ในปัจจุบันคงไม่อาจกล่าวเกินเลยไปว่าวิวัฒนาการในการรักษาของมนุษย์เจริญก้าวหน้าไปมาก เทคโนโลยีสามารถช่วยผู้คน ป้องกันโรคภัยต่าง ๆ และช่วยยื้อชีวิตหลัง ความตายไว้ได้ กระนั้นยังมีอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งใช้การรักษาแตกต่างไปจากแพทย์แผนปัจจุบัน พฤกษาบำบัด คือ ศาสตร์ในการใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของพันธุ์ไม้ต่าง ๆ มาประยุกต์ในการดำเนินการรักษาผู้คนซึ่งเป็นหนึ่งในวิถีของการบำบัดด้วยธรรมชาติ(Naturopathy) โดยวิธีการบำบัดสามารถแบ่งได้ดังต่อไปนี้ การบำบัดด้วยการมอง สีเขียวของต้นไม้ช่วยในการผ่อนคลายและลดความตึงเครียดได้ นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มสมาธิทำให้ใจสงบ เหมือนแพทย์ที่ใส่ชุดสีเขียวเวลาเข้าห้องผ่าตัด การบำบัดด้วยการดม กลิ่นหอมจากดอกไม้ต่าง ๆ สามารถลดความวิตกกังวลได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของดอกไม้ เช่น ลาเวนเดอร์กลิ่นของมันทำให้ผู้สูดดมผ่อนคลายในยามหลับและสดชื่นในเวลาตื่นนอน การบำบัดด้วยการรับประทาน ผักอุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน ใยอาหาร ที่ช่วยในการย่อยให้ดีขึ้น นอกจากจะช่วยระบบขับถ่าย ยังช่วยลดน้ำหนักทำให้หน้าเด็กเป็นของแถมอีกด้วย การบำบัดด้วยเสียง เสียงกระทบของใบไม้สามารถปรับสภาพจิตใจให้นิ่ง ช่วยสร้างความผ่อนคลาย มีรายงานหนึ่งระบุว่า เด็กที่ได้ยินเสียงของพลิ้วไหวของใบไม้เป็นประจำมีแนวโน้มจะมีความคิดเชิงบวกมากกว่าเด็กทั่วไป อันเป็นผลมาจาก ASMR (autonomous sensory meridian response) ซึ่งคือการตอบสนองต่อประสาทรับความรู้สึกอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน การสัมผัส โดยมีผลให้สภาวะทางจิตใจและร่างกายมีแนวร่วมไปกับสิ่งเร้าเหล่านั้น การบำบัดด้วยการสัมผัส เชื่อกันว่าการสัมผัสสามารถถ่ายทอดจิตใจสู่กันได้ ดังนั้นเวลาที่คนเราสัมผัสต้นไม้จึงรู้สึกร่มรื่น เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ และช่วยลดระดับความกังวลอันเกิดจากฮอร์โมนที่สร้างความเครียด แม้จะไม่มีหลักฐานทางการแพทย์มายืนยัน แต่พฤกษาบำบัดก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับแพทย์ทางเลือก ที่ในแง่ของผลลัพธ์ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง หากท่านใดมีความเครียดสะสม ลองออกไปมองต้นไม้ดูแล้วคุณจะรู้ว่าพฤกษาบำบัดสามารถรักษาเยียวยาร่างกายและจิตใจได้จริง ขอบคุณรูปภาพจาก pexels.com ภาพประกอบที่ 1,2,3,4 และ 5