อื่นๆ
เชื่อหรือไม่ว่า "พรหมลิขิต" มีอยู่จริง

"เชื่อเสมอว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมโลกจะพาใครบางคนมาเจอกับเราเอง" คำพูดที่มีไว้ใช้ปลอบใจตัวเองในช่วงเวลาที่รู้สึกถึงความเหงาและโดดเดี่ยว วันนี้อาจจะมาแหวกแนวหน่อย
คำเตือน : เนื้อหาสาระในบทความค่อนข้างที่จะออกเป็นแนว"ดราม่า" เมื่อเอ่ยถึงคำว่า "ดราม่า" (Drama) สำหรับตัวนักเขียนเองจึงอยากอธิบายก่อนว่า ความหมายของคำว่า ดราม่าในยุคสมัยปัจจุบัน ค่อนข้างที่จะมีหลายความหมายที่หลากหลาย หากเป็นเรื่องของการใช้คำพูดหรือการใช้คำว่า "ดราม่า" ในโลกโซเชียลซึ่งเราจะได้เห็นคำนี้กันบ่อยมากหากว่าเราเป็นคนที่ชื่นชอบในการอ่านข่าวจากโลกดิจิตอล เช่น มีพาดหัวข่าวเกิดประเด็นดราม่าของ... ตรงส่วนนี้ก็คือการพาดหัวข่าวที่ยังเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความคิดในหลากหลายมุมมองคล้ายๆกับข่าวลือและออกจะเป็นแนวที่เป็นความเข้าใจผิดและเป็นเรื่องราวที่มากเกินความเป็นจริง
Advertisement
Advertisement
ส่วนคำว่า "ดราม่า" Drama หากว่าเราไป Search ใน Google หรือความหมายจากวิกิพีเดีย จะระบุความหมายคำว่า Drama คือ ละคร,นาฏกรรม หรือ บทละคร ก็อย่างที่เราเห็น เมื่อความหมายคำว่า "ดราม่า" Drama มาอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ตหรือโลกโซเชียลก็จะกลายเป็นคำสแลง(Slang)
อธิบายต่อคำสแลง (Slang) คืออะไร? คำสแลงก็คือคำศัพท์ที่ไว้สื่อสารที่อาจจะเข้าใจเฉพาะกลุ่มหรือคนที่เคยได้ยินได้ฟังมาแล้วเข้าใจความหมายของคำๆนั้น ยกตัวอย่างคำสแลงที่เราได้ยินกันบ่อยๆเช่น
- ติ๊งต๊อง ความหมายก็จะประมานว่าปัญญาอ่อนแต่ก็ไม่ถึงกับโง่เพราะคำนี้ออกจะเป็นแนวน่ารักๆ
- แอ๊บแบ๊ว ความหมายคำนี้ก็จะประมานว่า ไร้เดียงสาหรือทำตัวน่ารักเกินเหตุหรือแกล้งทำตัวไม่รู้เรื่อง
- เด็กแว๊น ใช้กับกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบรวมกลุ่มกันเพื่อแข่งมอเตอร์ไซค์บนท้องถนนตอนดึกๆ (คำว่าแว๊นหรือการออกเสียงที่คล้ายๆกันเช่น แง๊นๆ เป็นเสียงบิดมอเตอร์ไซค์นั่นเอง
- นก คำว่านกที่ปกติทั่วไปเราเข้าใจว่า นก คือสัตว์ปีก 2 เท้าบินได้อันนี้ไม่ผิด แต่คำว่า "นก" ในคำสแลงมีความหมายคือ พลาด อด ผิดหวัง
- ลำไย บางคนเข้าใจว่า ลำไยคือ ผลไม้ชนิดหนึ่งเมื่อสักแล้วมีรสหวานและเมล็ดสีดำอยู่ตรงกลาง แต่ความหมายในคำแสลงของคำว่า ลำไย เป็นความหมายประมานว่า รำคาญ, ไม่ชอบ.น่ารำคาญ ประมานนี้
Advertisement
Advertisement
