้าคุณทำช่วงต้นเกมมาดีบทบาทในช่วงนี้ก็จะคล้ายกับช่วงเเรกคือ ฟาร์มหาเงินต่อไป แต่จะมีความแตกต่างกันคือคุณจะฟาร์มได้ง่ายขึ้น เพราะเริ่มมีของแล้วและ Carry บางตัวต้องการของเพียงแค่ 1 - 2 อย่างก็สามารถเดินเกมไปพร้อมกับทีมได้แล้ว อาจเลือกที่จะฟาร์มต่อหรือเดินเกมไปพร้อมกับทีมก็ได้แล้วแต่สถานณการณ์ แต่หากช่วงต้นเกมคุณทำมาไม่ดีเงินน้อย โดน Gank รัว ๆ โดนกดไม่ได้ฟาร์มหรืออะไรก็แล้วแต่กลางเกมนี้จะเป็นตัวตัดสินอนาคตทันที คุณจะต้องรีบแยกตัวออกไปฟาร์มหาเงินโดยด่วนหรือในบางเกมหากเพื่อน ๆ มั่นใจว่าคุณโดนกดแต่คนอื่นในทีมทำได้ดีคุณก็สามารถเดินเกมไปกับทีมได้แต่แนะนำแยกไปดันเลนดีกว่าเพราะได้เงินดีกว่า อ่านแจ้งเตือนของโรมมิ่งบ่อย ๆ หลบตัว Gank ฝั่งตรงข้ามที่จะพยายามไป Say hello คุณบ่อย ๆ ด้วย หากไปกับทีมก็พยายาม Last shot ให้ได้เยอะ ๆ และกินครีปทุกตัวที่เห็นให้หมด ยังไงคุณก็ต้องมีของให้พร้อมสำหรับช่วงท้ายเกมให้ได้

3.ช่วงท้ายเกม : หลาย ๆ มักเข้าใจผิดว่าหน้าที่ของแครี่คือ ทำดาเมจให้ได้มากที่สุด มันผิดนะครับ ทำไมละ ? เคยสงสัยไหม เลทเกมแล้วของก็มีเพื่อนยืนค้ำให้โจมตีฟรี ๆ ทั้งนานทำไมทีมไฟต์บวกแพ้งั้น ??? ก็คุณไปตีตัว Tank , ตีตัวโน้นบ้างตัวนี้บ้าง เพื่อนตายห่าหมดแล้วเหลือเราคนเดียวจะไปชนะยังไง  จำไว้นะครับหน้าที่ Carry ตอนเลทเกมมันจะคล้าย ๆ Assassin คือ ทำไงก็ได้ลดจำนวนศัตรูให้เร็วที่สุด  พูดง่าย ๆ คือ Kill ให้ได้ จะตีตัวไหนต้องเอาให้ตายและทำให้เร็วกว่า Carry ของฝั่งตรงข้าม ไม่ใช่บวกแล้วตีตัวไหนก็ไม่ตาย ตีตัวแท้ง ตีกระจาย แบบนี้ฉิบหายหมดทีมครับ ตำแหน่งยืนต้องดี สายตาต้องไว เป้าหมายที่คุณควรเลือกเก็บอันดับแรก ๆ คือ ตัว Damage ของฝั่งตรงข้ามที่มี HP น้อย ๆ เลือกเป้าหมายชัดเจนตั้งไวในใจ กูจะเอาไอ้นี่ก่อนนะ ไม่ได้เอาไอ้นี่แทน ตัวแท้งตัวโรมไร้ประโยชน์ปล่อยมันไปก่อน หากเราเก็บตัว Damage สำคัญ ๆ ของฝั่งตรงข้ามอย่าง Mage Carry หรือ Fighter ตัวสำคัญ ๆ ได้ก่อนสัก 1 - 2 ตัวในไฟต์ก่อน Carry ฝั่งตรงข้ามแค่นี้ทีมเราก็ไหลได้สบายแล้วโอกาสชนะไฟต์ก็จะเพิ่มมากขึ้นอีกมาก

Technic สำคัญที่ต้องฝึกหากอยากเล่น Carry เก่ง

1.ทักษะการ Last ครีป : สำคัญมากการ Last shot ครีปจะทำให้คุณได้เงินมากกว่าปกติ เป็นหนึ่งทักษะที่วัดว่าคนเล่น carry เก่งขนาดไหนวัดง่าย ๆ จากค่า GPM ( Gold per minute ) วิธีฝึกคือต้องหัดเล่น Carry ตัวหลักของเราบ่อย ๆ จำ status ของมันให้ได้แล้วช่วงหนึ่งเราจะรู้ว่ามันโจมตีเท่านี้หลอดเลือดครีปลดประมาณเท่านี้นะ กด Skill delay เท่านี้จะทำให้เรากะจังหวะ Last ครีปได้ดีมากขึ้น

