อื่นๆ
จ๊ะจ๋า ณัฐริกา เจ้าของเพจวาดรูปสุดชิค Tabjaja : ศิลปะที่เปรียบเสมือนโลกอีกใบของเธอ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเราในปัจจุบันค่ะ ตัวเราในปัจจุบันนี้แหละที่เป็นคนชี้ชะตาว่าชีวิต
เราจะเป็นยังไง ตัวเราในอดีตเรากลับไปแก้ไม่ได้ถ้าเรามัวมอง
แต่อดีตเราจะหาอนาคตไม่เจอแต่ถ้าเรามัวแต่มองแต่อนาคตเราจะไม่รู้จุดยืน
ในปัจจุบันเพราะฉะนั้น วันนี้คุณให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณรักและชอบทำมันมากแค่ไหน มี passion ให้กับมันมากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูปหรืออะไรก็ตามที่คุณหลงใหล
เราแค่ต้องเชื่อมั่นและลงมือทำค่ะ
พูดคุยกับเจ้าของเพจวาดรูป “Tabjaja” สาวน้อยวัย 20 ปี กับแรงผลักดันและเส้นทางก่อนจะมาเป็นตัวเธอในวันนี้ ที่เริ่มต้นความฝันโดยที่ไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบกับมุมมองทางศิลปะที่แสนวิเศษ
แนะนำตัว
“สวัสดีค่ะ เราชื่อจ๊ะจ๋า ชื่อจริงณัฐริกา ทองมี เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี ชื่อในวงการ เทพจ๊ะจ๋า แต่ตั้งชื่อไอจีว่า Tabjaja เพราะว่าสะกดคำว่าเทพผิด(หัวเราะ) เลยกลายเป็นอ่านว่า แท็บจ๊ะจ๋า สะงั้น แต่ไม่แก้เพราะเป็นเอกลักษณ์ดี ดูมีที่มาที่ไป เลยใช้ชื่อเพจเป็นชื่อเดียวกันสะเลย”
Advertisement
Advertisement
ผลงานที่โดดเด่น
เราเริ่มสนใจภาพ portrait และได้เริ่มฝึกตั้งเเต่ตอนเรียนติวศิลปะโดยภาพแรกที่วาดคือดวงตา เป็นดวงตาดวงแรกกับการฝึกอย่างจริงจัง ความโดดเด่นก็เป็นในเรื่องของ drawing ทั้ง portrait กับ drawing anatomy เทคนิคไม่ได้มีอะไรมากแต่จะเป็นจังหวะในการลงน้ำหนักของเเสงเงา และลายเส้นการวาดแต่ที่เด่น ๆ คืออารมณ์ของภาพ ความโดดเด่นจะเป็นในเรื่องของเเนวคิดตัวศิลปินคิดว่ากายวิภาคมนุษย์งดงามและมีเสน่ห์ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติ การที่เราได้วาด anatomy เหมือนเราได้มีโอกาสศึกษาเเละเรียนรู้ตัวเองไปด้วย
แนวภาพที่ชอบมากเป็นพิเศษ
“แนวภาพหรอคะ ชอบ drawing ค่ะชอบเพราะมันไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์เยอะอยากวาดเราก็สามารถวาดได้เลยที่ชอบเป็นพิเศษชอบวาด portraits
คนค่ะ รู้สึกว่ามันน่าสนใจดีเพราะแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน”
Advertisement
Advertisement
