เคยกินอาหารแทนยาไหมคะ ? มีคนบางกลุ่มไม่อยากกินยาแผนปัจจุบันกลัวเอฟเฟคจากยา ไม่อยากไปหาหมอกลัวตรวจเจอโรคร้าย ไม่มีเวลาไป ค่าหมอค่ายาค่อนข้างแพง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถ้าเรามีอาการป่วยผิดปกติในร่างกายควรต้องไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ได้วินิจฉัยรักษาได้ถูกโรค แต่ถ้าเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยไม่มากมายอะไร สมุนไพรก็เป็นคำตอบที่ดีในการดูแลภายในร่างกายเราเบื้องต้นได้ และในบทความนี้ผู้เขียนขอนำเสนอ "ใบบัวบก" สมุนไพรที่มีต้นกำเนิดในแถบเอเชีย มีกลิ่นฉุน รสขมหวาน มีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบในร่างกาย มีวิตามินและแร่ธาตุครบครันไม่ว่าจะเป็น วิตามินบี 1 บี 2 บี 6 วิตามินเอ วิตามินเค แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม กรดมาดิเเคสซิค กรดอะมิโน CR : https://pixabay.com/images/id-1646378/ CR : https://pixabay.com/images/id-1248950/ ใบบัวบกทานได้ทั้งใบสดหรือนำมาคั้นน้ำดื่ม ผู้เขียนชอบทานทััง 2 แบบ ใบสดจิ้มน้ำพริกหรือทานเป็นผักเคียงคู่ส้มตำ ลาบ น้ำตก ก็เข้ากันดีอร่อยไปอีกแบบ ส่วนน้ำใบบัวบกต้องคนชอบดื่มน้ำขม น้ำสมุนไพรถึงจะดื่มได้ เพราะรสชาติน้ำใบบัวบกจะออกรสขมปนเฝื่อนหน่อย ๆ กลิ่นใบบัวบกเตะจมูก แต่จะมีความหวานพอสมควรตามสัดส่วนการทำของคนขาย ดื่มแล้วชื่นใจเย็นตัวดับร้อนดีนัก โดยสรรพคุณของใบบัวบกมีฤทธิ์เป็นยาเย็นเหมาะกับคนขี้ร้อน ร้อนข้างในตัว เพราะมันช่วยดับร้อนจากข้างในได้ดี ยังเป็นยาอายุวัฒนะ เสริมสร้างคอนลาเจนและอีลาสตินให้ผิวสวยเปร่งปรั่งคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว ใบบัวบกยังมีสรรพคุณคล้ายกับใบแปะก๊วยช่วยบำรุงสมองและประสาทฟื้นฟูความจำ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ต่อต้านการเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย บำรุงและรักษาสายตาเพราะมีวิตามินเอสูง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวานได้ในระดับนึง เป็นไข้ตัวร้อนใบบัวบกก็ช่วยได้เช่นกันจะดื่มเป็นน้ำคั้นหรือแคปซูลเม็ดก็แล้วแต่ความสะดวก และยังช่วยรักษาแผลสด โรคผิวหนัง แผลเป็นหนองจากเชื้อแบคทีเรีย เพียงนำใบมาโขลกพอประมาณกับแผลแล้วแปะไปที่แผลจะช่วยทำให้แผลสมานตัวหายได้เร็ว ประโยชน์จากใบบัวบกที่กล่าวมาเป็นเพียงแค่ส่วนนึง ความมหัศจรรย์ของใบบัวบกพืชล้มลุกต้นเล็ก ๆ ยังมีคุณประโยชน์อื่น ๆ ต่อร่างกายใช้ได้ตั้งแต่หัวจรดเท้าทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ถ้าใครทานได้แนะนำให้ทาน แต่ถ้าใครทานไม่ได้อย่าฝืน เพราะตัวใบบัวบกถึงแม้นจะมีประโยชน์ก็มีโทษเช่นกัน ไม่เหมาะกับคนที่ขี้หนาว สภาวะร่างกายที่เย็น ท้องอืดบ่อย ไม่แนะนำให้รับประทาน และการรับประทานที่มากเกินไป อาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลร้อน - เย็นในตัวได้ น้ำคั้นสดดื่มได้ทุกวันแต่ไม่ควรเกิน 50 มิลลิลิตร ใบสดใช้ทานเป็นผักจิ้มได้ไม่ควรเกิน 10 วัน และไม่ควรทานเกิน 20 ใบต่อสัปดาห์ เพราะอาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพ CR : https://pixabay.com/th/photos/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3-%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%9A-4033469/ ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือสมุนไพรถ้ากินเป็นกินถูกจะเกิดประโยชน์ที่ดี แต่ถ้ากินเยอะกินมากเกินปริมาณมักจะก่อโทษได้ ผู้เขียนเคยดื่มน้ำใบบัวบกเกินปริมาณที่ร่างกายจะโอเค ตอนที่ดื่มรู้สึกอร่อยชื่นใจดี ไม่นึกอะไรก็ดื่มเกือบหมดขวด (ขวด 500 มิลลิลิตร) ซักพักนึงเริ่มคันตัว ผื่นเริ่มขึ้นที่แขน รู้สึกไม่สบายท้อง ตัวเริ่มเย็น ๆ เวียนหัว ผู้เขียนต้องดื่มน้ำมากพอสมควรเพื่อขับน้ำใบบัวบกออกมาทางปัสสาวะ และทานขมิ้นชันแคปซูลเพื่อเพิ่มความร้อนให้ร่างกาย เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ผู้เขียนเริ่มหาข้อมูลว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ถึงได้ทราบว่าไม่ควรดื่มในปริมาณมากขนาดนั้นเพราะน้ำใบบัวบกใช้ใบสดคั้นน้ำในปริมาณที่เยอะมากทำให้มีความเข้มข้นสูง ส่วนจะรู้ได้อย่างไรว่าเราแพ้ใบบัวบกหรือไม่ ต้องลองชิมดู ลองไปนิดนึงพอนะคะถ้าแพ้จะเกิดอาการคันยิบ ๆ ผื่นเล็ก ๆ เริ่มขึ้นตามหน้าตามตัว แสดงว่าแพ้แน่นอน เพราะที่บ้านผู้เขียนแม่กับน้องชายก็แพ้ใบบัวบกเหมือนกัน ท้ายสุดนี้ฝากข้อคิดการใช้สมุนไพรเพื่อรักษาโรคหรือเพื่อบำรุงร่างกาย ควรศึกษาสมุนไพรนั้นให้แน่ชัดว่าต้องใช้ขนาดไหนทานปริมาณเท่าไรถึงจะเหมาะสมกับร่างกายเรา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกายและสุขภาพที่ดีของทุกคน CR : ภาพถ่ายโดย Tirachard Kumtanom จาก Pexels CR : ภาพหน้าปก https://pixabay.com/th/photos/%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B8%8A-%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3-%E0%B8%A2%E0%B8%B2-%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%81-coinwort-1646382/