เมื่อน้ำหนักขึ้น รูปร่างเกิดการเปลี่ยนแปลง สัดส่วนที่เคยเต่งตึง เริ่มมีไขมันส่วนเกิน ทำให้เกิดความรำคาญใจต่อใครหลายๆคน การออกกำลังกายจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้รูปร่างเกิดการเปลี่ยนแปลง หลายๆคนจึงเริ่มใช้แรงบันดาลใจที่อยากเปลี่ยนแปลงรูปร่างมาเป็นแรงผลักดันเพื่ออกกำลังกาย ซึ่งเป็นเป็นเหตุผลหลักๆ ที่ผู้ต้องการลดน้ำหนักใช้เพื่อเริ่มออกกำลังกาย แต่ว่าเปอร์เซนต์ที่จะประสบความสำเร็จของแต่ละคนนั้นก็แตกต่างกัน บางคนอาจทำได้ในระยะยาวจนเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่บางคนก็อาจจะล้มเลิกไปกลางคันก่อนดื้อๆ ดังนั้นทางผู้เขียนจึงได้รวบรวบวิธีการจูงใจในการลดน้ำหนักด้วยตัวเองมาฝากกันค่ะ เหตุผลแต่ละข้อที่ได้รวบรวมมาในวันนี้ก็ได้ผ่านประสบการณ์ด้วยตัวเองมาแล้ว พร้อมกับประกอบบทความจากเว็บไซต์ที่จะแนบในช่วงท้ายในบทความไว้ให้ประกอบไปด้วยนะคะ เครดิตภาพ : kjpargeter / freepik1.อะไรที่ตัดสินใจให้เริ่มลดน้ำหนัก ( Why you want to lose weight) การเริ่มหาเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยากลดน้ำหนักเป็นข้อแรกๆที่ทำให้คนที่กำลังลดน้ำหนักทุกคนหันมาออกกำลังกาย เพราะการที่เรารู้ว่าเราทำไปเพื่ออะไรนั้น เป็นการช่วยให้เราได้มองเป้าหมายชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งผลจากข้อนั้นก็ทำให้เรายังคงมุ่งมั่นอยู่กับการออกกำลังกายของเราในแต่ละครั้งค่ะ ซึ่งการมองเห็นเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมเราถึงลดน้ำหนัก มันเป็นแรงจูงใจชั้นเยี่ยมที่ทำให้เราไม่เลิกไปกลางคันเสียก่อน ข้อนี้จึงเป็นเหตุผลสำคัญในการเริ่มลดน้ำหนักและยังคงมุ่งมั่นกับเป้าหมายค่ะ หากเหตุผลของเราไม่ชัดเจนก็อาจจะทำให้เราทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ ไม่เกิดผลได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการเริ่มต้นทั้งนั้น เพียงแต่ว่าการตั้งใจลดน้ำหนักที่มาจากตัวเองนั้น ย่อมจะได้ผลดีกว่าการทำเพื่อคนอื่นค่ะ ในงานวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า การลดน้ำหนักด้วยปัญหาสุขภาพนั้นยังเป็นแรงจูงใจได้ไม่ดีเท่าการลดน้ำหนักที่มาจากตนเอง เครดิตภาพ : cookie_studio / freepik2.ไม่มีวันว่าพรุ่งนี้ (Just do it) วิธีเริ่มต้นการลดน้ำหนักแบบง่ายๆสุด ก็คือการเริ่มลงมือทำเลยค่ะ! เพราะว่าการเริ่มลงมือทำย่อมเป็นผลดี และถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว การที่ทำอะไรครึ่งๆ กลางๆมักจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร การลดน้ำหนักก็เช่นกันค่ะ เพราะว่าการลดน้ำหนักต้องใช้เวลาอย่างมากถึงจะเห็นผล การผัดวันประกันพรุ่งจะทำให้เราออกห่างจากเป้าหมายเรามากขึ้น และทำให้ไม่ได้เริ่มอย่างจริงจัง การเริ่มต้นนั้นไม่จำเป็นจะต้องทำอย่างหนักหน่วงนะคะ เราสามารถเริ่มจากก้าวเล็กๆ ก่อนก็ได้ค่ะ เช่น พยายามขยับตัวในแต่ละวันให้เยอะขึ้น ปรับเปลี่ยนการกินบ้าง อาจจะเป็นช่วงเย็นที่จะเน้นเป็นมื้อสุขภาพมากขึ้น เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีค่ะ และทำให้เราไม่รู้สึกว่าอยากจนไป จนทำให้เป็นแรงจูงใจที่อยากทำในทุกๆวันได้อย่างง่ายดาย แบบที่ไม่ต้องเครียดและกดดันความรู้สึกตัวเองให้มากนัก เพราะฉะนั้นเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้จากก้าวเล็กๆ เพื่อเป้าหมายในอนาคตข้างหน้านะคะ เครดิตภาพ : prostooleh / freepik 3. จดจ่อกับกระบวนการลดน้ำหนักมากกว่าผลลัพธ์ (Focus on your process goal) หลายๆคนตอนที่กำลังลดน้ำหนัก ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะจดจ่ออยู่กับผลลัพธ์เป็นส่วนใหญ่ว่าสัดส่วนจะลดลงไปมากน้อยเท่าไหร่ หรือ น้ำหนักจะลดลงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นผลลัพธ์ (Final results) ในตอนท้ายสุด ทำให้หลายๆคนล้มเลิกความตั้งใจไปกลาทางและไม่สำเร็จ ดังนั้นมันน่าจะง่ายกว่า ถ้าเปลี่ยนมาเป็นพุ่งเป้าหมายไปที่ว่าในแต่ละอาทิตย์ เราจะมีกิจกรรมอะไรบ้างที่จะช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนักให้ได้ผล ไม่ว่าจะเป็น การหันมาดื่มน้ำให้มากขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มการเผาผลาญ, การเปลี่ยนมากินอาหารที่มีไฟเบอร์และโปรตีนมากขึ้น เพื่อช่วยเรื่องการซ่อมแซมกล้ามเนื้อและช่วยเรื่องระบบขับถ่าย, การลดของหวาน, การออกกำลัง 30 นาทีต่อวัน เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากจะเป็นการลดความเครียดระหว่างลดน้ำหนัก ยังช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ในระยะยาวมากกว่าค่ะ ถือว่าการประสบความสำเร็จในเป้าหมายเล็กจะเป็นสิ่งต่อยอดในการลดน้ำหนักแบบสุขภาพดีที่ยั่งยืนค่ะ เครดิตภาพ : frimufilms / freepik4. ออกกำลังกายในแบบของตัวเอง (Design your own plan) ข้อนี้เป็นสิ่งที่ต่อเนื่องจากข้อก่อนหน้านี้นะคะ ในแต่ละวันเราสามารถวางแผนได้เลยค่ะ ว่าเราจะออกกำลังกายแบบไหน ทำอะไรบ้าง นานเท่าไหร่ เป็นเป้าหมายเล็กๆต่อเนื่องไปในทุกๆวัน ก็ช่วยเราสามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ยากค่ะ ซึ่งข้อนี้สืบเนื่องจากข้อก่อนหน้า ตรงที่ว่าเราควรจะจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เราทำในทุกๆวัน มากกว่าจะไปคิดว่า เมื่อไหร่น้ำหนักจะลดลงซักที ถ้าทำแบบนี้ได้แล้ว การทำต่อเนื่องในระยะยาวก็จะง่ายมากๆเลยค่ะ เช่น ในวันจันทร์เราอาจจะบอดี้เวท 30 นาที และต่อด้วย cardio อีกสัก 30 นาทีให้ครบ 1 ชั่วโมง ส่วนวันที่เหลือในแต่ละสัปดาห์ อาจจะสลับกันไปกับกิจกรรมอย่างอื่น (เต้น, วิ่ง, Pilates, โยคะ) การออกแบบการออกกำลังกายในแบบของตัวเองก็ช่วยให้เรียนรู้ตัวเองได้มากขึ้นอีกด้วยนะคะ ว่าแบบไหนที่ช่วยเราได้มากที่สุด อีกทั้งยังไม่น่าเบื่ออีกด้วยค่ะ เครดิตภาพ : lookstudio / freepik5. พักบ้างไม่เป็นไร (it is okay to take a break) มาถึงข้อสำคัญอีกข้อหนึ่ง การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องอาจจะช่วยให้เราเห็นผลลัพธ์ได้เร็วขึ้นก็จริง แต่ว่าการพักเองก็สำคัญเช่นกันค่ะ เนื่องจากเป็นการพักซ่อมแซมกล้ามเนื้อ อาการล้า จากการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงได้เป็นอย่างดี ทำให้การออกกำลังครั้งต่อไปมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้จิตใจเราผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียดจนมากเกินไป การพักไม่ได้แปลว่าเราจะขี้เกียจนะคะ แต่การพักก็ถือว่าเป็นการชาร์จพลังเพื่อเริ่มต้นใหม่ให้ดีขึ้นในทุกๆครั้งอีกด้วยค่ะ ความรู้สึก อารมณ์ และความนึกคิดล้วนแต่เป็นตัวแปรในการลดน้ำหนัก หากเราตึงเครียดมากเกินไป คอร์ติซอล (Cortisol) ในร่างกายก็จะหลั่งออกมา ทำให้เราโหยหาอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพและทำให้เราต้องการกินพวกแป้ง หรือ น้ำตาล เพื่อมาชดเชยกับโหยหาอาหาร ทำให้เกิดการอ้วนลงพุง ดังนั้น การลดน้ำหนักควรจะเดินทางสายกลาง