ไลฟ์แฮ็ก
เทคนิคการบริหารธุรกิจในมือด้วย BCG Matrix

ในหนึ่งองค์กรอาจจะมีหลายธุรกิจ หลายแบรนด์ หรือมีหลายสินค้าในมือ การวิเคราะห์ว่าสินค้าหรือแบรนด์ที่อยู่ในมือตัวไหนจะไปรอดหรือไม่รอด มีอีกหนึ่งเครื่องมือในการเข้ามาช่วยนั่นก็คือ BCG Matrix
BCG Matrix ย่อมาจาก Boston Consulting Group ซึ่งเป็นชื่อของบริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดและธุรกิจแห่งหนึ่ง และยังเป็นผู้คิดโมเดลนี้ขึ้นมาด้วย
BCG Matrix คือการนำ “อัตราการเจริญเติบโตของตลาด” หรือ “Market Growth” และ “ส่วนแบ่งตลาด” หรือที่เรียกกันว่า “Market Share” มาเป็นตัวแปรในการเปรียบและวิเคราะห์ เป็นแนวแกนตั้งและแกนนอน จะได้ออกมาเป็น BCG Matrix ดังรูป
เครดิตรูป : www.smartinsights.com
จากรูปเราจะมาวิเคราะห์ทีละตัว ดังนี้
Star (รูปดาวสีเหลือง) คือ ธุรกิจที่เป็นเหมือนดาวรุ่ง คือมีอัตราการเจริญเติบโตสูง และมีส่วนแบ่งการตลาดมาก ยกตัวอย่างเช่น สินค้าที่ขายดีมาก และหมดเร็วมาก ๆ ถูกพูดถึงอย่างมาก สิ่งที่ควรทำกับธุรกิจประเภทนี้ คือ ลงทุนเพื่อรักษาระดับความเป็นดาวรุ่ง และให้ระวังการแข่งขัน เพราะเป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง ก็จะเกิดการแข่งขันที่สูง มีบริษัทรายอื่นเข้ามาทำธุรกิจที่คล้าย ๆ กัน
Advertisement
Advertisement
Cash Cow (วัวสีฟ้า) คือ ธุรกิจที่มีอันตราการเจริญเติบโตต่ำ แต่มีส่วนแบ่งการตลาดที่สูง ถือได้ว่าเป็น “ธุรกิจหลัก” ขององค์กร ที่มีเสถียรภาพ สิ่งที่ควรทำกับธุรกิจในโซนนี้คือใช้เงินลงทุนให้น้อย ๆ เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ได้เติบโตมากขึ้นอยู่แล้ว รักษาเสถียรภาพของธุรกิจเอาไว้ และนำกำไรที่ได้ไปลงทุนกับธุรกิจที่มีการเติบโตสูงอย่าง Star หรือ Question Mark ที่จะพูดต่อไป
Question Mark (รูปเครื่องหมาย ? สีแดง) คือ ธุรกิจที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะยังมีส่วนแบ่งการตลาดที่น้อย เมื่อมีการเจริญเติบโตที่สูง แต่ส่วนแบ่งการตลาดต่ำ จึงทำให้เกิดความน่าสงสัย ธุรกิจนี้จึงอยู่ในกลุ่ม Question Mark ส่วนใหญ่มักจะเป็นธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยี นอกจากจะเป็นสิ่งใหม่ที่เข้ามาแล้ว ธุรกิจในโซนนี้อาจะเกิดจากปัญหาภายในองค์กรในเรื่องของการบริหารจัดการต่าง ๆ
Advertisement
Advertisement
Question Mark เป็นจุดที่สนใจเลยทีเดียว ว่าจะทำให้ธุรกิจนั้นขึ้นไปเป็น Star หรือ ตกลงไปเป็น Dog จึงต้องมีการวางแผนการลงทุน บนพื้นฐานของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
Dog (รูปสุขนัขสีเขียว) เป็นกลุ่มที่สิ้นหวังที่สุด เพราะอัตราการเจริญเติบโตต่ำ และส่วนแบ่งการตลาดต่ำ ซึ่งก็คือรายได้ต่ำ กำไรต่ำ หรือขาดทุน อาจจะเนื่องมาจากสินค้าได้ล้าสมัย ตกยุค ไปแล้ว หรือเกิดจากการบริหารที่ผิดพลาด กลยุทธ์ที่ควรใช้กับกลุ่มนี้คือ ขายทิ้ง เลิกทำ เพราะทำไปก็ขาดทุนเปล่า ๆ หรือถ้ายังมีความหวังอยู่บ้างก็ให้หาทางปรับปรุงธุรกิจ แต่ใช้เงินให้น้อยที่สุด
และนี่ก็คือ เรื่องราวของ BCG Matrix สำหรับผู้ที่สนใจ และทำธุรกิจอยู่หลายตัว อย่างที่เราทราบกันดีว่าเรามีความจำกัดทั้งด้าน เงิน เวลา และพลังงาน ดังนั้นการวางแผนจัดการธุรกิจอย่างมีกลยุทธ์ ก็จะช่วยให้เราบริหารธุรกิจในมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ BCG Matrix ก็จะเป็นอีกตัวช่วยให้เราสามารถทำการตัดสินใจกับธุรกิจในมือได้ง่ายขึ้น
Advertisement
Advertisement
เครดิตรูปภาพอื่น ๆ : https://www.pexels.com/
บทความโดย โอ้
Facebook : fb.me/justlearntogether
YouTube : https://bit.ly/2PpkbZu
IG : kanziri
ความคิดเห็น
