บทความนี้ผู้เขียนอยากมาแชร์ถึงประสบการณ์ของตนเอง เกี่ยวกับภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งเรื่องที่จะแชร์นี้อาจจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และ ให้เป็นแนวทาง ทั้งข้อคิด ก่อนตัดสินใจทานยาลดความดันโลหิตสูง โดยไม่ทราบ และไม่คิดหาสาเหตุก่อน ทำให้เราต้องทานยาลดความดันไปตลอดชีวิต หนีไม่พ้นภาวะไตเสื่อมแน่นอน เวลาเราไปโรงพยาบาลก่อนพบคุณหมอ คุณพยาบาลจะวัดความดันโลหิตให้คนไข้ก่อนเสมอ เราจะรับรู้ความดันของตัวเอง ถ้าตัวเลขบนอยู่ระหว่าง 141-159 ตัวเลขล่างอยู่ระหว่าง 90-99 แสดงว่าเรามีภาวะความดันโลหิตสูงระดับประถม หากตัวเลขบนสูงเกิน 180 ตัวเลขล่างสูงเกิน 110 นั่นเป็นสัญญาณเตือนเราแล้วว่าความดันสูงอยู่ในขั้นอันตรายมาก จำเป็นต้องทานยาลด หรือควบคุมความดันทันที เสี่ยงมากถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตก บางรายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต บางรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ตัวเลขในเครื่องวัดความดัน คืออะไร ผู้เขียนจะอธิบายคร่าวๆ ดังนี้ เราเคยสงสัยไหมว่า เวลาเราไปวัดความดัน ตัวเลขที่ปรากฏบนเครื่องวัดความดัน แสดงผลอะไร ผู้เขียนจึงได้ถามเจ้าหนี้ที่พยาบาล และได้รับคำอธิบาย พอเข้าใจว่า ตัวเลขค่าความดัน จะแบ่งออกเป็น 2 ค่า คือ ตัวเลขค่าความดันตัวบน เป็นค่าตัวเลขความดันในขณะที่หัวใจบีบตัว ส่วนตัวเลขอีกตัวคือ ค่าความดันตัวล่าง เป็นตัวเลขความดันในขณะที่หัวใจคลายตัว มีหน่วยเรียกเป็นมิลลิเมตรปรอท ตัวเลขตัวสุดท้ายบนเครื่องวัดที่ต้องสนใจ คือ การเต้นของชีพจร ต่อนาที ตัวเลขอยู่ระหว่าง 60-100 ครั้งต่อนาที ถือว่าปกติ ผู้เขียนเองมีภาวะความดันโลหิตสูง เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว เริ่มแรกพบว่ามีความดันสูงอยู่ระดับ 139-141 ไม่คิดที่จะทานยาเพื่อควบคุม แต่วางแผนควบคุมอาหารแทน ช่วง 3 ปีแรกสามารถควบคุมความดันในระดับนี้คงที่ สม่ำเสมอ ทำให้เกิดความชะล่าใจ ไม่คิดปรึกษาคุณหมอ ไม่คิดทานยาควบคุมความดันเลย จนกระทั้งผู้เขียนไปฉีดวัคซีนโควิด ช่วงโควิด-19 ระบาด ทุกคนทราบว่าก่อนเข้ารับวัคซีน ต้องมีการตรวจวัดความดันก่อน การวัดความดันในครั้งนี้ผู้เขียนแทบช็อค ตัวเลขความดันตัวบนสูงถึงระดับ 190 ทุกคนที่เคยไปรับวัคซีนโควิดจะทราบว่าถ้าความดันสูงเกิน 180 จะถูกปฏิเสธที่จะฉีดวัคซีน ผู้เขียนคิดว่าตัวเองอาจจะตื่นเต้น จึงขอนั่งพักก่อน แล้วค่อยวัดใหม่ พอนั่งพักสัก 15 นาที ขอวัดความดันใหม่อีกครั้ง ผลปรากฏว่าความดันลดลง อยู่ที่ระดับ 170 ซึ่งถือว่าอยู่ระดับอันตราย แต่สามารถฉีดวัคซีนได้ ผู้เขียนรับวัคซีน 4 เข็ม ก็เจอเหตุการณ์แบบนี้ทั้ง 4 ครั้ง ตัวเลขความดันตัวบนอยู่ระดับ 160-190 แต่ตัวเลขความดันตัวล่างอยู่ระหว่าง 