อื่นๆ
มีเงินก้อน ระหว่างโปะหนี้ กับ ลงทุน เลือกอะไรดี ?
มีเงินก้อน ควรโปะหนี้ หรือ ลงทุน ดี
บางคนมีหนี้สิน แล้วอยากใช้หนี้ให้หมดไปเร็ว ๆ ไว ๆ แต่ก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไป มาดูกันก่อนดีกว่า ว่าควรเลือกทางไหนที่จะเป็นประโยชน์ต่อเรามากที่สุด
ก่อนการตัดสินใจเลือกทาง ควรดูก่อนว่า เรามีเงินสำรองไว้ใช้ยามภาวะฉุกเฉินหรือไม่ เช่นการเจ็บป่วยที่ไม่คาดคิด อุบัติเหตุต่าง ๆ หรือในสถานการณ์โควิด 19 ที่มาโดยไม่คาดฝัน ภาวะภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ภาวะการขาดรายได้โดยไม่คาดฝัน ฯลฯ
ลำดับต่อมา ดูที่การคิดอัตราดอกเบี้ย ของสถาบันการเงินที่เราไปกู้มาว่าเป็นดอกเบี้ยประเภทใด แบ่งเป็น
- อัตราดอกเบี้ยลดต้น ลดดอก เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด หนี้ผ่อนบ้าน หนี้เช่นนี้ เมื่อเราผ่อนชำระมากขึ้น จะทำให้เงินต้นลดลง ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็ลดลงตามไปด้วย
-อัตราดอกเบี้ยคงที่ เช่น หนี้ผ่อนรถยนต์ หนี้เช่นนี้ สถาบันการเงินที่เราไปกู้มาจะคิดดอกเบี้ยจากเงินทั้งก้อน แล้วนำมากระจายคำนวณเป็นจำนวนงวดที่เราต้องผ่อนชำระ ก็คือ ถึงแม้ว่าเราจะรีบไปโปะหนี้ ยอดหนี้ที่เป็นก็เท่าเดิม ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด
Advertisement
Advertisement
และด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด เราก็สามารถเลือกได้ว่า เราควรโปะหนี้อันไหนก่อนดี หรือว่าเอาเงินไปทำอะไรอย่างอื่นก่อนดี เพื่อให้การเงินของเราเป็นไป โดยได้ประโยชน์ที่สุด หนี้ที่ควรโปะคือ หนี้ที่คิดอัตราลดต้นลดดอก เช่น หนี้บ้าน หนี้คอนโด หนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด ฯลฯ ส่วนในหนี้ที่เป็นอัตราคงที่หากมีเงินเหลือมากพอ ไม่อยากเป็นภาระกวนใจก็โปะได้
แต่ในที่นี้ ผู้เขียนอยากแนะนำว่า เพื่อบริหารการเงินของเราให้เจริญเติบโต หากว่าหนี้ที่เป็นแบบลดต้นลดดอกของเรา เช่น หนี้ผ่อนบ้านอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 6% - 7% ต่อปี หรือช่วงโปรโมชั่น ก็จะอยู่ประมาณ 2% - 3% ต่อปี ถ้าเรามีหนทางการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนมากกว่าอัตราดอกเบี้ยหนี้ เราก็ควรนำเงินไปลงทุนให้เงินของเราเติบโต แล้วเราจะลงทุนอะไรดี มาดูกันต่อไปเลยคะ
Advertisement
Advertisement
ลงทุนอะไรดี ?
1. ฝากเงินกับธนาคาร เป็นการลงทุนที่ง่ายที่สุด ความเสี่ยงต่ำที่สุด แต่ผลตอบแทนในปัจจุบันนี้ก็ต่ำมากเช่นกัน
2. การลงทุนในตราสารหนี้ เช่นพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ ดอกเบี้ยจะสูงกว่าเงินฝากธนาคาร ความเสี่ยงไม่มาก แต่สภาพคล่องอาจจะต่ำ เพราะจะมีเงื่อนไขในการไถ่ถอน
3. การลงทุนในกองทุนรวม ควรต้องมีความรู้ความเข้าใจ ความชำนาญ ในระดับหนึ่ง เพื่อเลือกกองทุนที่สามารถดูแลเงินทุน และสร้างผลกำไรให้แก่เราได้ ความเสี่ยงก็มีปานกลาง
4. การลงทุนในทองคำแท่ง เป็นการลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนคือส่วนต่างของราคา ดังที่เราจะเห็นว่าถึงแม้ว่าในช่วงเวลาสั้น ๆ ราคาทองคำ จะขึ้น ๆ ลง ๆ แต่แนวโน้มที่ผ่านมาในระยะยาว ราคาทองคำนั้นก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ มาโดยตลอด
5. การลงทุนในหุ้น ควรมีความรุ้ในการลงทุนพอสมควร ในการเลือกหุ้น หากเลือกหุ้นเก่ง ถูกตัว ผลตอบแทนที่ได้จะได้ในส่วนต่างของราคาหุ้น และเงินปันผล จะสูงมาก แต่ความเสี่ยงก็มีมากตามเช่นกัน
Advertisement
Advertisement
6. การลงทุนในตลาดค่าเงิน Forex เป็นการลงทุนสมัยใหม่ ต้องมีความรุ้ ความเชี่ยวชาญอย่างมาก ความเสี่ยงสูง แต่ผลตอบแทนก็สูงเช่นเดียวกัน
7. การลงทุนในบิทคอยน์ เป็นการลงทุนน้องใหม่ มาแรง ความเสี่ยงสูง และผลตอบแทนก็สูงเช่นกัน
เมื่อเรามั่นใจแล้วว่า เราจะนำเงินไปลงทุนด้านใดที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายไป เราต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ความเชี่ยวชาญ ในการลงทุนนั้น ๆ เป็นอย่างดี แต่หากเราไม่มีช่องทางการลงทุน หรือความรู้ ความชำนาญในการลงทุน เราก็ควรโปะหนี้ไปก่อนดีกว่า
เครดิตภาพ : ภาพที่ 1 โดย Pixabay /Jarmoluk
ภาพที่ 2 โดย Pixabay/ RoboAdvisor/6 image
ภาพที่ 3 โดย Pixabay/ Open Clipart-Vertors /27398 images
ภาพที่ 4 โดย Pixabay/ nattanan23
ภาพปก โดยผู้เขียนวาดเอง
อัปเดตสาระการลงทุนดี ๆ มีประโยชน์แบบนี้อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !
ความคิดเห็น