บทความนี้ ผู้เขียนอยากมาแชร์ประสบการณ์ เรื่องโรคนิ้วล็อค อาการนิ้วล็อคถึงแม้จะไม่มีอันตรายต่อสุขภาพร่างกายแต่อย่างไร แต่ก็ก่อความรำคาญ ใช้นิ้วมือได้ไม่สะดวก และสร้างความเจ็บปวด ให้กับเราไม่น้อยเลย นิ้วที่ล็อคจะมีอาการเหยียด หรือ งอนิ้วไม่ได้ มีอาการปวดที่โคนของนิ้วที่ล็อค นิ้วล็อคอาจจะเป็นแค่นิ้วเดียว หรือเป็นหลายนิ้วพร้อมกันก็ได้ ถ้าใครเป็นนิ้วล็อค อย่าปล่อยให้เป็นเรื้อรัง ให้รีบไปหาคุณหมอเพื่อทำการรักษา โรคนิ้วล็อคจะไม่สามารถหายเองได้ค่ะ สาเหตุเป็นนิ้วล็อค อาจจะเกิดจากเราใช้นิ้วท่าเดิม ซ้ำ ๆ เกร็งอยู่นานๆ เข่น ท่าเล่นโทรศัพท์มือถือ ท่าใช้คอมพิวเตอร์ ท่าจับกรรไกร ของช่างตัดเย็บ หรืออาจจะใช้นิ้วมือทำงานหนัก เช่น การทำความสะอาดบ้าน ซักเสื้อผ้าด้วยมือ การทำไร่ ทำสวน ขอยกหนึ่งตัวอย่างเช่น การใช้มือบิดผ้า เราต้องใช้แรงนิ้วมือบิดผ้าอย่างมาก จนทำให้ปลอกหุ้มเอ็นเสียดสี กับเส้นเอ็นภายในปลอก จนทำให้ปลอกหุ้มเอ็นเกิดการอักเสบหนาขึ้น และ หดตัวลง ไปล็อคเส้นเอ็นที่หุ้มอยู่ภายในปลอก ทำให้เราเหยียดนิ้ว หรืองอนิ้ว ไม่ได้นั่นเอง เส้นเอ็นภายในปลอกหุ้มก็เปรียบเสมือนเชือก ที่ชักลอกนิ้วเราเวลาเหยียด หรืองอ เมื่อถูกล็อคก็ไม่สามารถชักลอกนิ้วเรานั่นเอง ถ้าเราไปฝืนก็ทำให้เรามีอาการเจ็บปวดและอักเสบมากขึ้น อาการนิ้วล็อคของผู้เขียนจะเริ่มจาก นิ้วมีอาการจะปวดตึง ตรงโคนของนิ้ว จะบวม เวลาเรากดลงไป จะเหมือนมีก้อนนูนปูดขึ้นมา แต่นิ้วยังงอ และ เหยียดได้ แต่ก็จะไม่คล่องเท่าใด ผู้เขียนบรรเทาอาการโดย นวดบ้าง แช่น้ำอุ่นบ้าง แต่ไม่ได้ทำให้หายขาด แค่ทุเลาอาการปวด และตึงนิ้วลง เพราะเวลาที่มือเราแช่อยู่ในน้ำอุ่น ทำให้ปลอกหุ้มเอ็นที่หดตัวจะคลายตัวลง ต่อมาเหมือนมีอาการมากขึ้น รู้สึกว่าเวลาเรากำมือ นิ้วที่ล็อคไม่สามารถกำได้สุดเหมือนนิ้วอื่น และเวลาเหยียดนิ้ว มีอาการเหมือนเหยียดไม่สุดเช่นกัน บางครั้งต้องฝืน พยายามเหยียด หรืองอนิ้ว จะมีเสียงดังกิ๊กๆ เริ่มปวดมากขึ้น การใช้มือทำงานเริ่มลำบากมากขึ้น ไปด้วย เมื่อมีอาการมากขึ้น ทำให้ต้องไปหาคุณหมอเพื่อทำการรักษา ครั้งแรกคุณหมอจะให้ยามาทานเพื่อลดการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นและมีวิตามินบี