อื่นๆ

เรื่องเล่าจากแม่

21.4k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรื่องเล่าจากแม่

ทุกที่มีเรื่องเล่า ที่บ้านผมก็เหมือนกัน  หลากหลายเรื่องที่จะเล่า

ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่คุณแม่เล่าให้ฟังเมื่อผมยังเด็ก

            หมู่บ้านของผมเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แถวอีสานตอนบน ผมมาอยู่ที่หมู่บ้านนี้ตอนผมอายุได้ 2 เดือนก่อนหน้านี้ พ่อและแม่ผมอยู่ที่ กทม. เนื่องจากป้าและลุงของผม เสียชีวิตอย่างกะทันหัน  ย่าอยากให้มีคนมาเฝ้าบ้านและเลี้ยงพี่ชายลูกป้า 2 คนที่กำพร้าทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน อาชายของผมมาไม่ได้เนื่องจากต้องรักษาเท้าที่โดนไฟลวก เป็นแผลหนักจากการทำงาน พ่อกับแม่จึงต้องลาออกจากงานหอบผมมาอยู่ที่อีสานบ้านเกิดพ่อ บ้านป้าผมซึ่งตอนนี้เป็นบ้านผมไปแล้ว เป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง ขึ้นบันใดไปจะเป็นชานพัก ชั้นนี้มีห้องครัว ขึ้นไปอีกพักนึงจะเป็นชานบ้าน ขวามือมีห้อง 2 ห้อง บ้านทำแบบง่ายๆ  ตอนเด็ก ๆ ผมจะมีรถช้างเอาขึ้นไปเล่นบนบ้าน เมื่อเราอยู่อีกฝั่งของบ้าน รถมันจะวิ่งไปได้เองถึงกลางบ้าน เนื่องจากชานบ้านโค้ง แม่บอกว่า ตอนป้ากับลุงเสียเขาเอาศพขึ้นมาบ้านบ้านคนอีสานก่อนเอาศพไปป่าช้าจะนำศพไว้ที่บ้านเพื่อจัดงานศพ  พอเอาศพวางลงที่ชานบ้าน ชานมันลั่นและโค้งลง บ้านของญาติทุกคนจะอยู่ในรั้วเดียวกัน ที่บ้านย่าเป็นศูนย์กลางของครอบครัว หลังบ้านผมเป็น ทางดินทรายเล็ก ๆ เป็นทางที่คนเอาไว้เดินไปทุ่งนา ไปตักน้ำที่บ่อท้ายหมู่บ้าน บ้านผมเป็นหลังสุดท้ายของซอยถนนทรายนี้ ทางดินทรายนี้เวลาฝนตกฝกจะกลายเป็นธารน้ำเล็ก ๆ ไหลลงห้วยที่สุดของทางทราย คนโบราณเชื่อว่า ทางน้ำไหลแบบนี้เป็นทางของวิญญาณ  ตรงข้ามหลังบ้านผมเป็นป่าไผ่ใหญ่มาก ถัดจากป่าไผ่นี้ไปเป็นที่ที่คนเอาไม้ไปเผาถ่าน

