อยากมีสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัวเรา แล้วเราจะทำได้อย่างไรกันนะ!? สวัสดีครับวันนี้เราจะมานำเสอนเรื่องสุขภาพว่าถ้าหากเพื่อนๆอยากมีสุขภาพที่ดีมีสิ่งไหนบ้างที่ห้ามทำ แล้วเราจะมีวิธีการปฏิบัติอย่างไรมารับชมพร้อม ๆ กันเลยครับ 1.ชอบนอนดึก โดยปกติทั่วไปแล้วคนเราในแต่ละช่วงวัยมีชั่วโมงการนอนที่แตกต่างกัน มูลนิธิการนอนหลับแห่งชาติในสหรัฐอเมริกาได้ระบุระยะเวลาในการนอนหลับที่เหมาะสมโดยแบ่งตามอายุ ดังนี้ - เด็กแรกเกิด (อายุ 0-3 เดือน) ควรนอน 14-17 ชั่วโมง - เด็กทารก (อายุ 4-11เดือน) ควรนอน 12-15 ชั่วโมง - เด็ก (อายุ 1-2 ปปี) ควรนอน 11-14 ชั่วโมง - วัยอนุบาล (3-5 ปี) ควรนอน 10-13 ชั่วโมง - วัยประถม (6-13 ปี) ควรนอน 9-11 ชั่วโมง - วัยมัธยม (14-17 ปี) ควรนอน 8-10 ชั่วโมง - วัยรุ่น (18-25 ปี): ควรนอน 7-9 ชั่วโมง - วัยทำงาน (26-64 ปี): ควรนอน 7-9 ชั่วโมง เท่ากับตอนวัยรุ่น - วัยชรา (65 ปีขึ้นไป) ควรนอน 7-8 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นแล้วถ้าหากเพื่อน ๆ อยากที่จะมีสุขภาพที่ก็ควรนอนให้ตรงเวลากันด้วยนะครับ Photo by Free-Photos จากhttps://pixabay.com/th/ 2.ทานอาหารไม่ค่อยตรงเวลา การทานอาหารไม่ตรงเวลาเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะ เพราะเมื่อถึงเวลาทานอาหาร น้ำย่อยก็จะออกมารอทำงานตามหน้าที่ของมันเมื่อไม่มีอาหารจะให้ย่อย น้ำย่อยก็จะมาย่อยเยื่อบุกระเพาะอาหารแทน ทำให้เรารู้สึกแสบท้องได้และถ้าทำเป็นประจำจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอักเสบ กระเพาะเป็นแผล เกิดเป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือโรคกรดไหลย้อนได้ อาหารมื้อเช้า ถือเป็นอาหารมื้อที่สำคัญนะครับ ถ้าทานไม่ตรงเวลานอกจากจะเสี่ยงต่อโรคกระเพาะแล้ว ยังมีผลต่อระบบสมองด้วยหากสมองขาดสารอาหารบ่อย ๆ ก็จะมีผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ครับ Photo by Foto-Rabe จากhttps://pixabay.com/th/ 3.กินอาหารไม่ครบ 5 หมู่ และถึงแม้เราจะกินอาหารตรงเวลาแล้วแต่ถ้าสิ่งที่เรากินเข้าไปมันไม่มีประโยชน์หรือไม่ครบ5หมู่มันก็จะทำให้สุขภาพเราแย่ได้ เทรซี่ ไฮม์ นักโภชนาการวิชาชีพ กล่าวว่าความหลากหลายของอาหารคือกุญแจสำคัญของการได้รับสารอาหารจำเป็นอย่างพอเพียงสำหรับสุขภาพโดยรวม “ประสบการณ์ที่มีต่อรสชาติ เนื้อสัมผัส ประเภทอาหาร และรสชาติใหม่ๆ นั้นสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยส่งเสริมและพัฒนาความสุขรอบด้านของการกินอาหารและการอยู่ร่วมในสังคมต่อไป”เทรซี่ยังแนะนำให้คุณเริ่มต้นทีละน้อย–ใส่อาหารชนิดใหม่ส่วนเล็ก ๆ ไว้ในจานของคุณทุกวันและค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนคุณรวมเอาอาหารใหม่ไว้ในทุกมือ และมีอีกวิธีหนึ่งถ้าหากคุณไม่คุ้นเคยกับอาหารบางประเภทและต้องการทดสอบรสชาติก่อนซื้อ ให้ซื้อสินค้าที่ตลาดสดใกล้บ้านที่มักจะยินดีให้คุณได้ทดลองชิมฟรี Photo by stevepb จากhttps://pixabay.com/th/ 4.ขี้เกียจ จากการศึกษาคนจำนวนกว่า 1 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา พบว่า “ความขี้เกียจ” นั้นส่งผลให้เศรษฐกิจโลกต้องมีค่าใช้จ่ายถึงกว่า 67.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ2,365,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพ ค่ายาค่าอาหารเสริมต่าง ๆ รวมถึงการสูญเสียกำลังการผลิตที่เป็นผลมาจากความขี้เกียจอีกด้วย เมื่อจิตใจอยู่ในสภาพที่ขาดแรงจูงใจ ร่างกายก็จะหลั่งสารที่เรียกว่าฮอร์โมนขีเกียจ(ผมค้นพบเอง)เกิดความรู้สึกเฉื่อยชา เมื่อย ไม่มีแรงเช้าชามเย็นชามจะรักษาก็แค่สร้างแรงจูงใจเพื่อให้เกิดความพอใจ(ฉันทะ) วิริยะก็จะตามมาเองนะครับ Photo by GraphicMama-team จากhttps://pixabay.com/th/ 5.เป็นคนไม่ตรงต่อเวลา การตรงต่อเวลา เป็นหัวใจของกิจการทั้งปวง ยิ่งในวงธุรกิจใหญ่ ๆ การผิดเวลา มีผลให้เกิดความเสียหายใหญ่โต เฉพาะบุคคลแต่ละคน การตรงต่อเวลา เป็นเครื่องแสดงนิสัยใจคอ คนตรงต่อเวลามักเป็นคนเอาการเอางาน มีระเบียบไว้เนื้อเชื่อใจได้ การพัฒนาตนเองให้เป็นคนตรงต่อเวลานั้นเราสามารถทำได้โดยการที่เรารู้จักแบ่งเวลาให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่าง ๆ เป็นการจัดระเบียบให้กับชีวิต สำหรับในการทำงานหรือการเรียนก็คือการพยายามทำงานหรือส่งงานให้เสร็จก่อนเวลาเพื่อมีเวลาตรวจทานและส่งงานให้ตรงตามกำหนด Photo by JESHOOTS-com จากhttps://pixabay.com/th/ หากคุณอยากมีสุขภาพที่ดีผมขอแนะนำให้คุณทำตามนี้อย่างเคร่งครัด ซื่อสัตย์และอดทนต่อตนเองหากเราอยากที่จะมีสุขภาพที่ดีในวันนี้แต่เราเอาแต่ผัดวันไปเรื่อย ๆ ผมเชื่อว่าชาติหน้าคุณก็คงไม่ได้สุขภาพที่ดีได้แน่ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความข้างต้นจะช่วยให้ผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