มุมมองที่มีต่อศิลปะ
“มุมมองหรอคิดว่ามันเป็นเหมือนอีกโลกนึง ไม่มีชื่อเรียกตายตัว ไม่มีกฎ ไม่มีขอบเขตของความคิด เหมือนเป็นพื้นที่สำหรับคนเพ้อฝัน นักท่องโลกจินตนาการอะไรงี้ แอบเว่อร์แต่จริง ศิลปะมันเหมือนหมอรักษาคนป่วย เหมือนกันนะ เวลาเครียดวาดรูปก็รู้สึกดีขึ้นละเลง ๆ ไปทุกอย่างในรอบตัวเราก็นับเป็นศิลปะ รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์น่าหลงใหลดีตรงที่มันให้อิสระทางความคิดเรา”
เล่าเบื้องหลังก่อนจะมาเป็น Tabjaja
“อาจจะยาวหน่อยนะคะ(หัวเราะ) คือจริงๆอยากทำเพจมาตั้งแต่ยังเรียนติววาดรูปอยู่เลย มันเป็นช่วงที่เพิ่งลองวาดหน้าคนแบบมีหลักการ แล้วก็บวกกับความชอบอยู่เเล้ว พี่ที่ติวเลยแนะนำว่าให้ลองรับงานวาดรูปดู ตอนเเรกเราก็ไม่ค่อยกล้าเพราะไม่มั่นใจ แต่ก็ลองดูเลยโพส Facebook ก็มีคนมาจ้างจริง ๆ ค่ะ ดีใจมาก ตอนนั้นรับถูกมากภาพละ 100 ตอนนั้นรับแค่ภาพขาวดำ ลูกค้าบางคนก็ให้ฟีดแบคกลับมาดี แต่มีลูกค้าคนนึงเป็นลูกค้าที่เป็นน้องของรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่ามาสั่งวาด 4 ภาพตอนนั้นก็คิด 400 ด้วยความใจดีเเละไม่มีประสบการณ์ด้านการรับงานวาดเลยก็เลยต่อให้น้องเขาค่อยโอนตอนหลังส่งรูปให้ด้วยความไว้ใจแต่พอน้องเขาได้รับเขาก็ไม่จ่ายเงินให้เหตุผลเพราะว่าเราวาดไม่สวยไม่เหมือน ตอนนั้นไม่รู้สึกเสียดายเงินเลยค่ะรู้สึกผิดและรู้สึกแย่มาก แบบว่าผลงานเรามันไม่ตอบโจทย์ลูกค้าหรือเรายังมีศักยภาพไม่พอ ตอนนั้นก็ท้อมากค่ะเลยเลิกรับงานวาดรูป
และพอผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ก็ลองสร้างไอจีวาดรูปขึ้นมาไว้สำหรับลงงานวาดรูปของตัวเอง จนขึ้นมหาลัยเเล้วมันอยู่ในช่วงโควิด-19 ก็ต้องเรียนออนไลน์ที่บ้านแทน ทำให้เรามีเวลามากกับการวาดรูปมากขึ้น และก็อยากมีรายได้ด้วยเพราะไม่ชอบอยู่เฉย ๆ อยากทำตัวมีประโยชน์บ้างไรบ้างบวกกับก็วาดรูปเยอะขึ้นฝึกฝนเเละให้ความใส่ใจกับมันมากขึ้นเลยรวบรวมความกล้าสร้างเพจขึ้น ที่มาของชื่อเพจก็ตามที่ได้บอกในส่วนของการแนะนำตัวไปแล้ว แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ายังกลัวอยู่ยังกลัวว่าตัวเองจะทำออกมาได้ไม่ดี แต่ลึก ๆ เเล้วก็ยังเชื่อมั่นในตัวเองอยู่เพราะว่าเชื่อในตัวเองมาตลอดหลังการได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดนั้นเลยกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของเพจ Tabjaja ค่ะ”