อธิบายเรื่องคำสแลงกับคำว่าดราม่าไปซะเยอะเลย เอาล่ะ!! เข้าเรื่องกันที่จะมาเขียนวันนี้คือ บทความนิยายเรื่องสั้น ( สั้นมาก) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "ความรัก" เรื่องราวของคนสองคนมาเจอกันโดยบังเอิญในแบบที่ตามชื่อหัวข้อเรื่องเลย "เชื่อหรือไม่ว่า พรหมลิขิต มีอยู่จริง"
นี่เป็นเรื่องราวของนางเอกผู้มีชะตากรรมที่อาภัพ ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่อายุ 16 เนื่องจากพ่อแม่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ต้องมาอาศัยอยู่กับป้าและลุงที่ไม่ค่อยได้รักเธอเท่าไหร่นักก็เลยไม่ได้เรียนหนังสือเหมือนคนอื่นๆต้องออกมาทำงานเลยจนถึงทุกวันนี้ และวันนี้เองนางเอกของเราก็เพิ่งจะตกงานและก็มีหนี้สินจากเงินกู้นอกระบบที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ในขณะที่กำลังเดินหางานอยู่นั้นก็ได้มาเจอกับพระเอกที่กำลังรถเสียอยู่ข้างทาง นางเอกจึงเข้ามาดูและซ่อมให้ พระเอกรู้สึกประทับใจมาก (คนเขียนก็คิดได้เนาะ ให้นางเอกมาซ่อมรถ) และถามนางเอกไปหลังจากที่นางเอกได้ซ่อมรถให้เสร็จ
Advertisement
Advertisement
บทสนทนา
พระเอก : " จะไปไหนครับคุณ ให้ผมไปส่งไหม"
นางเอก : "ไม่เป็นไรค่ะ แค่ออกมาซื้อของกินในเซเว่น มาเจอรถคุณเสียพอดี เดี๋ยวไปก่อนนะคะ"
และนี่ก็คือการพบกันครั้งแรกระหว่างพระเอกกับนางเอก (เป็นไงล่ะเรื่องสั้น สั้นจริงๆ) ภายหลังพระเอกกับนางเอกได้มาพบกันอีกครั้งในที่ทำงานถ้าให้เขียนต่อก็คงจะเป็นอะไรที่ยาวมาก เพราะการเขียนนิยายจำเป็นต้องเพิ่มตัวละครอีกหลายตัวละคร อย่างเช่น เพิ่มตัวละครที่เป็นเพื่อนนางเอกหรือเพิ่มตัวละครที่เป็นเพื่อนพระเอก และก็มีบทสนทนาและบทสรุปหรือเชื้อเชิญอยากให้อ่านใน Ep. ถัดไป... เช่น.. เชื่อหรือไม่ว่านี่คือการพบกันเพราะพรหมลิขิต ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวความรักระหว่างเขาและเธอจะลงเอยแบบไหน เรื่องราวทั้งหมดแม้แต่ตัวนักเขียนเองก็ยังตอบไม่ได้ เพราะเรื่อง พรหมลิขิตก็ยังเป็นเรื่องที่หาคำตอบไม่ได้ต้องติดตามใน Ep. ถัดไป
สรุปแล้วสิ่งที่นักเขียนอยากจะฝากในตอนท้ายบทความก็คือ เรื่องของการใช้คำสแลง ถ้าหากเราใช้คำสแลงเพื่อพูดคุยกับคนอื่นๆบางทีคนที่เราสื่อสารด้วยอาจจะไม่เข้าใจความหมายของคำนั้นๆจนเกิดเป็นการเข้าใจผิด เราควรอธิบายให้กับคนที่ไม่เข้าใจความหมายของคำสแลงนั้นๆด้วย เพื่อไม่ให้การสื่อสารผิดพลาดจนเกิดเป็นประเด็นถกเถียงหรือขัดแย้งกัน
บทความโดย : Number.seven
เครดิตภาพประกอบจาก : Pixabay
ภาพปก โดย Alexas_Fotos
ภาพที่ 1 โดย congerdesign
ภาพที่ 3 โดย Alexas_Fotos
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น
