อื่นๆ
ลมเพ ลมพัด เสียงสวด มรณะ

ลมเพ ลมพัด เสียงสวด มรณะ
สวัสดีค่ะ เราเป็นคนนึงที่ชอบอ่านและฟังเรื่องราวเกี่ยวกับผีหลอน ๆ เหมือนหลาย ๆคนในที่นี้ หลังจากที่ได้อ่านเรื่องราวในเพจบันทึกหลอนแล้ว จึงอยากแชร์เรื่องราวที่ประสบกับตัวเองมาให้คนอื่นได้อ่านบ้าง ขอเริ่มเลยละกันนะคะ
เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อนที่แถวๆเขตลาดกระบัง เมื่อสมัยที่เราเริ่มทำงานใหม่ ๆ และด้วยที่ทำงานอยู่ไกลจากบ้านมาก จึงต้องออกมาหาที่พักอยู่ใกล้ ๆ ที่ทำงาน ทีนี้ก็เริ่มออกหาที่พัก หาเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจซักที จนเมื่อตกบ่ายจะเย็นแล้ว ก็มาสะดุดตาเข้ากับอพาร์ทเม้นท์แห่งนึง ซึ่งดูดีมาก ภายในห้องและระเบียงก็ใหญ่ สรุปก็เลยตกลงเอาที่นี่เลย
ต้องบอกก่อนว่าอพาร์ทเม้นนี้เจ้าของคนก่อนหน้านี้นับถือศาสนาพุทธ ก็มีการตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่เป็นปกติ จนเมื่อมีเจ้าของใหม่เข้ามาดูแลแทน คนนี้เนี่ยนับถือศาสนาอิสลาม เค้าก็ได้รื้อถอนศาลออก แล้วก็เอาที่ตรงนั้นมาทำเป็นที่จอดรถแทน อันนี้เราก็ไม่ได้คิดมากอะไร เพราะมันก็คงเป็นเรื่องของธุรกิจเค้า
Advertisement
Advertisement
จนเมื่อถึงวันที่ย้ายเข้ามาพักวันแรก เราก็ได้ขอให้น้องชายมาช่วยย้ายของเข้าให้ จนเมื่อขนของเสร็จเรียบร้อยแล้วน้องชายก็ขอตัวกลับบ้านไป แต่ก่อนจะกลับ น้องก็ได้ให้สร้อยพระกับเราไว้ ที่สร้อยนั้นก็มีหลวงปู่แหวน หลวงปู่ทวด และก็หลวงปู่คูณ เราก็รับไว้และยกมือขึ้นไหว้ เพื่อขอให้หลวงปู่คุ้มครอง
ในขณะที่เราเหน็ดเหนื่อยกับการขนของมาทั้งวัน รู้สึกอึดอัดและร้อนมาก ก็จึงอยากออกไปสูดอากาศบ้าง จึงได้เดินไปเลื่อนประตูเพื่อออกไปยืนที่ระเบียง
และในขณะที่ยืนรับลมอยู่นั้น เราก็ได้ยินเหมือนเสียงสวดอะไรซักอย่าง ไม่แน่ใจว่าเป็นภาษาอะไร แต่คิดว่าเป็นภาษาเขมรนะ
เท่านั้นแหละ ไอ้เราก็ปากไวเลย รีบทักขึ้นว่า "ใครจะมาลองของอะไรกับกูวะ" สักพักก็เหมือนมีลมวิ่งผ่านหน้าไป วูบบบ...รู้สึกเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ จากนั้นก็จึงรีบเดินกลับเข้ามาในห้อง แล้วเลื่อนปิดประตูระเบียงทันที แล้วกลับเข้ามาจัดข้าวของในห้องจนดึก
Advertisement
Advertisement
ตอนนี้ก็เป็นเวลาประมาณ เที่ยงคืนกว่า ๆ แล้วเห็นจะได้ เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ก็อาบน้ำอาบท่าสักหน่อย ในขณะที่อาบน้ำอยู่นั้น จู่ ๆ ไฟในห้องน้ำก็ติด ๆ ดับ ๆ... เราจึงรีบเปิดประตูห้องน้ำเพื่อดูว่าข้างในห้องจะเป็นรึเปล่า ปรากฏว่าไม่ค่ะ เป็นแค่ในห้องน้ำ เราก็คิดในทางที่ดีว่า หลอดไฟคงจะเสียแหละมั้ง ก็ไม่ได้คิดอะไรจนอาบน้ำเสร็จ (ก็อาบแบบติด ๆ ดับ ๆ นั่นแหละค่ะ) พอเดินออกจากห้องน้ำมาไฟก็ติด ติดเลยค่ะ เราก็ลองกดสวิตซ์เปิดปิด เปิดปิดดูหลาย ๆ รอบ ก็ปกติเลยทีนี้
เอาน่า...ด้วยความที่เราเป็นคนไม่ค่อยกลัวเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อนะ บวกกับเหนื่อยมากับการขนของทั้งวันแล้ว ก็จึงรีบแต่งตัวแล้วก็เดินไปปิดไฟในห้อง เพื่อที่จะเตรียมตัวนอน
ในขณะที่เราหัวกำลังจะถึงหมอนนั้น ด้วยบรรยากาศในห้องที่เงียบสงัด และมืดมาก ทำให้เรา...ได้ยินเสียงแว่วลอยเข้ามาในหูอีกครั้ง เราก็ตั้งใจฟังว่ามันคือเสียงอะไร
Advertisement
Advertisement
มันคือเสียงสวดที่ได้ยินในตอนแรกค่ะ แต่คราวนี้เสียงมันชัดมาก ความรู้สึกตอนนั้นบอกได้เลยว่า ไม่เคยกลัวอะไรแบบนี้มาก่อน เสียวสันหลังวาบ ขนนี่ลุกซู่ไปทั้งตัว...
ทีนี้เราจึงรีบนอนลงแล้วคลุมโปงทันที แต่เสียงนั้นก็ยังไม่หายไป ยังดังชัดอยู่ในหูตลอดเวลา ทันใดนั้นเองมีเสียงเหมือนคนเดินมาหยุดอยู่ตรงปลายเท้า
สักพักเสียงสวดที่ดังอยู่ในหูนั้นก็หายไป เราจึงค่อย ๆ เปิดผ้าห่มออกมาดู...คุณคะ สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นน่ากลัวกว่าเสียงสวดที่ได้ยินอีกค่ะ มันเป็นร่างสีดำ ตัวใหญ่ สูงจนหัวชนเพดานเห็นจะได้ นัยตาเป็นสีแดงสดเหมือนเลือด น่ากลัวมาก...
มันชี้หน้าเรา แล้วพูดอะไรสักอย่าง ฟังไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แล้วกระโดดขึ้นมาคร่อม หลังจากนั้นมันก็บีบคออย่างแรง...พ่อแก้วแม่แก้ว นาทีนั้นคิดอะไรไม่ออกเลย ได้แต่ร้องว่า “อย่า... อย่า...” พอตั้งสติได้ ก็นึกถึงคุณพระคุณเจ้า แล้วก็ถีบตัวมันอย่างแรง จนมันปลิวออกไป
เป็นแบบนี้อยู่สองครั้ง แต่ครั้งที่สองนี้พอมันกระเด็นหลุดออกไป เราจึงรีบวิ่งไปหยิบสร้อยพระที่น้องชายให้มา แล้วนำมาห้อยคอแล้วขอให้หลวงปู่ช่วยคุ้มครองเรา นาทีนั้นคิดอะไรไม่ออกแล้วจริง ๆ ค่ะ
หลังจากที่นำสร้อยพระมาห้อยคอแล้ว ในความมืดนั้น เราก็เห็นร่างดำ ๆ นั้นค่อย ๆ จางหายไป... แล้วคืนนั้นทั้งคืนเราก็ไม่กล้านอนเลยค่ะ นั่งกำพระไว้ในมือตลอดเวลา เพราะกลัวว่ามันจะกลับมาอีก แต่คืนนั้นทั้งคืนมันก็ไม่กลับมากวนอีก
ตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงตอนนี้...เราก็ยังไม่แน่ใจ ว่ามันคือใคร...มาจากไหน...แล้วมาทำเราทำไม ? ส่วนตัวเราเองคิดว่าคงเป็นเพราะเราปากไวไปพูดทัก ตอนที่ได้ยินเสียงสวด...
ความคิดเห็น