Advertisement

Advertisement

              เรื่องแรกที่แม่ผมเล่าให้ฟังเป็นเรื่องของเตาเผาถ่านนี้ละครับ ย่าของผมก็เผาถ่านไว้เหมือนกัน ย่าคนนี้ท่านเป็นพี่สะใภ้ของย่าผม ทุกวันท่านก็จะไปดูเตาเผาถ่านทุกวัน วันนี้ท่านไปทำธุระกลับค่ำ แต่ต้องไปดูเตาเผาถ่านเพราะถ้าแกลบที่กลบเตาเผาถ่านน้อยไปจะทำให้ไฟลุกแรงและไหม้ไม้จนไม่ได้ถ่าน เวลาตอนนั้นตามที่แม่เล่าน่าจะประมาณ 3 ทุ่มกว่า สมัยก่อนทางเส้นนี้มืดมาก ท่านก็ถือไฟฉายของท่านเดินไป ดูเตาถ่าน พอเดินผ่านก่อไผ่ไปย่าเล่าให้แม่กับอาลูกสาวท่านว่า เห็นคนเดินนำหน้าไป ท่านก็คิดดีจังมีเพื่อนไปดูเตาเพราะตรงนี้มี 6 - 7 เตา ย่าก็เรียกให้คน ๆ นั้นรอ พอไกล้ถึงตัวคน ๆ นั้น ย่าเห็นเป็นร่างดำทะมึน แต่สิ่งที่น่าสยองที่สุดคือร่างนั้นไม่มีหัว มีคอ แต่ไม่มีหัว ย่าผมตอนนี้อายุก็ 50 เกือบ 60 วิ่งไม่คิดชีวิต ท่านเป็นไข้หัวโกร๋น อยู่เป็นอาทิตย์ เกือบปีกว่าผมจะเต็มหัว ตอนนั้นผม 3 ขวบแล้ว  อีกเรื่องกับเตาเผาถ่านนี้ ข้างเตาเผาถ่านมีป่ากล้วย วันนี้แม่ผมจะทำหมกปลีกล้วย พ่อก็ต้องไปตัดปลีมาให้ ห้าโมงเย็นหน้าหนาว ชนบทก็โพล้เพล้ พ่อไปตัดปลีก็เปิดใบกล้วยซึ่งต้นไม่สูงมากหาปลีได้ง่าย พ่อก็เห็นคนยืนหันหลังให้ คน ๆ นั้นเดินลึกเข้าไปในป่ากล้วยพ่อก็ไม่สนใจเปิดหาปลีและก็ตัดใบตองไปให้แม่ พอพ่อจะตัดใบตองกล้วย ก็เห็นคนยืนหันหลังให้แต่เห็นช่วงหน้ากลางหลังถึงเท้าเพราะใบกล้วยบัง พ่อก็เลยเปิดใบกล้วยว่าจะเรียกพอเปิดใบกล้วยออก ก็เห็นคน ๆ นั้น ไม่มีหัว พ่อไม่รออะไรทั้งสิ้นวิ่งออกจากป่ากล้วย กลับบ้านมาเล่าให้แม่ฟัง ตอนนี้ห้วยนั้นได้กลายเป็นคลองชลประทาน ทางสายกลายเป็นทางคอนกรีต กอไผ่มีคนมาไถออกแล้วปลูกบ้าน และเตาถ่านนั้นลุงผมอีกคนไปไถออกและปลูกบ้าน ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์แปลก ๆ อีก ตั้งแต่ขุดคลอง และมีคนเข้ามาอยู่ในแถว ๆ นี้มากขึ้น
              น้องผม เกิดได้ 2 ปี พ่อผมกลับจากไต้หวันมาอยู่บ้านอย่างถาวร ลืมบอกไปก่อนหน้านี้พ่อผมไปทำงานไต้หวัน กลับมาพักปีละ 15 วันช่วงธันวาคม ช่วงหน้านาก็ไปทำนา  น้องของผมก็เล่นอยู่ในนา พ่อไถนา แม่เลี้ยงวัวกับผมกว่าจะมาถึงก็เกือบเที่ยง รถไถที่พ่อไถนาอยู่ก็เหวี่ยงหลุดออกจากมือพ่อ รถวิ่งตรงเข้าไปหาน้องผมที่นั่งเล่นโคลนอยู่แถว ๆ คันนา แต่พอจะถึงรถไถนั้นก็หักเลี้ยวแล้วก็ชนคันนาพ่อรีบวิ่งเข้าไปดับเครื่องแล้วพาน้องผมขึ้นไปบนเถียงนา ตอนนั้นผมกับแม่ก็เห็นเหตุการณ์ แม่ร้องแทบเป็นลม หน้านาพวกเราจะมานอนที่นา คืนนั้น พ่อฝันว่า.....

Advertisement

Advertisement

คืนนั้นพ่อของผมฝันว่า

มีผู้หญิงสองคนมาหาที่นา มาร้องเรียก อ้ายทิด ๆ อยู่ข้างนอกเถียงนา

ในฝันพ่อผมก็ลงไปดูจำได้อย่างแม่นยำว่า เป็นผู้หญิง
สองคน นุ่งโจงกระเบนสีดำส่วนอกนุ่งตะเบงมาน สีน้ำตาลเข้ม คนนึงผอมมาก คนนึงอ้วน มาคุยด้วย "อ้าย ๆ ไปเล่นเฮือนน้องบ่ ไปอยู่นำกัน" พ่อผมถามว่าเป็นใครมาจากใหน