70-90 ซึ่งถือว่าปกติ ต่อมาได้ไปพบคุณหมอฟัน เพื่อขัดหินปูน ดูแลเรื่องช่องปาก เจอปัญหาเดียวกันว่าตัวเลขความดันตัวบนสูงเกิน 180 คุณหมอฟันไม่ยอมขูดหินปูนให้ แต่คุณหมอฟันแนะนำพบคุณหมอให้ดูแล ควบคุมเรื่องความดันก่อนเป็นสำคัญ ผู้เขียนตัดสินใจพบคุณหมอเพื่อควบคุมเรื่องความดันทันที คุณหมอซักประวัติ และวัดความดันหลายรอบ คุณหมอใช้คำว่า วินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง เลยถามคุณหมอกลับไปว่าแสดงว่าต้องทานยาลดความดันตลอดชีวิตใช่ไหม คุณหมอ ตอบกลับมาว่าใช่ครับ ผู้เขียนมีความรู้สึกต้านการทานยาขึ้นมาทันที แต่ในวันนั้นผู้เขียนก็ยอมทานยาที่คุณหมอให้มา พร้อมทั้งซื้อเครื่องวัดความดันมาวัดเองทั้งเวลาเช้า และเวลาเย็น ผลจากการทานยา ผู้เขียนรู้สึกมึนหัว มีอาการวูบๆ รู้สึกแย่กว่าตอนที่ไม่ทานยาเสียอีก จากการวัดความดันเอง ตัวเลขความดันตัวบนก็ไม่ได้ลดลงเท่าใด ยังอยู่ระดับ 160-180 ตัวเลขความดันตัวล่างของผู้เขียนอยู่ระดับปกติ ผู้เขียนรู้สึกว่าการทันยาไม่ได้ผล จึงไปพบอาจารย์หมอท่านหนึ่งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เริ่มปรึกษาคุณหมอ ทำไมทานยาลดความดันก็ไม่ได้ลงสักเท่าใด และมีอาการมึนหัว รู้สึกวูบ ปรึกษาคุณหมออยากหาสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะความดันสูงผิดปกติ สิ่งแรกที่ทำคือ ตรวจสุขภาพ คุณหมอ เน้นตรวจหัวใจ ไต ไขมัน เบาหวาน ปอด และแร่ธาตุในร่างกาย ผลออกมาทุกอย่างปกติ ยกเว้นค่าโพแทสเซียมในเลือด ต่ำเล็กน้อย คุณหมอเจาะเลือดหาค่าโพแทสเซียม ทุกสัปดาห์ อยู่ประมาณ 3-4 ครั้ง และมีการ test หาค่าฮอร์โมน Aldosteronism เพราะฮอร์โมนตัวนี้ มีผลทำให้โพแทสเซียมต่ำ และเป็นสาเหตุของภาวะความดันโลหิตสูง ฮอร์โมนตัวนี้ผลิตจากต่อมหมวกไตค่ะ ( ตามรูป จุดที่ลูกศรชี้ คือตำแหน่งของต่อมหมวกไต ทั้งสองข้าง) ถ้าต่อมหมวกไตเราทำงานผิดปกติ หรือบกพร่อง หรือมีเนื้องอก ก็จะผลิตฮอร์โมนตัวนี้ผิดปกติ ถ้าเราได้ทำการรักษาให้หาย ภาวะความดันโลหิตสูงจะกลับมาอยู่ภาวะปกติ ไม่ต้องทนทานยาตลอดชีวิต ตอนนี้ผู้เขียนเข้าสู่ขั้นตอนการรักษา โอกาสหน้าจะกลับมาแชร์ให้ผู้อ่านฟังอีกครั้งค่ะ ผู้อ่านที่มีภาวะความดันโลหิตสูงอาจมีหลายสาเหตุนะค่ะ ต่อมหมวกไตบกพร่อง เป็นแค่หนึ่งสาเหตุเท่านั้น อยากให้ทุกคนไปหาสาเหตุกันค่ะ ภาพปก ขอบคุณภาพจาก stevepb / Pixabayภาพประกอบที่ 1 ขอบคุณภาพจาก Yaroslav Shuraev/ Pexelsภาพประกอบที่ 2 ภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพประกอบที่ 3 ขอบคุณภาพจาก cottonbro/ Pexelsภาพประกอบที่ 4 ขอบคุณภาพจาก ANTONI SHKRABA/ Pexelsภาพประกอบที่ 5 ขอบคุณภาพจาก JESHOOTS.COM/ Pexelsภาพประกอบที่ 6 ขอบคุณภาพจาก geralt/ Pixabayเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !