ภาพประกอบปกจาก Pixabay เชื่อว่าหลายคนเมื่อเจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจะได้ยากลับมาทานที่บ้านเพื่อรักษาอาการต่างๆ หรือแม้แต่บางคนซื้อยาจากร้านขายยามาทานเอง อาจเกิดข้อสงสัยว่าทำไมยาบางตัวต้องทานก่อนอาหาร หลังอาหาร หลังอาหารทันที หรือทานก่อนนอน วันนี้เรามาหาคำตอบกันว่า การทานยาแต่ละช่วงเวลาต่างกันอย่างไร และควรกินเวลาไหน ยาทานก่อนอาหาร ให้ทานยาก่อนอาหาร 30-60 นาที หรือหากลืมให้ทานหลังอาหาร 2 ชั่วโมง เนื่องจากอาหารมีผลต่อการลดการดูดซึมของยาประเภทนี้ ตัวอย่างยา Azithromycin, Roxithromycin (ยาฆ่าเชื้อ) เนื่องจากอาหารสามารถกระตุ้นกระเพาะอาหารให้หลั่งกรดมาทำลายยา และอาหารลดการดูดซึมของยาได้ประมาณ 50% ยกเว้น กรณีระคายเคืองทางเดินอาหารเปลี่ยนให้เปลี่ยนเป็นทานหลังอาหาร (การรับประทานยาหลังอาหาร 15 นาที จะทำให้ระดับยาที่ออกฤทธิ์ลดลงและยาออกฤทธิ์ช้าลง) ตัวอย่างยา Glibenclamide, Glipizide, Gliclazide (ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด) ยากลุ่มนี้จะกระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมา ณ เวลาที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูง คือหลังรับประทานอาหาร เพราะฉะนั้น ควรรับประทานยาก่อนอาหารประมาณครึ่งชั่วโมง เนื่องจาก ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของยา คือ 15-60นาที การรับประทานยาก่อนอาหารจะทำให้ยาออกฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในเวลาใกล้เคียงกับระดับน้ำตาลที่จะเพิ่มขึ้นจากอาหารที่รับประทาน ภาพประกอบจาก Pixabay ยาทานหลังอาหารให้ทานยาหลังอาหาร 15-30 นาที ตัวอย่างยา Tetracycline, Doxycycline (ยาฆ่าเชื้อ) ยาเหล่านี้เมื่อทานแล้วอาจรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนมากๆ ยา Metformin เป็นยาลดน้ำตาลที่ใช้บ่อยแนะนำให้รับประทานหลังอาหาร เนื่องจากยามีอาการข้างเคียงที่พบบ่อยคือ คลื่นไส้ เบื่ออาหาร การรับประทานหลังอาหารจะช่วยลดอาการข้างเคียงนี้ได้ และยาออกฤทธิ์ช่วยทำให้อวัยวะต่างๆใช้น้ำตาลในกระแสเลือดที่ดูดซึมหลังรับประทานอาหารเพื่อไปเก็บสะสมหรือเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ดีขึ้นจึงสามารถรับประทานยาเหล่านี้หลังอาหารได้ ยาหลังอาหารทันทีแนะนำให้รับหลังอาหารทันทีหรือพร้อมมื้ออาหาร เนื่องจากยาประเภทนี้มีฤทธิ์ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ตัวอย่างยากลุ่ม NSAIDs เช่น Aspirin, Ibuprofen, Diclofenac เนื่องจากถ้ารับประทานตอนท้องว่างจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารได้ ภาพประกอบจาก Pixabay ยาทานก่อนนอน ให้ทานยาก่อนเข้านอน 15-30 นาที ตัวอย่างยาแก้แพ้ลดน้ำมูกกลุ่มเก่า (1 generation) เช่น Chlopheniramine, Brompheniramine, Diphenhydramine เนื่องจากตัวยาเหล่านี้มีอาการข้างเคียงทำให้ง่วงซึม ยาลดระดับไขมันกลุ่ม Statins เช่น Simvastatin, Fluvastatin, Rosuvastatin เนื่องจากกระบวนการสร้างคลอเลสเตอรอลจะเกิดมากในตอนกลางคืนจึงแนะนำให้ทานยากลุ่มนี้ก่อนนอน ภาพประกอบจาก Pixabay และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เวลาเราได้รับยาทำไมถึงมีช่วงเวลาการกินที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ยาทุกชนิดมีผลข้างเคียง การใช้ยาทุกครั้งควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง