ในปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆได้เข้ามามีอิทธิพลต่อเด็ก ๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และพบได้บ่อยขึ้นในเด็กวัยกำลังโต ซึ่ง ปัญหาเด็กติดเกมมีผลกระทบต่อเด็กหลายด้านไม่ว่าจะเป็น ปัญหาด้านการเรียน การทำงาน สุขภาพ รวมไปถึงความสัมพันธ์กับครอบครัว ซึ่งเด็กจะเหินห่างกับพ่อแม่มากยิ่งขึ้น และมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างน้อยลง นอกจากนี้ยังส่งผลถึงสภาพจิตใจของเด็ก อาจเกิดพฤติกรรมเลียนแบบขึ้นมาหรือหงุดงิด ก้าวร้าวรุนแรง อาจจะไม่พอใจเมื่อไม่ได้เล่นเกมตามที่ต้องการ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรต้องรีบป้องกันและแก้ไขได้แล้วครับหลักการสังเกตพฤติกรรมของเด็กที่เสี่ยงต่อการติดเกมส์มีดังนี้1. มีลักษณะการแสวงหาให้ได้เล่นอย่างมาก ว่างเมื่อไรหรือไม่ว่างก็พยายามที่จะเข้าหาคอมพิวเตอร์ เปิดไปยังหน้าจอสำหรับเล่นเกมส์เปิดหน้าจอเล่นเกมส์คู่ไปกับหน้าจออื่น ๆ ที่ต้องทำางาน เลิกเรียนแล้วเป็นต้องแวะเข้าร้านเกมส์/ร้านอินเตอร์เน็ตเล่นจนดึกดื่น วันหยุดเสาร์อาทิตย์เล่นทั้งวัน เป็นต้น2. ต้องเพิ่มชั่วโมงในการเล่น จากเดิมที่เคยเล่น 1 ชั่วโมงไม่พอ ต้องเพิ่มเป็น 2 เป็น 3 หรือมากกว่านั้นจึงจะพอใจ3. มีอาการขาดการเล่นเกมส์ไม่ได้ เช่น เมื่อไม่ได้เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์เด็กจะเกิดอาการหงุดหงิด มีอารมณ์ฉุนเฉียวกับคนรอบข้างที่ไม่ให้เล่น หรือเกิดอาการหงอยเหงาที่ไม่ได้เล่น4. สูญเสียการทำหน้าที่ ได้แก่ เสียการเรียน เสียงานในความรับผิดชอบ เสียสัมพันธภาพกับคนในครอบครัวหรือเพื่อน หรือเสียการทำาหน้าที่พลเมืองดีทั่ว ๆไป เช่น เป็นคนชอบพูดโกหกมีพฤติกรรมลักขโมยเงินไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์ออนไลน์ มีพฤติกรรมเล่นการพนัน เป็นต้นการเล่นเกมก็เหมือนกับการทำทุกสิ่งทุกอย่าง คือ ต้องมีความพอดี น้อยไปก็ไม่ดี มากไปก็ไม่ดี เกมส์คอมพิวเตอร์หรืออินเตอร์เน็ตมีทั้งประโยชน์และโทษ หากเข้าใจทั้งประโยชน์และโทษก็จะสามารถใช้แต่พอดี ทำให้เกิดประโยชน์และหลีกเลี่ยงโทษได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ โดยเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์หรืออินเตอร์เน็ตมากเป็นเวลานาน ๆ จะเกิดโทษซึ่งมีผลกระทบต่อผู้เล่นได้หลายประการ ดังนี้1. โทษต่อสุขภาพร่างกาย เช่น แสบตา ปวดข้อมือ การที่เด็กเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์จนไม่รับประทานอาหาร ทำให้แสบกระเพาะ อดนอน ตื่นสาย เพลียง่วงนอนเวลาเรียนหรือเวลาทำงาน2. โทษต่อสุขภาพจิต เช่น เกิดความทุกข์ ไม่สุขใจ ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในจิตใจหรือขัดแย้งกับผู้คนรอบข้างได้ เพราะการเล่นเกมคอมพิวเตอร์นาน ๆ เข้า ผู้เล่นเกิดความรู้สึกชอบเอาชนะ จนมีความเคยชินกับการแข่งขัน เคยชินกับการได้ดังใจเพราะเกมส์คอมพิวเตอร์สั่งได้ บังคับได้ ไม่มีการควบคุม/บังคับตนเอง ไม่มีความรับผิดชอบ เพราะเมื่อเกิดความเพลิดเพลินแล้วจะไม่สนใจทำอย่างอื่น หรือฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ความรับผิดชอบที่มีอยู่ว่าควรทำหรือไม่ควรทำอะไร เช่น ไม่อ่านหนังสือ ถึงเวลานอนก็ไม่เข้านอน หนีออกจากบ้าน ไม่กวาดถูบ้านหรือไม่ล้างจานชาม ไม่ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ขาดความรับผิดชอบ มีพฤติกรรมลักขโมย เล่นการพนัน เป็นต้น3. โทษต่อสุขภาพสังคมหรือทักษะทางสังคมของเด็ก เช่น ผู้เล่นเกมส์จะเห็นเพื่อนเป็นศัตรูของความสนุกสนาน กลัวเพื่อนมาแย่งเล่นเกมส์ จึงไม่อยากคบเพื่อน หรือแม้อยากจะคบเพื่อนแต่ก็คบเพื่อนไม่ค่อยเป็น เนื่องจากขาดทักษะทางสังคม หรือแม้ได้เพื่อนก็เป็นความสัมพันธ์ออนไลน์ เป็นสัมพันธ์ในโลกเสมือนไม่ใช่โลกแห่งความเป็นจริง4. โทษต่อการดำรงชีวิต ได้แก่ ผลการเรียนตกต่ำ ขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่เสียการเสียงาน เสียความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เช่น ในกรณีที่เป็นเด็กอาจเสียความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่พี่น้อง มีพฤติกรรมอันธพาล ขโมยเงินทอง มั่วสุมเล่นการพนัน เป็นต้นวิธีป้องกันลูกติดเกมส์1. ต้องกำหนดเวลาเล่นไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน 2. ต้องตกลงโปรแกรมและเลือกประเภทเกมส์ให้ลูก เช่น เกมบริหารสมอง ลดเกมที่เสี่ยงความก้าวร้าวอย่างการฆ่ากันยิงกัน พ่อแม่ต้องอยู่ด้วย 3. ต้องเล่นกับลูก เพื่อสอนให้คำแนะนำกันได้ 4. พ่อแม่ไม่เล่นเป็นตัวอย่าง 5. ไม่เล่นในเวลาครอบครัว 6. ไม่เล่นในห้องนอนการป้องกันเป็นเกราะกำบังให้ลูกหลานของเราไม่เข้าไปพัวพันในอบายมุขที่จะตามมาอีกนับไม่ถ้วน แต่ถ้าหากปล่อยปละละเลยแล้ว ก็ยากที่จะกลับมาเป็นอย่างเดิมได้นะครับภาพปกจาก https://pixabay.comภาพ 1 https://pixabay.comภาพ 2 https://pixabay.com/thภาพ 3 https://pixabay.com