ในแบบที่ไม่ต้องตึงมากเกินไป จึงจะสามารถจูงใจในการออกกำลังกายในระยาวได้นะคะ เครดิตภาพ : user15285612 / freepik6. แข่งขันอยู่ตลอด (Be competitive) สิ่งที่จะทำให้การออกกำลังกายมีความสนุก และ ท้าทาย ก็คือการแข่งขันเพื่อเอาชนะเป้าหมาย การแข่งขันอาจจะเป็นการเข้าร่วมกลุ่มในยิม เพื่อสร้างความท้าทาย และอยากเอาชนะตัวเอง การที่เรามีการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราตื่นตัว และอยากที่จะทำให้ดียิ่งๆขึ้นไป มากกว่าการออกกำลังกายคนเดียวที่ไม่มีการแข่งขัน การแข่งขันจะเป็นการกระตุ้นให้เราเกิดความจริงจัง และเป็นตัวกระตุ้นให้เรายึดกับเป้าหมายที่เราจะทำมากกว่า เช่น วันนี้เรา squat ได้ 50 รอบ แต่ในกลุ่มอาจจะทำได้อยู่ที่ประมาณ 55 รอบ หลังจากที่เราเห็นผลลัพธ์มาตรฐานในกลุ่มที่ทำได้เยอะกว่า สิ่งนั้นก็จะเป็นตัวช่วยผลักดันให้เราพยายามมากขึ้น และทำให้เกิดการพัฒนาค่ะ เครดิตภาพ : freepik / freepik7.ล้อมรอบตัวเองด้วยสภาพแวดล้อมที่ดี (Stay Healthy) มาถึงข้อสุดท้ายกันแล้วนะคะ สภาพแวดล้อมก็ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการลดน้ำหนักระยะยาวค่ะ หากเพื่อนๆคนไหน ยังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการลดน้ำหนักแล้ว อาจจะต้องใจแข็งสักหน่อยนะคะ เพราะว่าการลดน้ำหนักในระยะยาว ต้องอาศัยปัจจัยที่เรียกว่า "พฤติกรรม" เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้น้ำหนักลดลง หรือ ไม่มีการล้มเลิกความตั้งใจโดยเด็ดขาด เราอาจจะเปลี่ยนแปลงตัวเองทีละเล็กด้วยการทำอาหารให้มากขึ้น หรือ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย พยายามหาของหวาน ที่เน้นสุขภาพเป็นสำคัญ เช่น ถ้าหิวของหวานมากๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นลองทานผลไม้ที่มีรสหวานดูแทน แต่ทานในปริมาณที่เหมาะสม และค่อยๆไปปรับไปสู่อาหารและของว่างที่เน้นสุขภาพมากขึ้น ค่อยๆเปลี่ยนทีละเล็กทีละน้อย และก็อนุญาตตัวเองให้ทานอาหารที่มีไขมันสูงได้ในบางครั้งบางคราว การดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสุขภาพต่างๆมาใช้ก็ถือว่าเป็นการเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลา ว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในระหว่างการลดน้ำหนัก ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดก็เป็นประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้ลองแล้ว รู้สึกว่าเป็นแรงจูงใจที่ทำให้เรายังคงออกกำลังกายอยู่อย่างต่อเนื่องเป็นประจำค่ะ เครดิตภาพ : kroshka_nastya / freepikสำหรับที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ทางผู้เขียนก็ได้รวบรวมมาบ้างจากเว็บไซต์และยังคงทดลองหาสิ่งใหม่ๆมาทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ที่กล่าวมาทั้งหมด ถือว่าเป็นข้อสรุปหลักๆที่ยังคงใช้อยู่ในช่วงนี้ค่ะ ไม่แน่ในอนาคตอาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้ เพราะทุกๆวันถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่นะคะ อย่างไรก็แล้วแต่ แค่ลงมือทำก็ถือว่าสำเร็จไปมากกว่าครึ่งแล้วค่ะ หากเพื่อนๆอยากลองปรับเปลี่ยนอะไร สามารถแชร์ความคิดเห็นกันได้เลยนะคะ พบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะภาพหน้าปกจาก : canva / canva ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.healthline.com และ https://www.shape.com เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !