แม้ว่าช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่ทำให้เราชุ่มฉ่ำคลายร้อน แต่เมื่อฝนตกก็มีหลายสิ่งที่เราต้องระวังเช่นเดียวกัน เพราะด้วยสภาพอากาศช่วงหน้าฝนที่มีทั้งความเย็นและความชื้นควบคู่ จึงอาจทำให้หลายคนตั้งตัวไม่ทัน เกิดอาการไม่สบายขึ้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นความชื้นในหน้าฝน ส่งผลให้เชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคหลายชนิด มีการเจริญเติบโต และแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเพื่อสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ลองมาดูกันดีกว่าว่าโรคที่มาพร้อมในหน้าฝนมีอะไรบ้าง แล้วเรามี ‘วิธีเตรียมตัวรับมือ’ เพื่อป้องกันโรคในหน้าฝนได้อย่างไร จะมีวิธีไหนบ้างนั้น มาดูพร้อมกันเลย! ทำความรู้จัก ‘โรคที่มาพร้อมกับหน้าฝน’ด้วยความชื้นและความเย็นในหน้าฝน จึงทำให้เชื้อโรคและเชื้อไวรัสเกิดการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว โดยโรคที่มาพร้อมกับหน้าฝน หรือ เป็นโรคที่พบบ่อยในหน้าฝนก็มีดังนี้ 1.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจกลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เป็นกลุ่มโรคที่พบบ่อยในหน้าฝน เกิดจากการสัมผัสเชื้อไวรัสที่แพร่อยู่ในอากาศ สัมผัสผ่านสิ่งของหรือน้ำมูกที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส เช่น หายใจแล้วได้รับเชื้อโรคจากการไอหรือจามของผู้ป่วย ซึ่งแพร่กระจายอยู่ในอากาศ โดยกลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจที่พบในหน้าฝนก็ได้แก่ โรคไข้หวัดธรรมดา โรคไข้หวัดใหญ่ โรคต่อมทอมซิลอักเสบ และโรคปอดอักเสบ เป็นต้น2.กลุ่มโรคติดต่อระบบทางเดินอาหาร มักมีสาเหตุจากการดื่มน้ำหรือการรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด ทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ หรือติดเชื้อไวรัส โดยกลุ่มโรคติดต่อระบบทางเดินอาหารที่มักพบในหน้าฝนก็ได้แก่ โรคอาหารเป็นพิษ โรคอุจจาระร่วงอย่างเฉียบพลัน โรคตับอักเสบ เป็นต้น3.กลุ่มโรคที่มียุงและแมลงเป็นพาหะ ถือเป็นโรคที่มาสาเหตุมาจากยุง เช่น ยุงลาย ยุงก้นปล่อง ยุงรำคาญ ซึ่งโรคที่มักพบบ่อยก็ได้แก่ โรคไข้เลือดออก ที่เป็นโรคติดต่อซึ่งมียุงลายเป็นพาหะ สามารถพบได้ในทุกช่วงอายุ, โรคไข้มาลาเรีย มีสาเหตุมาจากยุงก้นปล่อง มีแหล่งอยู่แถวป่าทึบ ภูเขาสูง แหล่งน้ำธรรมชาติ และโรคไข้สมองอักเสบเจอี ซึ่งมียุงรำคาญเป็นพาหะ มักพบในแหล่งน้ำทุ่งนา เป็นต้น4.กลุ่มโรคมือ เท้า ปาก ถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่พบบ่อยในช่วงหน้าฝน มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโร จนทำให้เกิดเป็นไข้ มีแผลในปาก เกิดตุ่มน้ำใสตามมือ เท้า และลำตัว แม้จะพบได้ในผู้ใหญ่บ้าง แต่จะพบในเด็กเล็กมากกว่า และมักมีอาการรุนแรงกว่าผู้ใหญ่5.กลุ่มโรคที่ติดเชื้อผ่านแผล และเยื่อบุผิวหนังเป็นอีกกลุ่มโรคในหน้าฝนที่ต้องระวังอย่างยิ่ง สาเหตุของกลุ่มโรคนี้มาจากการสัมผัสกับน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคและเชื้อไวรัส เกิดจากการสัมผัสปัสสาวะ เลือด หรือเนื้อเยื่อของสัตว์ที่ติดเชื้อชนิดนี้ โดยโรคในกลุ่มติดเชื้อผ่านแผล และเยื่อบุผิวหนัง ก็ได้แก่ โรคฉี่หนู ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่มีหนูเป็นพาหะ และมีน้ำเป็นตัวนำพา โดยเชื้อจะถูกขับออกมาพร้อมปัสสาวะของหนูหรือสัตว์ฟันแทะ เมื่อฝนตกจึงทำให้เกิดการปนเปื้อนในน้ำและดินชื้น ซึ่งเชื้อชนิดนี้จะสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผล รอยขีดข่วน หรือเยื่อบุของปาก ตา และจมูก ดังนั้นทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีบาดแผล จึงควรหลีกเลี่ยงการเดินลุยในน้ำขัง น้ำท่วม และควรใส่รองเท้าบูทหุ้มขาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ วิธี ‘เตรียมตัวรับมือ’ ป้องกันโรคที่มาจากหน้าฝนเพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ห่างไกลโรคและอาการป่วยไม่สบายในช่วงหน้าฝน การรู้วิธีรับมือเตรียมตัวป้องกันอันตรายจากโรคเหล่านี้ ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อรู้วิธีรับมือป้องกันโรคที่มาพร้อมหน้าฝน ก็จะช่วยทำให้เราระวังตัว ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรค พร้อมช่วยดูแลสุขภาพร่างกายของเราและคนที่เรารักให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น 1. เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายด้วยสภาพอากาศในหน้าฝนที่มักแปรปรวนอยู่บ่อยครั้ง การเตรียมตัวรับมือด้วยการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ถือเป็นด่านสำคัญในการสร้างสุขภาพดีของทุกคน เพราะเมื่อภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรง ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้มากขึ้น เพราะภูมิคุ้มกันมีหน้าที่ช่วยป้องกันเชื้อโรค โดยวิธีเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เพื่อต้านทานโรคที่มาพร้อมกับหน้าฝนก็มีดังนี้ • นอนหลับให้เพียงพอการนอนหลับตามชั่วโมงการนอนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ประมาณ 7 – 9 ชั่วโมงต่อวัน และนอนในช่วงเวลาที่ถูกต้อง คือ เข้านอนก่อน 22.00 น. ของทุกคืน จะช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมน เพื่อฟื้นฟูร่างกาย พร้อมสร้างเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงมากขึ้น โดยจากข้อมูลของกรมสุขภาพจิตพบว่า การนอนไม่พอส่งผลต่อการสร้างเซลล์ในระบบภูมิต้านทานได้จริง ๆ เพราะจากข้อมูลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยชิคาโก ที่ลองทดสอบฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ในผู้ที่นอนหลับคืนละ 7 ชั่วโมง หลังนอนได้ครบ 4 วัน พบว่าร่างกายสามารถสร้างเซลล์ในระบบภูมิต้านทาน หรือ Antibody ได้มากกว่ากลุ่มคนที่นอนหลับได้คืนละ 4 ชั่วโมงมากถึง 50%• ทานอาหารที่มีประโยชน์ และครบ 5 หมู่การทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างสุขภาพแข็งแรงของมนุษย์ทุกคน เพราะอาหารที่ทานเข้าไปเป็นหนึ่งในปัจจัยการกำหนดสุขภาพทีดีหรือไม่ดีของเรา ดั่งคำพูดว่า “You are what you eat” หรือแปลว่า “คุณกินอะไรเข้าไป คุณก็เป็นอย่างนั้น” ซึ่งอาหารเพื่อเสริมภูมิต้านทานให้แข็งแรงก็ได้แก่ ขิง ตะไคร้ ต้นอ่อนทานตะวัน โปรตีน และผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เป็นต้น• ใช้น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส (Eucalyptus Essential Oil) น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส เป็นตัวช่วยชั้นเยี่ยมในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน BMC Immunology พบว่าน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัสกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันได้ พร้อมกันนี้มีการศึกษาจากนักวิจัยชาวอิตาลี รวมทั้งการศึกษาของมหาวิทยาลัยซินซินนาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (University Of Cincinnati) พบว่าน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส ช่วยเพิ่มความสามารถของเซลล์แมคโครฟาจในการทำลายเชื้อโรคได้สูงขึ้น อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อไวรัส เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าถ้าอยากสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง การดมน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัสที่สกัดจากธรรมชาติ 100% ด้วยการใช้ควบคู่กับเครื่องพ่นน้ำมันหอมระเหย (Aroma Diffuser) ที่สามารถกระจายกลิ่นได้ทั่วบ้าน ก็จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ลดความเสี่ยงต่ออาการไม่สบาย