Advertisement
Advertisement
แรงบันดาลใจหรือแรงผลักดันที่ทำให้ฝึกวาดรูป
“จริง ๆ ก็วาดมาเรื่อย ๆ เพราะชอบมาตั้งแต่เด็กเเล้ว ตอนเด็กชอบให้แม่วาดรูปให้ดูและวาดตาม แต่พอถึงจุดหนึ่งที่มาคิดว่าเราชอบวาดรูปเล่นเฉย ๆ หรือเราจริงจังกับมัน เเละก็เจอคณะที่ตรงกับความชอบและสิ่งที่ทำได้ และเชื่อว่าเราจะติดแน่ด้วยความมั่นอกมั่นใจ(หัวเราะ) แต่!! เราเชื่อคนเดียวไม่ได้เราต้องทำให้เขาเชื่อด้วยว่าเรามีศักยภาพพอ เขาในที่นี้รวมไปถึงคนในครอบครัวด้วยเราต้องทำให้เขาเห็นว่าเราไปรอดกับสายนี้เเละอาจารย์ของมหาลัยที่จะรับเราเข้าด้วย เลยเป็นแรงผลักดันให้เราต้องฝึก ฝึก และฝึกอีกเรื่อย ๆ
ทุกวันนี้ก็ยังต้องฝึกอยู่บ่อย ๆ เพราะการวาดรูปถ้าเราห่างหายจากมันไปต่อให้เราเก่ง
เป็นเทพแค่ไหน ประสิทธิภาพในการวาดมันจะได้ไม่เท่าคนที่เขาวาดทุกวัน”
ประสบการณ์ที่รู้สึกประทับใจ
“ประสบการณ์ที่ประทับใจหรอขอตอบแบบคนมั่นหน้าหน่อยละกัน(หัวเราะ) คือได้คะแนนท็อปของสาขาวิชา drawing อันนี้คือเป้าหมายก่อนเข้าแบบเหมือนเป็น challenge ให้ตัวเองละพอทำได้ มันรู้สึกภูมิใจในตัวเองว่าแบบ จากเด็กขีดเส้นไม่ตรงในวันนั้นมาเป็นเด็กท็อป drawing ในวันนี้ทั้งนี้ทั้งนั้นมันมาก็มาจากความพยายามทั้งนั้น”
ช่วงที่ท้อมีวิธีเยียวยาตัวเองยังไงให้ลุกขึ้นได้เร็วที่สุด
“คิดสะว่าท้อมันมีไว้ให้ลิงถือ พ่าม!!! เอาไปอีกหนึ่งตับ(หัวเราะ) เอาจริงก็คือเป็นคนเครียดง่ายหายเร็ว แบบให้เวลาช่วงท้อ ๆ ให้น้อยที่สุด กลับมามองจุดยืนของตัวเองเพราะยิ่งท้อนานเท่ากับเราเสียเวลาที่จะพัฒนาตัวเองนานเท่านั้นอะ”
คิดเห็นยังไงกับแนวคิดที่บอกว่า ศิลปินเป็นอาชีพไส้แห้ง
“เป็นตรรกะที่ฟังเเล้วรู้สึกแย่นะคะ เพราะคิดว่ามันก็จริงที่มักจะเห็นศิลปินไส้แห้ง แต่ถ้ามองกลับกัน เขาอาจจะทำอาชีพนั้นแบบไม่ได้หวังรวยก็ได้แค่ใช้พื้นที่ทางศิลปะได้ปลดปล่อยศักยภาพตัวเอง การที่งานของเขาขายไม่ออกไม่ได้แปลว่าภาพของเขาไม่ดีเพียงแค่ไม่ตรงกับความต้องการความสนใจของผู้เสพงานศิลปะ แต่ศิลปินเป็นมนุษย์ค่ะ มีความคิดมีความรู้สึก รู้ได้ว่าแบบไหนที่จะทำให้เราก้าวหน้าทำแบบไหนตอบโจทย์ลูกค้าหรือเป็นที่สนใจกับผู้คนที่สนใจ เราต้องรู้จุดเเข็งและจุดอ่อนของตนเอง ทุกอาชีพแหละค่ะถ้าไม่ขยันไม่พัฒนาไม่ลุกออกจากกรอบเดิม ๆ ไม่รู้จุดยืนก็ไส้แห้งได้ค่ะ เป็นนักธุรกิจระดับโลกก็ไส้แห้งได้ ถ้าเราไม่เห็นคุณค่าและให้ความสำคัญของอาชีพตนเอง”
