อื่นๆ
เรื่องเล่าตกยุค ตอน ดอกไม้ริมทาง

เรื่องนี้มันเกิดจากความบังเอิญขณะเดินอยู่ริมถนน หันไปเห็นป่าหญ้ารก ๆ ข้างทางมองไปมองมา เอ๊ะ มันมีดอกไม้ เลยแวะถ่ายรูปเล่น ๆ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า สมัยเด็ก ๆ แถวบ้านมีป่าหญ้ารก ๆ แบบนี้เยอะมันมีต้นอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด ซึ่งในปัจจุบันการจะหาธรรมชาติแบบป่าข้างทางในเมืองใหญ่ ก็ค่อนข้างหายาก ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นความเจริญที่แทบทุกแห่งมีแต่ตึกสูง แม้ว่าที่รกร้างมันจะดูอันตราย ดูไม่น่าไว้ใจ แต่มันมีธรรมชาติที่น่าสนใจ เพราะลูกไม้ ดอกไม้บางอย่าง ไม่ได้เห็นมานานหรือหลายคนไม่เคยรู้จัก มาดูกันว่าดอกไม้ข้างทางที่เราเจอมามันมีอะไรบ้าง
ดอกผักบุ้งไทย
ผักบุ้งไทยพันธุ์ก้านแดง ต้นเล็ก ๆ ลำต้นออกสีแดง ๆ ที่นิยมรับประทานกับส้มตำ ดอกสีขาว ๆ กลีบตอก บาง ๆ สมัยก่อนหาได้ง่ายมากตามริมถนนแถวบ้านเราขึ้นเต็มไปหมด แม้แต่ที่ว่าง ๆ ที่มีการถมดินทิ้งไว้ มันก็ขึ้นมาเองเก็บกินได้ไม่เสียเงิน (ถ้าไม่กลัวว่าสุนัขจะฉี่รดไว้ ) และผักบุ้งไทยถือเป็นทั้งพืชผักสวนครัว และ สมุนไพร อีกทั้งมี วิตามิน A วิตามิน B1 , วิตามิน B2 , วิตามิน C แร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ไนอะซีน รวมทั้ง มีสารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมสรรพคุณมีหลายด้าน เช่น บำรุงสายตา , บำรุงระบบโลหิต , ขับพิษออกจากร่างกาย ในสมัยก่อนผักบุ้งจะอยู่ในเทียบยาไทยหลาย ๆ แผนเช่น ยาหม้อสำหรับสตรีคลอดบุตรที่จะมีสมุนไพรหลาย ๆ อย่างนำมาต้มสำหรับอาบและอยู่ไฟ
Advertisement
Advertisement
ลูกกระทกรก
กระทกรกป่า จัดเป็นพืชถิ่นหาได้ง่ายในบ้านเรา และถือว่ามันเป็นวัชพืชไม้เลื้อย ซึ่งสมัยเด็ก ๆ แถวบ้านมีเยอะมาก และมันรับประทานได้ แต่หลายคนไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์ มีสรรพคุณทางสมุนไพร ทั้งผลดิบและผลสุก ลูกกระทกรกป่าเป็นลูกเล็ก ๆ ตอนอ่อน ๆ จะสีเขียว พอสุกจะออกสีเหลือง ๆ รสชาดเหมือนสาวรส สามารถรับประทานยอดอ่อนได้ ดอกล้างให้สะอาดตากแดดให้แห้งชงเป็นชาดื่มได้ ส่วนสรรพคุณทางยานั้น ตำรับยาโบราณบอกว่ามันเป็นยาแก้พิษ แก้เมา โดยบางตำราให้นำมาต้มเป็นยาถอนพิษจากพวกเห็ดพิษเห็ดเมาต่าง ๆ ส่วนลูกกระทกรกป่านั้นจะทานได้เฉพาะผลแก่ให้สรรพคุณในการเป็นยาระบาย และรสชาดอร่อยเหมือนลูกเสาวรส ปลูกง่ายหากจัดแต่งดูแลให้ดีก็ไม่รก
