ความแตกต่างที่สุดระหว่างเพศหญิงกับเพศชาย คือ เพศหญิงมีหน้าที่ตั้งครรภ์เพื่อสืบทอดเผ่า-พันธุ์มนุษย์ ในคัมภีร์หวงตี้เน่ยจิงบันทึกไว้วา "เด็กหญิงอายุ 1 ปี ปราณในไตแกร่ง กระดูกและเส้นผมเจริญเติบโต เมื่อถึงอายุ 27 ปี เส้นลมปราณเยิ่นไหลคล่อง เส้นลมปราณแกร่ง เริ่มมีประจำเดือน จึงให้กำเนิดบุตร" เมื่อหญิงสาวเริ่มมีประจำเดือนก็หมายความว่าสามารถให้กำเนิดบุตรได้ ซึ่งรังไข่ที่หลั่งฮอร์โมนเพศหญิง และมดลูกที่ขับเลือดอย่างเป็นวัฏจักร ล้วนเป็นอวัยวะที่สำคัญมากในเพศหญิง จึงต้องดูแลให้ดี"มดลูก" มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของเพศหญิงในสมัยโบราณการแพทย์แผนจีนไม่มีแนวคิดเรื่อง "รังไข่" แต่มีความเชื่อว่าในร่างกายมีสารชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ปรับสมดุลการเจริญเติบโต และการสืบพันธุ์ของเพศหญิง สารนี้คล้ายคลึงกับฮอร์โมนในมุมมองของแพทย์แผนปัจจุบัน เมื่อปราณในไตแกร่ง สารนี้ก็จะมีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของเพศหญิง ทำให้มีประจำเดือน โรคต่าง ๆ เกี่ยวกับประจำเดือนจึงเน้นการปรับสมดุลปราณในไตเป็นหลักหน้าที่ของมดลูก "เก็บกัก" และ "ขับระบาย"ในบันทึกโบราณจะเรียกมดลูกว่า "เซลล์เพศหญิง" "ห้องเลือด" "ห้องเด็ก" ชื่อเรียกเหล่านี้บอกให้รู้ว่า มดลูกเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่เก็บเลือดและให้กำเนิดชีวิตใหม่ มดลูกมีหน้าที่ "เก็บกัก" และ"ขับระบาย" เก็บกักหมายถึงวงจรประจำเดือน และการดูแลทารกในช่วงตั้งครรภ์ ขับระบายหมายถึงการมีประจำเดือนทุกเดือนและการเบ่งคลอดนั่นเองประจำเดือนผิดปกติเป็นสัญญาณอันตรายของโรคสตรีเมื่อมดลูกและรังไข่ทำงานตามปกติ สตรีจะมีประจำเดือนราว 3-7 วัน วงจรประจำเดือนประมาณ 28:7 วัน (ประมาณ 21-35 วัน) ปริมาณประจำเดือนแต่ละครั้งประมาณ 35-88 ซีซี ช่วงมีประจำเดือนไม่ควรมีอาการปวดประจำเดือน ปวดหัว ท้องเสีย หรือมีก้อนเลือด ฉะนั้นไม่ว่าวงจรประจำเดือนจะยาวเกินไปหรือสั้นเกินไป ปริมาณประจำเดือนมากเกินไปหรือน้อยเกินไป หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีอาการปวดประจำเดือนหรือท้องเสียเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดโรคสตรีบางโรคอาจมีผลต่อการตั้งครรภ์ ผู้หญิงทั้งหลายจึงควรดูแลตัวเองดี ๆ หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับประจำเดือนควรรีบหาหมอนับว่าเป็นสิ่งสำคัญเลยนะคะ สำหรับผู้หญิง ตามที่ถูกตั้งเอาไว้เลยว่า "เป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก" เพราะต้องคอยดูแลควบคุมให้ร่างกายอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะการมีสุขภาพร่างกายไม่ดีหรือละเลยก็อาจจะพบกับปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจก่อให้ระบบหรืออวัยวะต่าง ๆ แย่ลงตามกันไปด้วยหากคุณชื่นชอบบทความนี้อย่าลืมเป็นกำลังใจให้กันในบทความต่อ ๆ ไปด้วยการกด Like กด Share หรือส่งต่อเรื่องราวนี้ให้กับคนรอบข้างด้วยนะ ขอขอบคุณภาพภาพประกอบที่ 1 ขอบคุณ Canva/ภาพประกอบที่ 2 โดยนักเขียน/ภาพประกอบที่ 3 โดยนักเขียน/ภาพประกอบที่ 4 โดยนักเขียน/ภาพประกอบที่ 5 โดยนักเขียน