เมื่อคืน(19/01/2020)ได้มีโอกาสนั่งดูเกมส์แดงเดือดศึกแห่งศักศรีดิ์ของยอดทีมเมืองผู้ดี ที่ดันมีสีประจำสโมสรสีเดียวกัน จึงทำให้ทุกครั้งที่สโมสรลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั่นโคจรมาพบกัน ความกระกายในชัยชนะของผู้เล่นและแฟนบอลยอมมีมากกว่าปกติ ยามที่ลงไปฟาดแข้งกับทีมอื่นๆเป็นเท่าทวีคูณ ซึ่งความกระหายในชัยชนะเหล่านี้เปรียบดั่งว่าสีแดงของใครจะแน่กว่ากัน มุมมองแบบนี้มันฝังรากลึกลงไปในจิตวิญญาณของแฟนบอลทั้งสองสโมสรมาทุกยุคทุกสมัยจนเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ทั่วโลกต่างจับตามองและคาดหวังว่าจะเป็นเกมส์ฟุตบอลที่สนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจตลอด 90 นาที ซึ่งจริงๆแล้วสำหรับผมคอบอลยุค 90 อย่างผมมันก็เป็นจริงเช่นนั่นทุกคำรบ นักเตะและแฟนบอลต่างๆลงสนามมาห่ำหั่นใส่กันอย่างไม่มียั้ง ในสนามก็วาดฝีเท้ากันเต็มกำลัง ใส่กันไม่ยั้งชนิดที่ไม่กลัวเจ็บหรือต้องหามออกจากสนาม จนเป็นเกมส์ที่ใบเหลืองใบแดงปลิวว่อนทั้งสนาม จนบางทีอารมณ์ในเกมส์กีฬาก็ทำให้บานปลายไปจนถึงแฟนบอลอันธพาลนอกสนามที่ตีกันยับเช่นกัน จนเป็นที่มาของคำว่าศึกแดงเดือดของแฟนบอลมาจนถึงทุกวันนี้เพราะเมื่อใดก็ตามที่สองสโมสรนี้พบกันมันเดือดจริงๆครับท่านผู้ชมภาพประกอบจาก www.pexels.com PIC Link : www.pexels.com/photo/people-watching-soccer-game-1884574 ในยุคนั่นเสน่ห์ของเกมส์ฟุตบอล ศึกแดงเดือดมันมีมากมายจริงๆน่ะครับ ขนาดผลงานรวมของทั้งสองทีมไม่ว่าจะดีชั่วมากน้อยแค่ไหนหรือลำดับที่ในตารางคะแนนจะแตกต่างกันหลายตัวเลขก็ตาม แต่นั่นเมื่อถึงเวลาที่สโมสรลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดต้องลงฟาดแข้งกัน มันเป็นเกมส์ที่พร้อมจะออกผลได้ทั้ง 3 หน้าจริงๆครับ ชนะ เสมอ แพ้ โดยที่สถิติหรือผลงานใดๆก่อนหน้าของการลงสนามนั่นไร้ความหมายไปเลย เพราะเมื่อลงสนามไปแล้วทุกอย่างมันเท่ากันหมด มันออกมาจากแรงผลักดันของศักศรีดิ์แห่งสีแดงที่ต่างอยากประกาศให้โลกรู้ว่าข้านี่แหละสีแดงตัวจริงยอดทีมหนึ่งเดียวแห่งเกาะอังกฤษภาพประกอบจาก www.itl.cat PIC Link : www.itl.cat/downwall/ohJhbm_paul-scholes-manchester-united-paul-scholes-manchester-united ผมขอยกตัวอย่างเกมส์แดงเดือดในความทรงจำของใครหลายคนทั้งแฟนหงส์และแฟนผี ศึก FA Cup เมื่อปี 1996 ที่ทั้งสองทีมต่างทุ่มเทกำลังกันสุดความสามารถด้วยผู้เล่นท็อปสตาร์ของเกาะอังกฤษในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นสตีฟ แม็คมานามาน ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ เจมี่ เรดแนปป์ของฝั่งหงษ์แดง หรือรอย คีน เดวิดเบคแฮม อีริค คันโตน่าของฝั่งปีศาจแดง จำได้ว่าเกมส์นั่นเป็นไปอย่างสูสีผลัดกันรุกและรับ เกมส์ตรงกลางตึงเข้มตลอดเวลาจนดูทีท่าว่าอีกไม่กี่นาทีเกมส์จะจบลงด้วยผลเสมอ แต่แล้วจังหวะมหัศจรรย์ของอีริค คันโตน่าที่กระโดดด้นถ่อยหลังยังกับมีวิชาตัวเบา วางเท้าวอลเลย์ลูกเปิดมุมของเดวิด เบคแฮมที่ถูกนายทวารเดวิด เจมส์ ชกออกมาพอดี บอลพุ่งเป็นจรวดเข้าซุกก้นตาข่ายส่งผลให้ฝ่ายสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นผู้กำชัยชนะศึกแดงเดือดครั้งนี้ไว้ได้ ใครที่ได้ชมเกมส์นี้คงต้องร้องเป็นเสียงเดียวกับผมว่าโคตรมันส์พะยะค่ะ แม้จะมีเพียงประตูโทนหนึ่งเดียวแต่ตลอด 90 นาทีนั่นมันเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของความกระหายในชัยชนะ หลายครั้งที่มีจังหวะเข้าแทคเกิ้ลกันหนักๆ จังหวะตัดเกมส์ที่น่าหวาดเสียว นี่แหละเสน่ห์ของเกมส์แดงเดือด ภาพประกอบจาก www.itl.cat PIC Link : www.itl.cat/wallview/iTTTih_mohamed-salah-popular-football-player-4k-wallpapers-liverpool จนมาถึงเกมส์ล่าสุด(19/01/2020) หรือว่าไปถึง 2-3 ปีหลังๆมานี้ของเกมส์แดงเดือด ดูเหมือนเสน่ห์บางอย่างของเกมส์แดงเดือดกำลังจะหายไปสิ่งแรกเลยที่สัมผัสได้เลยคือกองเชียร์ที่ไม่เดือดอีกต่อไปแล้ว ในยุคหลังๆบรรยากาศกองเชียร์พื้นเมืองแท้ๆที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของความจงรักภักดีต่อสโมสรประจำบ้านเกิดของทั้งสองทีมดูจะบางตาลงไปอย่างเห็นได้ชัด ถูกทดแทนมาด้วยกองเชียร์หน้าตี๋ หน้าแขกใส่เสื้อแดงกันถ้วนหน้า เดี๋ยวๆนี่บอลอังกฤษน่ะ แม้กระนั้นกองเชียร์พวกนี้จะเป็นบิ๊กแฟนตัวจริงน่ะครับ ผมก็พอเข้าใจไม่อย่างนั่นคงไม่ทุ่มทุนลงแรงข้ามน้ำข้ามทะเลมาดูทีมรักลงเตะแค่ 90 นาทีหรอก แต่ก็อย่างว่าแหละครับจะเข้มข้นเท่าฮูลิแกนขนานแท้ของอังกฤษเขาย่อมเทียบกันไม่ได้ อีกสิ่งต่อมาที่ผมรู้สึกได้ในความไม่เดือดแล้ว คือกัปตันทีมของทั้งสองทีมซึ่งกว่ากันตรงๆ ผมไม่เคยลืมภาพของกัปตันทีมจอมห้าวที่พร้อมปะทะทุกสถานการณ์อย่างรอย คีน หรือพี่หัวเสือสตีเฟ่น เจอร์ราดที่สามารถบิ้วอัพเกมส์ปลุกกำลังใจลูกทีมให้กลับมาสู้ได้อยู่เสมอ หรือกัปตันทีมคนก่อนหน้าที่นี้ที่มีบุคลิกห้าวเป้งไม่ต่างกัน มันเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของกีฬาฟุตบอลที่ขาดหายไปในฟุตบอลยุคปัจจุบัน มาจนถึงระบบแทคติกของฟุตบอลที่แตกต่างจากยุค 90 สมัยนี้ไม่มีกองกลางตัวตัดเกมส์แบบสมัยก่อนเน้นความสามารถของผู้เล่นที่หลากหลายและไปกับบอลได้ดีมาทดแทน ทำให้รูปเกมส์ออกมาดูเบาลงกว่าสมัยก่อนมากนัก ความตื่นเต้นแบบบ้าดีเดือดหรือความสะใจของพวกคอบอลสายฮาร์ดคอก็หายไปด้วย นี่แหละผมถึงบอกว่าแดงเดือดที่ไม่เดือดอีกต่อไปแล้ว....... เครดิตภาพปก www.pexels.com PIC Link : www.pexels.com/photo/multicolored-soccer-ball-on-green-field-47730 เครดิตตราสโมสร https://seeklogo.com PIC Link : https://seeklogo.com/vector-logo/171235/liverpool-fc PIC Link : https://seeklogo.com/vector-logo/217454/manchester-united