อื่นๆ

ทำการเกษตรจะปังหรือพัง! สามารถพยากรณ์ได้หากใช้เทคโนโลยี GIS

1.2k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ทำการเกษตรจะปังหรือพัง! สามารถพยากรณ์ได้หากใช้เทคโนโลยี GIS

         ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ หรือ GIS กับการใช้งานทางด้านเกษตรกรรม เป็นอีก 1 ทางเลือกที่สามารถช่วยเกษตรกรในเรื่องของการวิเคราะห์แนวทางในการทำการเกษตรและนำไปพัฒนาพืชผลให้มีประสิทธิภาพเพื่อตอบโจทย์สินค้าทางการตลาดและยังสามารถใช้พยากรณ์จำนวนผลผลิตที่จะได้จากการเพาะปลูกอีกด้วย

GIS  มีองค์ประกอบและหลักการทำงานอย่างไร?

         GIS ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 5 อย่าง คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์(Hardware)  โปรแกรม(Software)  ข้อมูล(Data)  ขั้นตอนการทำงาน(Methods)  และบุคลากร(People) ซึ่งหลักการทำงานของเทคโนโลยีนี้คือ

  1. การนำเข้าข้อมูล(Input) โดยเป็นการนำข้อมูลแผนที่หรือข้อมูลภาพถ่ายไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายทางดาวเทียมหรือภาพถ่ายทางอากาศ ไปแปลงเป็นข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบดิจิตอล
  2. การปรับแต่งข้อมูล(Manipulation) เนื่องจากข้อมูลที่ได้จากการแปลงอาจมีขนาดไม่เท่ากัน จึงต้องนำข้อมูลเหล่านั้นไปแปลงให้มีขนาดเท่ากันหรือเป็นข้อมูลรูปแบบเดียวกันก่อน
  3. การเรียกค้นและวิเคราะห์ข้อมูล(Query and Analysis) เป็นการสืบค้นข้อมูลที่เราสนใจในข้อมูลแผนที่และนำข้อมูลเหล่านั้นไปวิเคราะห์ต่อไป
  4. การนำเสนอข้อมูล(Visualization) เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่สนใจเรียบร้อยแล้วก็จะนำข้อมูลที่ได้เหล่านั้นไปนำเสนอซึ่งสามารถทำได้หลายแบบ เช่น นำเสนอในรูปแบบของตัวอักษรหรือนำเสนอเป็นรูปภาพ เป็นต้น

Advertisement

Advertisement

ใช้โดรนสำรวจพื้นที่

ภาพที่ 1 โดย Pascvii จาก Pixabay

GIS สามารถนำมาใช้ในด้านเกษตรกรรมได้อย่างไร?

        ในปัจจุบันเทคโนโลยี GIS มีความก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้มีการนำไปใช้ประโยชน์ทางด้านการทำเกษตรกรรมเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และนำไปพัฒนาผลผลิตที่ได้จากการเพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถทำการเกษตรให้ได้ผลดีในระยะยาวและได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

         การทำเกษตรกรรมให้ได้ผลผลิตที่ดีนั้นมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง เริ่มต้นจากคุณภาพดินของพื้นที่ที่ใช้ในการเพาะปลูก ทำเลที่ตั้งของที่ดิน สภาพภูมิอากาศ พืชที่เพาะปลูกตอบโจทย์ความต้องการในตลาดมากแค่ไหน จากที่ได้กล่าวมาข้างต้น ในแต่ละปัจจัยสามารถนำเทคโนโลยี GIS มาใช้ในการวิเคราะห์และนำไปพัฒนาในด้านการเกษตรได้ในทุกขั้นตอน 

การวิเคราะห์ดินภาพที่ 2 โดย Kenneth Carpina จาก Pexels

         การตัดสินใจเลือกพื้นที่ในการทำการเกษตรสามารถใช้ GIS ในการช่วยตัดสินใจได้ โดยสามารถใช้ข้อมูลภาพถ่ายทางดาวเทียมหรือทางอากาศในการวิเคราะห์ว่า พื้นที่บริเวณนั้นเหมาะสมต่อการปลูกพืชนิดไหน คุณภาพดินเป็นอย่างไร และสามารถรับมือกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะสามารถเตรียมหาวิธีรับมือและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อพื้นที่ทำการเกษตรได้

Advertisement

Advertisement

น้ำท่วมพื้นที่การเกษตรภาพที่ 3 โดย Bohemianbikini จาก Pixabay

         GIS ยังมีบทบาทในการพยากรณ์ปริมาณผลผลิตที่เราจะได้จากการทำการเษตรอีกด้วย ซึ่งการนำเทคโนโลยี GIS มาใช้ในเรื่องนี้สามารถทำให้เราคาดการณ์ได้ว่า ในการเก็บเกี่ยวเพื่อส่งสู่ตลาดในครั้งนี้จะได้ผลผลิตปริมาณเท่าใด พอต่อความต้องการของตลาดหรือไม่ และยังสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการวิเคราะห์ว่า ครั้งต่อไปของการเพาะปลูก เราควรที่จะเพิ่มปริมาณหรือดูแลผลผลิตทางการเกษตรให้มากขึ้นแค่ไหน

พื้นที่เกษตรกรรมภาพที่ 4 โดย Tom Fisk จาก Pexels

         ในมุมมองของผู้เขียน การใช้เทคโนโลยี GIS ในการวิเคราะห์ทางเกษตรกรรมถือเป็นทางเลือกและตัวช่วยที่ดีในการปรับปรุง พัฒนา และพยากรณ์ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการทำการเกษตร แต่เนื่องจากข้อมูลที่ต้องใช้ในการวิเคราะห์ค่อนข้างมีขั้นตอนการรวบรวมที่ละเอียดอ่อนและผู้จัดทำข้อมูลต้องเป็นผู้ที่มีความรู้และความเข้าใจดีเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี GIS ส่งผลให้การใช้เทคโนโลยีนี้อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะต่อบางหน่วยงานเท่านั้นและยากต่อการเข้าถึงของเกษตรกรที่ไม่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีมากนัก 

Advertisement

Advertisement

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์