อื่นๆ

เรื่องหลอนๆ เมื่อคุณดันนอนทับตะวัน !

3.1k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรื่องหลอนๆ เมื่อคุณดันนอนทับตะวัน !

             ทุกคนเคยได้ยินเรื่อง ผีอำ ได้ยินใครเรียกแล้วห้ามขานรับ หรือห้ามนอนตอนเวลาโพล้เพล้ไหมคะ แล้วทุกคนคิดว่า ความเชื่อเหล่านี้จริงหรือไม่? แรกเริ่มเดิมทีตัวผู้เขียนนั้นก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้เท่าไร แต่ก็ไม่เคยลบหลู่หรือท้าทายนะคะ จนกระทั่งตัวผู้เขียนได้มาเจอกับตัวเอง ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าตัวผู้เขียนนั้นเป็นคนขวัญอ่อนมาก ดังนั้น สำหรับเรื่อง สิ่งลี้ลับหรือสิ่งที่มองไม่เห็นเนี่ย เรียกได้ว่า ผู้เขียนกลัวสุดๆเลยล่ะค่ะ

            ก่อนที่ผู้เขียนจะเล่าประสบการณ์ของตนเองให้ฟังนั้น ขอเกริ่นเกี่ยวกับความเชื่อเรื่อง การนอนโพล้เพล้ให้ฟังก่อนนะคะ คนโบราณจะสอนลูกหลานว่า ห้ามนอนในช่วงเวลาผีตากผ้าอ้อม (ช่วง 17.00 – 19.00 น.) เพราะเชื่อกันว่าจะถูกเอาวิญญาณไป เนื่องจาก เวลาของโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณนั้นแตกต่างกัน หากเรานอนหลับในช่วงเวลานั้น อาจทำให้วิญญาณเราหลุดออกจากร่าง ล่องลอยอยู่ในโลกวิญญาณ กลับเข้าสู่ร่างไม่ได้

Advertisement

Advertisement

นอนโพล้เพล้

                                                แหล่งที่มาของภาพ : https://bit.ly/2COrFxU

                  ประสบการณ์นี้ผู้เขียนเจอกับตัวเองนานมากแล้ว ตอนนั้นผู้เขียนนอนหลับตอนหัวเย็น ประมาณ 6 โมงเย็นค่ะ ทีนี้จำได้ว่าฝันว่าไปเที่ยวกับแม่ จนกระทั่งสักพักได้ยินแม่เรียก ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่แม่ของตัวผู้เขียนมาปลุกจริงๆ ดังนั้น ก็จะมีเสียงแม่ตัวจริงกับแม่ตัวปลอมในฝันเรียกผู้เขียนพร้อมกัน 2 คนซ้อนกันอยู่ ตอนนั้นจำได้ว่า แม่เรียกให้ไปกินข้าว แล้วผู้เขียนกำลังจะตอบรับว่า เดี๋ยวลุกขึ้นไปแต่ผู้เขียนพูดไม่ได้เลย และที่น่ากลัวกว่านั้น คือ แม่ที่เรียกผู้เขียนในฝัน หน้าตาเหมือนแม่ผู้เขียนทุกอย่าง แต่สิ่งที่น่ากลัวและไม่เหมือนเลย คือ “แววตา” ค่ะ แววตาของแม่ตัวปลอมในฝันนั้นน่ากลัวและแดงก่ำมาก จากนั้นเหมือนผู้เขียนเริ่มรู้สึกตัวและได้สติและผู้เขียนจำความรู้สึกตอนนั้นได้ว่า ผู้เขียนไม่เชื่อว่าแม่ในฝันนั้นจะเป็นแม่จริงๆ เพราะแววตาและสีหน้าที่น่ากลัวเกินไป ผู้เขียนเลยตื่นขึ้นมา ตกใจมาก รีบวิ่งไปหาแม่ ( หมายถึง แม่ตัวจริงนะคะ 555 ) และเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้แม่ฟัง แม่ก็ลูบหัวและบอกว่า คงเป็นผีปลอมตัวมา แม่บอกผู้เขียนว่า แม่ไม่รู้หรอกว่าผู้เขียนกำลังฝันอะไร แต่อยู่ดีๆ แม่มองนาฬิกาแล้วเห็นว่า 6 โมงเย็นแล้ว เลยตั้งใจจะไปปลุก เพราะนอนตอนเย็นนั้นไม่ดี ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้เขียนกำลังฝันว่าแม่มาเรียกพอดี ซึ่งแม่ในฝันนั้นก็คงเป็นผีปลอมตัวเป็นแม่ผู้เขียนมาหลอก ซึ่งถ้าผู้เขียนไม่มีสติพอ ไม่อยากจะนึกภาพเลยนะคะว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ตัวผู้เขียนมองว่าสัญชาตญาณระหว่างแม่กับลูกก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยตัวผู้เขียนให้รอดมาได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เพราะแม่บอกผู้เขียนว่าเหมือนมีลางสังหรณ์ หรือเหตุอะไรบางอย่างที่ดลใจให้แม่อยากไปปลุกผู้เขียนตอนนั้น ซึ่งถ้าแม่ผู้เขียนไม่มาปลุกตอนนั้นพอดี ป่านนี้ไม่รู้ว่าผู้เขียนจะอยู่อย่างไรนะคะ ผู้เขียนเขียนไปยังกลัวไปอยู่เลย ถึงแม้  เหตุการณ์จะผ่านมานานแล้ว แต่ผู้เขียนยังจำทุกความรู้สึก จำภาพใบหน้าและแววตาอันน่ากลัวของผู้หญิงในฝันคนนั้นได้อยู่จนถึงทุกวันนี้

Advertisement

Advertisement

                 แต่ก่อนนั้นผู้เขียนก็เคยแต่ได้ยินความเชื่อที่ว่า ห้ามนอนตอนเย็นที่เล่าต่อกันมานาน หรือแม้แต่แม่ของผู้เขียนก็เคยเตือนหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะมาประสบพบเจอเองกับตัว สำหรับตัวผู้เขียนนั้น ประสบการณ์นี้ถือเป็นประสบการณ์แรกและประสบการณ์เดียวเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับที่น่ากลัวสุดๆไปเลยและก็จะไม่มีวันลืมประสบการณ์หลอนๆนี้แน่นอนค่ะ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์