มาเสริมด้วย ทานยาอยู่สองอาทิตย์ ในขณะเดียวกันก็ยังแช่มือในน้ำอุ่นอย่างต่อเนื่อง อาการก็ไม่ดีขึ้น ได้กลับไปหาคุณหมออีกครั้ง คราวนี้คุณหมอให้ยามาทานเหมือนเดิม แต่เพิ่มยาทายานวดมาเพิ่ม ก็ยังเหมือนอาการทรงๆ ไม่ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้แย่ลง ไม่อยากทนอาการปวด อาการตึงนิ้วต่อ เริ่มรู้สึกมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จึงตัดสินใจกลับไปหาคุณหมอรอบที่สาม ปรึกษาคุณหมอเลยว่า นอกจากการทานยาแล้ว จะมีวิธีทางไหนรักษาอีกไหม คราวนี้คุณหมอให้ฉีดยาแก้อักเสบโคนนิ้วที่ล็อค ( คุณหมอเป็นคนฉีดเองค่ะ ไม่ใช่คุณพยาบาลฉีด) ขอบอกเลยว่าเจ็บสุดๆเลยค่ะ แต่ก็คุ้มค่ามาก ฉีดเข็มเดียวก็ดีขึ้นเลย แค่ดีขึ้นนะค่ะ แต่ไม่ได้หายขาด คุณหมอบอกว่าฉีดยาเต็มที่ไม่เกิน 2 หรือ 3 เข็มค่ะ ถ้าฉีดมากกว่านั้นทำให้เอ็นขาดได้ค่ะ คุณหมอบอกถ้าอยากให้หายขาดเลยต้องผ่าตัด ตัดปลอกหุ้มเอ็นที่หดตัว ให้เปิดกว้างจะได้ปลดล็อคเส้นเอ็นที่อยู่ภายใน และต้องหยุดพักการใช้มือ และนิ้ว สักสองอาทิตย์ ผู้เขียนเองยังไม่คิดรักษาโดยการผ่าตัดค่ะ หลังจากฉีดยาดีขึ้น เหยียด และงอนิ้วได้ แต่มีความรู้สึกไม่เหมือนก่อนเป็นนิ้วล็อค ยังมีอาการตึงๆบ้าง พยายามหลีกเลี่ยงการใช้มือกับงานหนัก และพักการใช้มือบ้าง คุณหมอยังบอกเพิ่มเติมค่ะ นิ้วล็อคลามไปนิ้วอื่นๆได้ค่ะ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษา แต่ดีที่สุดเลย ก็อย่าปล่อยให้เกิดอาการนิ้วล็อคเลยนะค่ะ ใช้มือเราอย่างทะนุทนอมกันดีกว่าค่ะ หลีกเลี่ยงใช้งานมืออย่างหนัก หาวิธียืดคลายนิ้วมือบ้าง มีท่าบริหารนิ้วมือด้วยนะค่ะ ลองหาอ่านดูค่ะ ถ้ามีอาการแล้วก็รีบรักษาค่ะ อย่าทนความเจ็บปวด และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราเลยค่ะ ภาพปก ขอบคุณภาพจาก andreas160578 / Pixabay ภาพประกอบที่ 1 ขอบคุณภาพจาก Syaibatulhamdi/Pixabay ภาพประกอบที่ 2 ขอบคุณภาพจาก Teona Swift /Pexelsภาพประกอบที่ 3 ขอบคุณภาพจาก Andre Moura /Pexelsภาพประกอบที่ 4 ขอบคุณภาพจาก Maksim Goncharenok/Pexelsภาพประกอบที่ 5 ขอบคุณภาพจาก Bru-nO /Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !