ส่วนประกอบอาหารอย่างนึงที่มักจะเห็นบ่อย ๆ ไม่ว่าจะผัด ต้ม ตุ๋น แกงจืด มักจะใส่เห็ดหอมลงไปด้วย แอบสงสัยเหมือนกันที่ต้องใส่ไปในอาหารที่ทำเพราะจะทำให้อาหารหอมขึ้นเหมือนชื่อรึปล่าว? เห็ดหอมมีชื่อเรียกอีกชื่อนึงเก๋ ๆ ว่า เห็ดชิตาเกะ มีขายตามท้องตลาดทั่วไปสามารถนำมาทำอาหารได้ทั้งดอกแห้งและดอกสด ส่วนใหญ่ผู้บริโภคมักซื้อเห็ดแบบแห้งมากกว่าแบบสดเพราะสามารถเก็บไว้ใช้ได้นาน สารอาหารในเห็ดหอมมีแคลอรี่ต่ำ ไฟเบอร์ค่อนข้างสูง ยังมีแร่ธาตุและวิตามินหลากหลาย กรดโฟลิค กรดอะมิโน แคลเซี่ยม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก ไนอาซิน โฟเลต ซิลิเนียม สังกะสี วิตามินบี วิตามินดี สารอิริตาดีนีน สารสเตอรอล สารเบต้ากลูแคน สารเลนทิแนน จะเห็นได้ว่าเห็ดหอมมีสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามินมากมาย และยังมีฤทธิ์ทางชีวภาพต้านเชื้อโรคต่าง ๆ ต้านเชื้อรา ต้านเชื้อไวรัส ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ ต้านฤทธิ์มะเร็ง เป็นต้น เห็ดหอมแห้งคุณภาพดี ต้องมีสีน้ำตาลเข้มสดและแห้งสนิท ลักษณะดอกใหญ่ บนดอกมีรอยปริแตกเป็นร่องลึก คนจีนมักนิยมใช้เห็ดหอมเป็นตัวชูโรงในการทำน้ำแกง เพราะด้วยคุณค่าทางอาหารและสรรพคุณอันหลากหลายเชื่อว่าเป็นยาบำรุงกำลังร่างกายอย่างดี ยกตัวอย่างสรรพคุณที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกคือสามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้อร้ายมะเร็ง กำจัดอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ยังพบเส้นใยที่มีปริมาณสูง ช่วยดูดซับและขัดขวางการดูดซึมไขมันในทางเดินอาหารได้ดี ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองเสริมสร้างความจำ วิตามินในเห็ดหอมมีส่วนช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูผิวจากการถูกทำร้ายจากแสงแดด และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ยังพบว่าเซเลเนียมที่พบในเห็ดหอมสามารถรักษาสิวตามธรรมชาติ ลดอาการความรุนแรงการเกิดสิวได้อย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียด ช่วยระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ช่วยการควบคุมน้ำหนัก เพิ่มพลังงานให้ร่างกาย ลดความดันโลหิต และสรรพคุณที่สำคัญที่สุดและเข้ากับสถานการณ์ระดับโลก ณ ขณะนี้ เห็ดหอมมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย และ ไวรัส สามารถยับยั้งไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด19) มีอาการใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่ ฉะนั้นการทานเห็ดหอมช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและต้านเชื้อไวรัสได้ไม่มากก็น้อย ทานไว้เพื่อให้อุ่นใจว่าในร่างกายเรามีสารอาหารที่ช่วยป้องกันเราจากไวรัสโคโรน่า แม้ว่าเห็ดหอมจะมีประโยชน์มากมาย แต่ถ้าทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ มีงานวิจัยจากต่างประเทศแนะนำว่าไม่ควรรับประทานเห็ดหอมจำนวนมาก ๆ ในครั้งเดียวเพราะจะทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียนได้ และในเห็ดหอมมี กรดนิวคลีอีกและพิวรีนสูง สารเหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นยูริคจะทำให้อาการโรคเก๊าต์กำเริบขึ้น เพราะฉะนั้นผู้ป่วยโรคเก๊าต์ควรงดการรับประทาน ข้อควรระวัง ไม่ควรรับประทานแบบดิบ เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ เกิดผื่นคันตามผิวหนัง ผู้ป่วยที่มีเซลล์เม็ดเลือดขาวอีโอซิโนฟิลสูงกว่าปกติควรงดรับประทาน และไม่ควรรับประทานเห็ดร่วมกับเครื่องดื่มแอลกฮอล์เพราะทำให้อัลบูมินในเห็ดแข็งตัวจะทำให้ย่อยยากมากขึ้น ดังนั้นการจะทานอะไรที่เค้าว่ามีประโยชน์ควรทานแต่พอดี ไม่ควรทานจนเยอะเกินไปเพียงแค่เห็นว่ามีประโยชน์เท่านั้น อาจจะทำให้เกิดโทษได้เช่นกัน ออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดี พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อสุขภาพที่ดีและห่างไกลโรค ภาพปก / ภาพประกอบ : ถ่ายโดยผู้เขียน ตรงกลางใจ