และช่วยเสริมสร้างร่างกายให้มีภูมิต้านทานเชื้อโรคต่าง ๆ ที่มาพร้อมกันในหน้าฝนได้ดีมากขึ้น 2. ยับยั้งเชื้อโรคในอากาศ อากาศเป็นตัวกลางสำคัญในการแพร่กระจายเชื้อโรคและเชื้อไวรัสในช่วงหน้าฝน เพราะด้วยอากาศที่เย็นและชื้น เชื้อโรคและเชื้อไวรัสจึงสามารถแพร่กระจายได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งหากหายใจหรือสัมผัสรับเอาเชื้อไวรัสที่กระจายอยู่ในอากาศผ่านการไอหรือจามของผู้ป่วยเข้าไป หรือสัมผัสผ่านสิ่งของที่ปนเปื้อนกับเชื้อไวรัส ก็จะทำให้เกิดอาการป่วยไม่สบายขึ้น ซึ่งกลุ่มโรคในหน้าฝนที่มักติดต่อจากการได้รับเชื้อโรคในอากาศ ก็คือกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเป็น โรคไข้หวัดธรรมดา โรคไข้หวัดใหญ่ หรือโรคต่อมทอมซิลอักเสบ เป็นต้น ดังนั้น การยับยั้งเชื้อโรคไม่ให้มีอยู่ในอากาศ จึงเป็นสิ่งที่เราควรใส่ใจอย่างยิ่ง เพราะเป็น 1 ในวิธีรับมือป้องกันโรคที่มาจากหน้าฝน โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มระบบทางเดินหายใจ ซึ่งการวิจัยในต่างประเทศพบว่า น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัสอุดมไปด้วยสารประกอบหลัก 1,8-cineole หรือ Eucalyptol (ยูคาลิปตอล) ที่สูงถึง 70-85% ดังนั้นจึงทำให้น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส มีคุณสมบัติต้านเชื้อไวรัส ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา โปรโตซัว และเชื้อโรคต่าง ๆ ที่มีอยู่ในบ้านและอากาศได้ แต่นั่นหมายความว่า ต้องเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ที่สกัดจากธรรมชาติ 100% เท่านั้น ซึ่งเราสามารถเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส เพื่อยับยั้งเชื้อโรคในอากาศ ทั้งอากาศภายในบ้านและสถานที่ทำงานได้โดย • ผสมน้ำมันหอมระเหยคู่กับเครื่องพ่นอโรม่า (Aroma Diffuser) ช่วยกระจายกลิ่นให้น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส สร้างอากาศที่สดชื่นบริสุทธิ์ พร้อมยับยั้งเชื้อโรคที่มีอยู่ในอากาศได้ทั่วบริเวณ • ใช้เป็นสเปรย์ปรับอากาศ ด้วยการผสมน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส จากธรรมชาติแท้ 100% คู่กับน้ำเปล่าหรือน้ำกลั่น ในขวดสเปรย์ แล้วฉีดในอากาศให้ทั่วห้อง 3. ระวังยุงและแมลงเป็นพาหะยุงและแมลงเป็นพาหะสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคในหน้าฝน ไม่ว่าจะเป็นยุงลายที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออก ยุงก้นปล่องที่ทำให้เกิดโรคไข้มาลาเรีย และยุงรำคาญ เป็นต้น ซึ่งเราสามารถเตรียมตัวรับมือป้องกันยุงและแมลงไม่ให้ชุกชุม หรือเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเหล่านี้ได้โดย การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันแต่เนิ่น ๆ การทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และการใช้น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัสเป็นตัวช่วยในการกำจัดยุงและแมลง โดยน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส (Eucalyptus Essential Oil) ที่สกัดจากธรรมชาติแท้ 100% ถือเป็นตัวช่วยในการขับไล่ยุง แทนการใช้ DEET ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ทางเคมีที่พบได้ในสารกันยุง โดยพบว่าเมื่อใช้น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส (Eucalyptus Essential Oil) ผสมกับน้ำมันตัวพาทาเฉพาะที่ จะสามารถขับไล่ยุงได้นานถึง 8 ชั่วโมง นอกจากนี้เมื่อนำน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัสผสมกับน้ำในขวดสเปรย์ ก็สามารถใช้ฉีดไล่แมลง เหา และตัวเรือดได้อีกด้วย หากใครต้องการขับไล่ยุงและแมลงด้วยวิธีธรรมชาติ การใช้น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัสบริสุทธิ์ ก็ถือเป็นตัวเลือกชั้นเยี่ยมเลยทีเดียว 4. ขับไล่หนูด้วยวิธีธรรมชาติ โรคฉี่หนูเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวังและป้องกันอย่างมากในช่วงหน้าฝน เพราะเมื่อฝนตกจนเกิดน้ำท่วมขัง ก็อาจพาปัสสาวะที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสจากหนู หรือเชื้อโรคในท่อน้ำเสียไหลมารวมกับน้ำฝนที่ท่วมขังได้ ซึ่งโรคฉี่หนูจะติดต่อทางบาดแผลโดยมีน้ำเป็นตัวพาหะ ดังนั้นทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีบาดแผล จึงควรเลี่ยงการเดินในน้ำท่วมขังอย่างยิ่งดังนั้นเพื่อป้องกันโรคฉี่หนู ก็ควรขับไล่หนูในแต่ละบริเวณให้หนีหายไปตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งการใช้น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัสถือเป็น 1 ในวิธีขับไล่หนูที่มีประสิทธิภาพ เพราะน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัสอุดมไปด้วยสาร 1,8-cineole ที่สามารถกำจัดศัตรูพืชได้อย่างดีเยี่ยม เป็นวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการใช้สารเคมี โดยหากใครกำลังมองหาวิธีกำจัดหนูด้วยวิธีธรรมชาติ ต้องการลดความเสี่ยงจากโรคฉี่หนู ไม่ให้มีหนูในบริเวณนั้น ๆ ก็สามารถหยดน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส ที่สกัดจากธรรมชาติแท้ 100% ผสมในขวดสเปรย์น้ำเปล่า แล้วฉีดในพื้นที่ที่ต้องการ ก็จะช่วยขับไล่หนูให้หนีหายไปได้ดียิ่งขึ้น 5.ทานอาหารที่สุกสะอาดเพื่อป้องกันการเกิดโรคทางเดินอาหารที่พบบ่อยในหน้าฝน เราจึงควรเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ทุกครั้ง เพราะการทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ทานอาหารที่ตั้งทิ้งไว้นาน หรือทานอาหารและน้ำดื่มที่ไม่สะอาด มีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรีย ก็อาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง รู้สึกไม่สบายขึ้นได้ แม้ว่าหน้าฝนจะช่วยทำให้เรารู้สึกเย็นสดชื่นชุ่มฉ่ำ แต่ด้วยสภาพอากาศที่เย็นและชื้น ก็ทำให้โรคต่าง ๆ แพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเพื่อสร้างร่างกายให้สุขภาพดี ปลอดภัยจากโรคที่มาพร้อมกับหน้าฝน ก็ต้องหมั่นเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรง ดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่พาตัวเองไปในจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโรคเพื่อความปลอดภัยเอาไว้เสมอ ลองนำวิธีเตรียมตัวรับมือ เพื่อป้องกันโรคที่มาพร้อมกับหน้าฝนไปใช้กันดูนะคะ รับรองว่าจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ให้เราได้พักผ่อนไปกับบรรยากาศหน้าฝนอันแสนชุ่มฉ่ำได้อย่างสบายใจมากขึ้นเลย ขอบคุณเครดิตรูปภาพปก จาก Canvaขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบที่ 1 จาก @macrovector โดย Freepixขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบที่ 2 จาก @poravute โดย Freepixขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบที่ 3 จาก @diana.grytsku โดย Freepixขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบที่ 4 จาก @timolina โดย Freepixขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบที่ 5 จาก CHÔL Aromatique โดย CHÔL Aromatique ขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบที่ 6 จาก CHÔL Aromatique โดย CHÔL Aromatique ขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบที่ 7 จาก CHÔL Aromatique โดย CHÔL Aromatique ขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบที่ 8 จาก @alexphotos โดย Freepixขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบที่ 9 จาก @jcomp โดย Freepix ขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบที่ 10 จาก @freepik โดย freepik*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"* ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565