อย่างที่เราทุกคนทราบกันดีว่าปัญหาฝุ่นควันและมลพิษต่าง ๆ ในประเทศไทยถือว่าเป็นปัญหาใหญ่มาก ๆ เลยใช่ไหมคะ เพื่อน ๆ อาจจะรู้กันอยู่แล้วว่าฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศที่เราเจออยู่ทุกวันและสูดดมเข้าไปนั้นส่งผลเสียต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง แต่ทราบกันหรือไม่ว่าผิวหน้าของเราก็ได้รับผลกระทบจากการเผชิญหรือสัมผัสกับฝุ่นควันเหล่านั้นด้วยเช่นกัน อย่างปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เพื่อน ๆ คงได้ติดตามข่าวสารกันมาบ้างว่าช่วงนี้ PM 2.5 เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างหนักกับสุขภาพ ทั้งยังส่งผลต่อผิวของเราเช่นกัน เพราะว่าฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมาก ๆ เล็กกว่าขนาดของรูขุมขนด้วย ดังนั้นมันจึงสามารถซึมผ่านเข้าสู่ผิวหนังได้ ทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนัง เกิดความระคายเคือง เกิดโรคภูมิแพ้ผิวหนัง และยังส่งผลกระทบอย่างมากกับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย นอกจากนั้นแล้วฝุ่นที่เราเผชิญในระหว่างวันจะติดอยู่บนผิวหน้า เนื่องจากบนใบหน้าของเราจะมีสิ่งที่เรียกว่าน้ำมันบนใบหน้าเพื่อช่วยปกป้องผิวหนังและกักเก็บความชุ่มชื้นบนผิวหนัง ดังนั้นเมื่อฝุ่นจับตัวกับน้ำมันบนผิวหน้าของเราแล้ว มันก็จะก่อให้เกิดการอุดตันและก่อให้เกิดสิวอีกด้วยค่ะ เรียกได้ว่าฝุ่น PM 2.5 และมลภาวะทางอากาศนั้นเป็นวายร้ายที่จ้องจะทำร้ายผิวของเราเลยทีเดียว วันนี้เราเลยจะมารีวิวน้ำตบยอดฮิตจากแบรนด์ดังที่จะมาช่วยเช็ดสิ่งสกปรกบนใบหน้า ปลอบประโลมผิวให้แข็งแรง เตรียมพร้อมกับการเผชิญฝุ่นควันที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ เริ่มกันที่ตัวแรก Origin Mega-Mushroom Relief & Resilience Soothing Treatment Lotion น้ำตบตัวนี้เป็นโลชั่นสูตรน้ำที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์หน้าตาเหมือนน้ำเปล่าเลยค่ะ เหลวมาก ดูใส ๆ ไม่มีสีใด ๆ กลิ่นจะมีความอโรม่าค่อนข้างหนัก ถ้าใครไม่ค่อยชอบทาอะไรที่กลิ่นแรง ๆ อาจจะไม่ชอบเลยค่ะ เราตอนใช้แรก ๆ ก็ตกใจเหมือนกันแต่ดมไปสักพักก็ติดค่ะ ให้ความรู้สึกผิวแข็งแรงทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ทาลงบนผิวหน้าเลยด้วยซ้ำ คุณสมบัติหลัก ๆ ของมันคือช่วยปลอบประโลมผิว ฟื้นคืนความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ส่วนประกอบสำคัญในตัวโลชั่นนี้ก็มีมากมาย เช่น เห็ดหลินจือ เห็ดถั่งเช่า และเห็ด Chaga เรียกได้ว่าโลชั่นขวดนี้อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายเลยล่ะค่ะ ปกติแล้วเราใช้เทลงบนฝ่ามือประมาณ 3 - 5 หยด แล้วทาลงบนผิวหน้าโดยตรงค่ะ แต่ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนอยากใช้กับสำลีเพื่อเช็ดคราบสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้าหลังจากล้างหน้าแล้วก็สามารถใช้ได้เหมือนกันนะคะ แต่เราแอบคิดว่ามันเปลืองเลยไม่ค่อยได้ใช้กับสำลีเท่าไหร่ เราได้ใช้ดูจนเกือบหมดขวดแล้วก็รู้สึกว่าผิวหน้าแข็งแรงขึ้น ปลอบประโลมผิวได้ดี ช่วยลดการอักเสบของผิวหน้า ใช้แล้วรู้สึกสดชื่นมาก ๆ เลยค่ะ ราคาก็ถือว่าคุ้มกับปริมาณและคุณภาพ เราซื้อมาขนาด 200 มล. ราคา 1200 บาทค่ะ ตัวที่สองคือ Thayers Rose Petal Witch Hazel Toner ตัวนี้จะเรียกว่าเป็นโทนเนอร์หรือน้ำตบก็ได้ค่ะ เนื้อผลิตภัณฑ์จะเหลวเหมือนน้ำเปล่าแบบตัว Origins ข้างบนเลย ถ้าไม่มีกลิ่นหอม ๆ ลอยออกมาจากตัวน้ำ ๆ ก็คงนึกว่าเป็นน้ำเปล่าเลยค่ะ เวลาเราต้องการให้ผิวหน้าสะอาดมากขึ้นก็มักจะใช้ตัวนี้เทใส่สำลีพอประมาณแล้วเช็ดลงบนใบหน้าหลังจากล้างหน้าให้สะอาดแล้วเพื่อเป็นการทำความสะอาดผิวหน้าครั้งสุดท้ายและเตรียมผิวก่อนการบำรุงค่ะ บางครั้งที่เราต้องการ ๆ ปลอบประโลมผิวหน้าหรือต้องการให้ผิวหน้าสดชื่นเราก็จะทามันโดยตรงลงบนผิวหน้าเลยค่ะ โทนเนอร์ตัวนี้มีคุณสมบัติในการช่วยปรับสมดุลการผลิตน้ำมันบนผิวหน้า ลดการอักเสบของผิว ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ผิว และช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสด้วยค่ะ ผลลัพธ์ที่ได้หลังใช้คือเรารู้สึกว่าผิวหน้ากระจ่างใส สะอาด และสดชื่นขึ้นค่ะ ถ้าเทียบกับตัวข้างบนแล้วเราคิดว่าตัวนี้ยังไม่ดีเท่า แต่เพราะคุณสมบัติของ Thayers ตัวนี้ไม่ได้ช่วยเรื่องของความชุ่มชื้นด้วยค่ะเราเลยไม่ค่อยอยากเปรียบเทียบกับตัวข้างบนเท่าไหร่ เราซื้อมาขนาด 355 มล. ราคาประมาณ 600 บาทค่ะ ด้วยราคาและปริมาณแล้วเราคิดว่าคุ้มค่าค่ะ ใช้แล้วได้ผลดีจริงเลยอยากมารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้เก็บไว้เป็นข้อมูลในการพิจารณาประกอบการซื้อค่ะ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ทุกคนในการตัดสินใจซื้อนะคะ จากประสบการณ์ที่ใช้จริงของเราแล้วเราคิดว่าผลิตภัณฑ์สองตัวนี้ใช้ดีเหมาะกับผิวเรา แต่อย่างไรก็ตามถ้าเป็นไปได้เราแนะนำให้เพื่อน ๆ ไปลองเทสดูก่อนนะคะ ผิวหน้าเราเป็นผิวหน้าธรรมดา ไม่ใช้ผิวแพ้ง่าย เราเลยใช้ได้ปกติค่ะไม่ได้มีอาการแพ้แต่อย่างใด หวังว่าเราจะมีผิวที่แข็งแรงไปด้วยกันนะคะ