 เขาบอกว่าอยู่

โสกตรงหน้านานี่เอง 

โสก แปลว่า โตรก ที่ซึ่งมีร่องเป็นน้ำไหลหรือที่มีช่องทางเดินไปมาได้ เรียก โสก

เช่น โสกขุมปูน โสกไผ่ โสกนกเค้า

เครดิตภาพจากคุณ : Thanyaporn

            เครดิตภาพจากคุณ : Thanyaporn 


          ผมต้องขอเล่าให้ฟังก่อน โสกตรงนั้นเป็นโสกข้างทางใหญ่ เรียกว่า โสกสะเบง ได้ชื่อนี้มาเนื่องด้วยแม่บอกว่า เมื่อหลายสิบปีก่อนมีคนเสียชีวิตจะอุบัติเหตุรถเครื่องตกโสก ชื่อ เบง คนเรียกติดปากว่าโสกเบง จนยังไงไม่รู้กลายเป็น โสกสะเบง ตั้งแต่ผมเด็กจนโต ก็มีคนรถตกตายเรื่อย ๆ สองสามศพ เป็นผู้ชายทั้งหมด ทำนาอยู่ได้ยินเสียงเบรกลากล้อก็มี  ถ้าเราเดินลงโสกนี้ไปเดินเข้าไปประมาณกิโลกว่าผ่านป่าเข้าไปจะถึงป่าช้า กองฟอนเผาผี พื้นที่ป่าสาธารณะนี้ใหญ่พอสมควร กลับมาที่เรื่องของเรา เธอบอกว่ามาจากหมู่บ้านตรงโสก พ่อบอกว่ามีลูกมีเมียแล้ว คนผอมบอกว่า "บักน้อย ๆ นั้นติ ข่อยมักเด้ข่อยยังหยอกมันอยู่ รถไถนั้นข่อยนิละเฮด ข่อยแค่หยอกบ่ได้เฮดหยัดหยังหลาย" ในฝันพ่อได้ยินก็โมโหไล่ทั้งสองไป พอพ่อออกไปไล่ พ่อก็เหมือนเห็นเงาดำใหญ่ทะมึนตรงต้นไม้ใหญ่ จากนั้นทั้งสองก็วิ่งหายไป

            ตื่นมาตอนเช้าพ่อก็เล่าให้แม่ฟัง แค่นั้นล่ะแม่จับได้รถมอไซค์ขับไปพร้อมมีดอีโต้ ถึงโสก เข้าไปฟันต้นไม้ แม่ผมเป็นคนใจนักเลง นิสัยเหมือนผู้ชายเสียงดัง และปากร้ายเป็นที่สุด ผมก็ได้เลือดแม่มาเต็ม ๆ แม่ทั้งตัดทั้งด่า "สิมาเอาผัวกูไปติ ปาดทิโถ กล้าดีจั่งได๋มาเฮดลูกกู" ความจริงด่าแรงกว่านี้นะครับ พอกลับไปก็ไปว่าพ่อ ว่าถ้าคนพวกนั้นสวยก็คงตายห่าไปแล้ว  แล้วก็พากันขนของกลับบ้าน ไปนอนบ้าน แม่ก็ไปเลี้ยงวัวปกติ ในป่านั้นก็ไป มีคืนนึงวันบุญกฐินของหมู่บ้านแม่ฝันว่า มีผู้ชายผู้หญิงคู่นึง มาหาเป็นคนแก่ หน้าตาสะอาดน่านับถือบอกว่าเป็นนายหมู่บ้านใกล้ ๆ จะพาไปเที่ยวหมู่บ้าน พอดีที่หมู่บ้านมีงานบุญ  หมู่บ้านที่แม่ไปนั้นบุญมีการจัดงานดูคึกคัก ตาท่านนึงบอกแม่ว่า พวกเข้าเป็นนายที่นี่ หมู่บ้านนี้มีแต่แม่หม้าย เราดูแลอยู่ ที่พามาเพราะอยากขอโทษที่ลูกบ้านไปทำให้เดือนร้อน แต่พวกเขาไม่กล้าแล้วล่ะ พวกนั้นกลัวลูก มาด่าวันนั้น เวลาที่ลูกเลี้ยงวัวพอได้ยินเสียงพวกเขาก็หลบแล้ว แม่บอกว่าหมู่บ้านนี้มีบ้านเรือนไม่ต่างจากหมู่บ้านปกติ แต่ดูโบราณกว่า คนในหมู่บ้านแต่งตัวดูสมัยเก่า ๆ พอใกล้สว่างท่านทั้งสองก็พามาส่งแล้วก็บอกเลขไว้ สองตัว  ไม่น่าเชื่อเลขในความฝันของแม่ มันถูกจริง ๆ  คนเฒ่าคนแก่เล่าต่อ ๆ ว่า ในป่าโสกนั้น เป็นหมู่บ้านแม่หม้าย ไม่เห็นหรือคนตายมีแต่ผู้ชาย เรื่องที่ผมเล่านี้ขึ้นอยู่กับผู้อ่านจะใช้วิจารณญาณนะครับ แต่ผมเชื่อนะครับผมเชื่อสิ่งที่แม่เล่าครับ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์