ดอกเถาวัลย์
เถาวัลย์ วัชพืชไม่เลื้อยที่ดูไม่มีประโยชน์อะไรเลย ต้องบอกก่อนว่าไม่แน่ใจว่าเป็น เถาวัลย์ชนิดไหน เพราะไม่ได้เห็นนานมาก ค้นหาข้อมูลมันก็มีคล้ายแต่ไม่เหมือนซะทีเดียว เลยขอไม่ฟันธงดีกว่า แต่จากที่ดูต้นมาไปจับ ๆ พลิก ๆ มันเป็นเถาวัลย์แน่นอน ซึ่งหากบอกว่ามันเป็นพืชที่ไร้ค่าก็ดูจะน่าสงสารมันไปสักนิด เพราะเถาหรือต้นของมันนั้น มักจะนิยมนำมาใช้ในการจัดดอกไม้ได้ หรือการตกแต่งสวนบางทีก็ปลูก เถาวัลย์ให้เลื้อยตามโครงไม้ โครงเหล็ก ทำให้ดูสวยงาม
Advertisement
Advertisement
ดอกกระทกรก
ซึ่งคงต้องบอกว่าสมัยนี้ในกรุงเทพ การจะหาสิ่งเหล่านี้มันค่อนข้างยาก หากไม่ได้อยู่ในแถบชานเมือง หรือ บริเวณนั้นมีที่รกร้าง มีป่าหญ้าที่ขึ้นตามธรรมชาติ เพราะมีแต่ตึกเต็มไปหมด หรือ ไม่ก็ที่ว่าง ๆ ก็ล้อมรั้วปิดเพื่อความปลอดภัย แต่แถวบ้านเราอยู่ชานเมืองกรุงเทพ มันก็ยังพอมีสิ่งเหล่านี้ให้เห็นอยู่บ้าง กระถินริมทางก็ยังพอมี ตำลึง มะขามเทศ ต้นหว้า ต้นตะขบ (ลูกมันหวานมาก) ไมยราพ ยังพอเห็น หน้าฝนก็มีหอยทาก ซึ่งเวลาเจอต้องคอยเก็บเข้าข้างทางเพราะสงสารกลัวมันโดนรถเหยียบ
ต้นไมยราพและดอก
เรื่องเล่าตอนนี้ อาจจะดูไม่มีสาระอะไรมากมายนัก แต่สิ่งเหล่านี้นับวันมันค่อย ๆ หายจากชีวิตคนเมืองไปทุกที ความเจริญเข้ามาแทนที่ ความเร่งรีบในชีวิต มันอาจทำให้เราลืมนึกถึงเรื่องราวบ้างอย่างไป ลืมที่จะมองธรรมชาติรอบ ๆ ตัวกว่าจะนึกถึงมันได้มันก็แทบไม่เหลือให้เห็นกันแล้ว หยุดพักความเร่งรีบมองสิ่งต่าง ๆรอบตัวคุณอาจจะเห็นแบบที่เราเห็น
Advertisement
Advertisement
เพิ่มเติม ( ไร้สาระล้วน ๆ แต่อยากเขียน )
เห็นดอกไม้ริมทางแล้วก็นึกถึงเพลงญี่ปุ่นของวง TOKIO เป็นวงโปรดและเป็นเพลงโปรดของเราเลยชื่อเพลง 路傍の花 อ่านว่า Robou no Hana แปลในความหมายไทย ๆ ก็คือ ดอกไม้ริมทาง คลิ๊กฟังตัวอย่างเพลงที่นี่ เนื้อหาของเพลงเป็นแนวให้กำลังใจที่บางครั้งชีวิตคนเรา เปรียบได้กับดอกไม้ริมถนนที่ดูไร้ค่า แต่ไม่ว่าจะเจอลมแรงหรือฝนกระหน่ำ เมื่อพระอาทิตย์ส่องแสง มันยังคงเบ่งบานสวยงามเสมอ ก็เหมือนกับในชีวิตคนเราบางเวลาอาจจะท้อแท้สิ้นหวังเหมือนชีวิตไร้ค่า แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลยเราทุกคนล้วนมีค่าในตัวเอง เราแค่อดทนสักวันจะเป็นวันที่เราสมหวัง
รูปประกอบบทความผู้เขียนถ่ายเองบางรูปโพสในโซเชี่ยลส่วนตัว
ความคิดเห็น
