บรรเทาอาการกลิ่นเต่าแบบง่าย ๆ ด้วย เทคนิคการดูแลผิวใต้วงแขนปัญหาใหญ่ของใครหลาย ๆ คนนั้นก็ คือ ใต้วงแขนไม่กระจ่างใส และมีกลิ่นเหม็น พร้อมทั้งกลิ่นอับ ซึ่งสามารถทำให้หลาย ๆ คนนั้นขาดความมั่นใจได้เมื่อไปพบปะหรือเข้าสังคม นักเขียนบอกได้เลยอย่างเต็มปากว่า นักเขียนก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกันจนได้มารู้จักกับวิธีการแก้ไขปัญหาแบบง่าย ๆ ซึ่งสามารถทำได้ทุกวัน และทำให้วงแขนของเรานั้นกระจ่างใสไร้กลิ่นอับแบบสบาย ๆ เทคนิคนี้บอกเลยว่าใช้งานได้ผลดี จนนักเขียนต้องแนะนำ1. ใช้โยเกิร์ตผสมเบกกิ้งโซดาวิธีการดูแลผิวพรรณใต้วงแขนแบบง่าย ๆ ซึ่งสามารถช่วยทำให้วงแขนของคุณนั้นกระจ่างใส และไร้กลิ่นอับ เพียงแค่คุณใช้โยเกิร์ตประมาณครึ่งกระป๋องผสมกับเบกกิ้งโซดาประมาณ 1 ช้อนชา ผสมให้เนื้อเข้ากัน แล้วนำมาทาสครับผิวแบบเบา ๆ ที่บริเวณใต้วงแขนของคุณ หลังจากนั้นก็ทิ้งเอาไว้ประมาณ 5-10 นาที จะสามารถช่วยให้ใต้วงแขนของคุณนั้นกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยระงับกลิ่นอับได้อีกด้วย2. ใช้ประโยชน์จากมะนาวทำให้ใต้วงแขนคุณกระจ่างใสใครจะคิดว่ามะนาวลูกเล็ก ๆ จะมีประโยชน์ในการช่วยชีวิตสาวไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณด้วยประโยชน์ของกรดเปรี้ยวแบบอ่อน ๆ ที่สามารถช่วยกำจัดกลิ่น และทำให้ใต้วงแขนขาวกระจ่างใสได้แบบธรรมชาติ จึงได้รับขนานนามว่าสุดยอดวัตถุดิบก้นครัวที่มีสรรพคุณทางการช่วยดูแลสุขภาพ และความงาม เพียงแค่คุณใช้มะนาวครึ่งซีกนำมาสครับบริเวณใต้วงแขนของคุณ หลังจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแบบนี้เป็นประจำทุกวัน คุณจะพบว่ากลิ่นอับ กลิ่นเต่าจะหายไป และปัญหาเกี่ยวกับความหมองคล้ำก็จะจางลงไปอีกด้วย อันนี้รับรองเลย เพราะใช้แล้วได้ผลดี3. เคล็ดลับวิธีการใช้ และข้อแนะนำวิธีการดูแลผิวพรรณ และเคล็ดลับแบบธรรมชาติเหล่านี้ เราต้องบอกก่อนเลยว่าคุณควรจะทดสอบกับการใช้งานบริเวณข้อมือหรือบริเวณหลังใบหูของคุณก่อน เพราะว่าถ้าหากคุณใช้ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 หรือ 20 นาทีแล้วมีอาการแพ้ คุณจะได้หยุดการใช้ได้ทัน และจะไม่เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพคุณในอนาคตอย่างแน่นอน สำหรับใครที่สนใจการดูแลความสวยความงามแบบธรรมชาติ และวิธีการจัดการกับปัญหาเรื่องผิวพรรณ และเส้นผมในทางด้านอื่น ๆ ก็อย่าลืมเข้ามาติดตามผลงานบทความใหม่ ๆ ของเราเพิ่มเติมได้เลยนะ เพราะว่าเราจะนำผลงานเหล่านี้มาลงใหม่ให้ทุกวัน เพราะเราเชื่อว่าความรู้เป็นสิ่งที่เราสามารถแบ่งปันกันได้ และฝากกดแชร์ด้วยนะจ๊ะ สำหรับบทความนี้ขอบคุณมากแล้วพบกันใหม่สวัสดี ภาพหน้าปกโดย : https://www.canva.comขอบคุณภาพประกอบโดย Pixabay : ภาพที่1 ภาพที่2 ภาพที่3