2.หาตำแหน่งยืน : อีกหนึ่งทักษะสำคัญสำหรับ Carry คือตำแหน่งยืนหลัก ๆ สำหรับแครี่โจมตีระยะไกลคือต้องยืนแนวหลัง เวลาทีมไฟต์อย่าห้าวไปยืนหน้าตัวแท้งหรือในจุดที Mage หรือ Fighter ฝั่งตรงข้ามจะประเคนสกิลใส่หัวของเราได้ง่าย ๆ เพราะเขาจะเล็งเราเป็นเป้าแรก ๆ อยู่แล้ว ต้องหาตำแหน่งที่เรายืนทำดาเมจได้อย่างปลอดภัยและต้องคิดหาทางหนีเผื่อไว้ด้วยกรณีมีตัวล้วงอีกทีมหลุดแนวหน้าเข้ามา

3.หลบ Teen ตัวล้วง : หากอีกทีมมีตัวล้วง 1 ตัวก็สบายไปเพราะ Support หรือ Tank อาจปกป้องคุณได้  แต่ถ้ามีมากกว่า 1 แล้วละก็คุณต้องจับตาเวลาทีมไฟต์ไว้เลยว่าพวกเขาไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ส่วนมากจะแอบในพุ่มไม้ รอให้เราสู้กันเผลอ ๆ แล้วมาลอบค่าเรา แนะนำว่าเวลาทีมไฟต์ที่อีกทีมมีตัวล้วงมากกว่าหนึ่ง้ราไม่ควรเสนอหน้าออกไปให้อีกทีมเห็น ไม่ว่าจะเป็นในแนวหลังก็ตามจนกว่าจะ support / roaming จะ Confirm ตำแหน่งของตัวล้วงอีกทีมได้หมดว่ารอค่าเราอยู่ตรงไหน รอให้พวกเขารอจนทนไม่ไหวปล่อยสกิลอัลติเมทลอบค่าสำคัญ ๆ ออกมาให้หมดแล้วค่อยโผล่หน้าออกไป Damage ไล่เกบอย่างไว ๆ  วิธีการฝึกง่าย ๆ คือฝึกเล่น Mode เลนเดียว 5 v 5 บ่อย ๆ แล้วสุ่มให้ได้แครี่ Mode นี้จะบวกกันอยู่แทบตลอดเวลา Mode ที่เอาไว้ฝึกทีมไฟต์ได้อย่างดี หากคุณเล่นบ่อย ๆ แล้วจะรู้เองว่าควรทำยังไงเวลามีคนจ้องจะล้วงคุณ

4.การคำนวณ Damage : โปรเพลเยอร์เก่ง ๆ หลายคนล้วนมีทักษะนี้ด้วยกันทั้งนั้น เขาจะรู้เสมอว่าตัวเรา LV เท่านี้มีของเท่านี้ทำ Damage ได้ประมาณไหนกับฮีโร่ตัวไหนของอีกทีมบ้าง เช่น บางคนอาจจะรู้เลยว่าเล่น Yorn นะ Late เกมแล้วของเท่านี้ ขอยิงธรรมดา 5 ดอกอัลติเมท 1 พอ สำหรับฆ่าตำแหน่ง Mage ฝั่งตรงข้าม ทำให้เวลาทีมไฟต์เขารู้ได้ทันทีว่าต้องทำอะไรแค่ไหนถึงกำจัดเพลเยอร์อีกทีมได้ 1 คน หรือมากกว่านั้นเขาอาจรู้ด้วยว่า Mage ฝั่งตรงข้ามมีของระดับนี้ทำ Damage ให้ตัวเขาได้มากเท่าไหน ถ้ายืนวัดกัน 1 - 1 ใครจะชนะหากคำนวณได้แม่นยำและ Skill Play ถึงเขาจะบวกทันทีเป็นอีกสกิลที่ทำให้จังหวะ Miracle เกิดให้เห็นบ่อย ๆ ใน Tournament หรือการเเข่งต่าง ๆ 

                                                                              รูปภาพโดย www.pixabay.com