คิดว่าตัวเองในอีก 5-6 ปีข้างหน้าจะเป็นยังไง
“คิดว่าจะเป็นนักธุรกิจอันดับหนึ่งของประเทศแบบพัคแซรอย พ่าม! ฉ่งแฉงฉ่งเฉ้ง(หัวเราะ)จริง ๆ ยังไม่ได้แพลนไว้แต่เป็นคำถามที่ทำให้ต้องคิดดีค่ะ ถ้าตอนนี้คือคิดว่าจะหารายได้ได้มากกว่าหนึ่งทาง จะทำงานประจำที่ตรงกับสายที่เรียน คนในครอบครัวต้องภูมิใจ
มีความสุขกับการวาดรูปต่อไป รับงานบ้างประปาย และวาดให้ได้มากกว่าที่เคยทำได้เก่งให้ได้มากกว่าที่เคยเก่งได้จากตัวเองใน 5-6 ที่เเล้ว แต่ที่สำคัญที่สุดคือตัวเองในปัจจุบันค่ะ”
ศิลปินในดวงใจ
“ไม่มีเฉพาะเจาะจงค่ะ แปลกไหม ชื่นชอบศิลปิน บุคคลที่มีความสำคัญทางศิลปะเกือบทุกคน ชอบไปเรื่อยชอบไปหมด เหมือนได้ดูผลงานประวัติของคนที่เขาประสบความเร็จจากหลาย ๆ คนเเล้วมาพัฒนาตัวเองต่อไป”
มีอะไรอยากจะบอกไหม
“การวาดรูปมันไม่ตายตัวมันเทียบกันไม่ได้ว่างานใครดีกว่ากันที่เทียบได้คือใครให้ความสำคัญและให้ใจกับมันมากกว่ากัน จริงเเล้วเราคิดว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเราในปัจจุบันค่ะ ตัวเราในปัจจุบันนี้แหละที่เป็นคนชี้ชะตาว่าชีวิตเราจะเป็นยังไง ตัวเราในอดีตเรากลับไปแก้ไม่ได้ถ้าเรามัวมองแต่อดีตเราจะหาอนาคตไม่เจอแต่ถ้าเรามัวแต่มองแต่อนาคตเราจะไม่รู้จุดยืนในปัจจุบันเพราะฉะนั้น วันนี้คุณให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณรักและชอบทำมันมากแค่ไหน มี passion ให้กับมันมากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูปหรืออะไรก็ตามที่คุณหลงใหล เราแค่ต้องเชื่อมั่นและลงมือทำค่ะ เราไม่ใช่คนที่ประสบความเร็จแล้ว ไม่ใช่คนที่มีคนติดตามมาก ผลงานไม่ได้โดนใจใครไปสะทั้งหมด แต่เราเป็นคนที่ไม่เคยลดความพยายามที่จะพัฒนาตัวเองค่ะ เเละไม่เคยเบื่อกับการวาดรูปด้วย ฝากไว้ประมาณนี้ค่ะ สาระบ้างไร้สาระบ้างแต่อยากแชร์ประสบการณ์ค่ะ แล้วพักผ่อนเยอะ ๆ นะคะอย่าหักโหมสุขภาพต้องมาก่อนนะคะบอกตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง(หัวเราะ) ยังไงก็ติดตามเพจเราได้นะคะ ที่ลงบ่อย ๆ ก็ไอจี Tabjaja ชื่อเดียวในใจคุณ(หัวเราะ)”
ภาพประกอบโดยคุณจ๊ะจ๋า ณัฐริกา ทองมี เจ้าของเพจ Tabjaja
สามารถติดตามเพจได้ที่ : https://www.facebook.com/tabjaja-108354267439566/?epa=SEARCH_BOX
ความคิดเห็น