ระวัง หัวล้าน!! เพราะไทรอยด์เป็นพิษ ผู้เขียนเชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงเคยประสบกับปัญหาผมร่วง โดยเฉพาะสาว ๆ จนรู้สึก หงุดหงิดรำคาญใจอยู่บ่อยครั้ง เเต่อย่าเพิ่งกังวลใจไปค่ะ ในความเป็นจริงเเล้ว ผศ.นพ.รัฐพล ตวงทอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง รพ.ศิริราช ได้อธิบายว่า ปกติอัตราการร่วงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 100 เส้น ในวันที่ไม่ได้สระผม และร่วงประมาณไม่เกิน 200 เส้น ในวันที่สระผม ซึ่งปริมาณดังกล่าวถือเป็นเกณฑ์ที่ปกติ ขอขอบคุณ ภาพจาก www.pixabay.com เเต่ในที่นี้ ผู้เขียนจะขออนุญาตเล่าประสบการณ์ตรง หัวเกือบล้าน เนื่องจากไทรอยด์เป็นพิษ โดยปกติเเล้ว ผู้เขียนเป็นผู้หญิงที่มีสุขภาพดี เเข็งเเรง ไม่เคยมีโรคประจำตัว เเต่เมื่ออายุ 31 ย่าง 32 ผู้เขียนก็เริ่มมีปัญหาผมร่วง ร่วงเป็นกำน้อย ๆ โดยเฉพาะเวลาสระผม ร่วงเยอะออกมาเป็นกำใหญ่ติดมือ ผู้เขียนเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติ คิดเข้าข้างตัวเองว่า ผมมันมากไปหน่อยเลยร่วงเยอะ (ปกติถ้าผมยิ่งมัน จะยิ่งร่วงเยอะ) ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เเต่พักหลังประกอบกับ เริ่มมีอาการหิวบ่อย ใจสั่น เหนื่อยง่าย ซึ่งเเตกต่างจากเมื่อก่อนที่ผู้เขียน ทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ได้สบาย จนวันนึง น้องสาวมาทักว่า ผมด้านล่างข้างขวาหายไปเป็นหย่อมน้อย ๆ จึงได้เปิดดูผมทั้งศีรษะ พบว่า ผมหายเป็นหย่อม ๆ หลายจุด โดยเฉพาะด้านในของตรงกลางศีรษะ ผมหายไปขนาดประมาณเหรียญ 10 บาท จำนวน 3-4 เหรียญ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ผู้เขียนจึงรีบไปพบเเพทย์ ณ โรงพยาบาลเเห่งหนึ่ง แพทย์วินิจฉัยว่า ผู้เขียนเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ เนื่องจากค่าไทรอยด์สูงกว่าปกติ และมีปัญหารากผมอักเสบ โชคดีที่ผู้เขียนยังมีรากผมอยู่ เเพทย์จึงฉีดยาที่หนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นรากผม เป็นจำนวนกว่า 10 เข็ม ปัจจุบันรักษาด้วยการทานยาตามคำสั่งเเพทย์อย่างเคร่งครัด รวมทั้งใช้ยาสระผม และยาทาที่เเพทย์จัดให้โดยเฉพาะ เป็นประจำทุกวัน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ปัจจุบันเชื่อว่า โรคไทรอยด์เป็นพิษ เกิดจากร่างกายมีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้มีการสร้างสารแอนติบอดีต่อตนเอง ซึ่งสารนี้ก็ไปกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานมากขึ้น ร่างกายเกิดการเผาผลาญมากขึ้น จึงทำให้ผู้ป่วยหิวบ่อย ใจสั่น เเละเหนื่อยง่าย สังเกตอาการได้จาก การกินเยอะ เเต่น้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น หรือพูดง่าย ๆ ว่า ยิ่งกินยิ่งผอม เพราะร่างกายเผาผลาญตลอดเวลา โรคไทรอยด์เป็นพิษมักพบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 5-10 เท่า ดังนั้น สาว ๆ ต้องหมั่นสังเกตอาการของตนเอง ถ้ามีอาการเหมือนข้างต้น ที่ผู้เขียนกล่าวมา ควรรีบพบเเพทย์นะคะ เเละการตรวจสุขภาพประจำปีเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เมื่อเรารู้ตัวก่อน จะได้รักษาตัวให้ทันนะคะ : ) ขอขอบคุณ ภาพจาก www.pixabay.com