เคล็ดลับ "ปลดหนี้" เพราะความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

เชื่อว่าหลายคนอาจเคยมีประสบการณ์เป็นหนี้ หลายคนเป็นหนี้ตั้งแต่ยังเด็ก ๆ เนื่องจากต้องกู้ยืมเงินจากรัฐบาลเพื่อจ่ายเป็นค่าเล่าเรียน หรือโตขึ้นมาหน่อยเริ่มทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน ค่าใช้จ่ายเริ่มมีมากขึ้น บางคนเป็นหนี้จากการทำบัตรเครดิต การกู้เงินไปซื้อรถ กู้ไปซื้อบ้าน กู้ไปทำธุรกิจ หรือใช้จ่ายฟุ่มเฟือย กิน เที่ยว ฯลฯ ผมเองก็เช่นกัน ก่อนหน้านี้เคยเป็นหนี้บัตรเครดิต ซึ่งผมมีบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดรวมกันมากถึง 11 ใบ ! ที่สำคัญคือวงเงินเต็มทุกบัตร เรียกได้ว่าชักหน้า ไม่ถึงหลัง เงินเดือนออกมาทีไรต้องเอาไปจ่ายบัตรเครดิตหมด จ่ายเสร็จก็กดออกมา วนไปจ่ายบัตรอื่นต่อ ไหนจะค่าใช้จ่าย ๆ อื่นอีกมากมาย ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าโทรศัพท์ ค่าเสื้อผ้า ฯลฯ จนไม่เหลือเงินเก็บแม้แต่บาทเดียว ซึ่งสถานการณ์วนเวียนอยู่อย่างนี้หลายปี จนเริ่มรู้สึกตัวว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปนอกจากจะไม่มีเงินเก็บแล้ว มีหวังหมดตัวแน่

รวมไปถึงการลด ละ เลิกของใช้แพง ๆ เช่น เลิกใช้น้ำหอม เลิกซื้อเสื้อผ้าราคาแพง หรือจำกัดการซื้อเสื้อผ้า เช่น จากที่ซื้อบ่อยเกือบทุกอาทิตย์ก็เปลี่ยนมาเป็นซื้อปีละ 1 - 2 ครั้ง การลดรายจ่ายถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการปลดหนี้ เนื่องจากจะช่วยฝึกการคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับการจ่ายเงินเป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยให้เริ่มมองเห็นเม็ดเงินว่ามีเพิ่มขึ้นมาบ้างแล้ว

ที่มาของภาพ https://pixabay.com/photos/piggy-bank-money-savings-financial-970340/

2.  เลิกการกู้เงิน

พูดง่าย ๆ ก็คือ อย่าเอาหนี้มาต่อหนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้ามไปกู้เงินนอกระบบเพื่อมาใช้หนี้เด็ดขาด ! เพราะหนี้นอกระบบนั้นนอกจากดอกเบี้ยจะสูงหลายเท่าตัวแล้ว รัฐบาลรวมถึงกฎหมายไม่ให้การรับรองใด แถมเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตโดยไม่รู้ตัว รวมไปถึงการกู้เงินแบบ re – finance ที่ให้วงเงินการกู้เพิ่มสูงขึ้น และการชำระค่างวดก็สูงขึ้นในคราวเดียวกัน ยิ่งเพิ่มวงเงิน ภาระหนี้ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ควรไปกู้เงินมาเพิ่มแต่ไปให้ไปเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อรวมหนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งจะต้องเขาไปหารือ หรือปรึกษากับทางสถาบันการเงิน

ที่มาของภาพ https://pixabay.com/photos/euro-money-pay-cash-borrowing-427531/

3. แปลงทรัพย์สินเป็นทุน

ผมพยายามรวบรวมสมบัติที่มีอยู่ เพื่อแปลงสภาพเป็นเงิน เพื่อนำไปเป็นทุนทำการค้า หรือทำประโยชน์แบบเงินต่อเงิน เช่น ขายนาฬิกา โทรศัพท์ราคาแพงแล้วเปลี่ยนมาใช้ในราคาถูกลง เสื้อผ้า หรือแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้งานหรือไม่ได้มีความจำเป็นอะไรมากมายในชีวิต ก็ให้นำมาขายเพื่อแปลงเป็นทุน เพื่อนำไปลงทุนหรือนำไปใช้หนี้ให้ได้มากที่สุดก่อน

ที่มาของภาพ https://pixabay.com/photos/clothing-store-shop-boutique-984396/

4. เพิ่มรายได้

การเพิ่มรายได้เป็นหัวใจสำคัญที่จะต้องทำไปพร้อม ๆ กับวิธีการอื่นเพื่อปลดหนี้ โดยหาช่องทางทำเงินเพิ่มเติมนอกเหนือจากงานประจำ โดยมิต้องเกี่ยงว่าจะเป็นงานที่มีรายได้มากหรือน้อย หากเป็นรายได้ แม้เพียงหลักร้อย ก็ยังดีกว่าปล่อยเวลาให้ว่างเปล่าโดยที่ไม่มีประโยชน์ เช่น การขายของ ขายอาหาร ขายขนม หรือใครที่มีความสามารถพิเศษ ก็ไปสอนหนังสือ เช่น เป็นติวเตอร์สอนภาษา หรือการออกแบบเสื้อผ้า หรือประดิษฐ์งานฝีมือหรือเครื่องประดับขาย เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าแต่ละคนย่อมมีความคิดและความถนัดกันออกไป แล้วแต่ว่าจะตอบโจทย์อย่างไรกับคำถามที่ว่า “การหารายได้พิเศษ” ซึ่งจะต้องเป็นไปในทางถูกกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคม ซึ่งยังมีอาชีพ หรือธุรกิจอีกมากมายรอการค้นพบ

ที่มาของภาพ https://pixabay.com/vectors/template-layout-website-blog-theme-1599667/

หากเราทำได้ทั้ง 4 ขั้นตอนนี้ได้สำเร็จ ไม่ช้าไม่เร็ว เราอาจสะบัดคำว่า “หนี้” ให้หลุดพ้นออกไปจากชีวิต พร้อมกับคำว่าดอกเบี้ยเงินกู้ หรือดอกเบี้ยบัตรเครดิต ไม่ให้ตามหลอกหลอนเราไปไม่ในทุกที่จนไม่เป็นอันกินอันนอนอีกต่อไป ซึ่งขอเพียงอย่างเดียวคือความตั้งใจจริง อดทน และพยายาม แล้วสักวันหนึ่งจะเป็นของเรา

ที่มาภาพหน้าปก https://pixabay.com/photos/money-coin-investment-business-2724241/