ไลฟ์แฮ็ก

5 เทคนิคการซื้อหนังสือราคาประหยัด ที่นักอ่านไม่ควรพลาด!!

634
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
5 เทคนิคการซื้อหนังสือราคาประหยัด ที่นักอ่านไม่ควรพลาด!!

แม้ว่าเราจะอยู่ในยุคที่อินเตอร์เน็ต เต็มไปด้วยข้อมูล ความรู้ หรือความบันเทิงในรูปแบบฟรี ๆ ให้ได้อ่านกันผ่าน Content มากมาย แต่เชื่อว่ายังมีผู้คนเป็นจำนวนมากที่ยังนิยม และชื่นชอบการอ่านหนังสือเล่มแทนที่่อ่านบนหน้าจอดิจิทัล และสำหรับใครก็ตามที่เป็นนักอ่านไม่ว่าจะเป็นสายนิยาย วรรณกรรม สารคดี หรือพัฒนาตนเอง เชื่อว่าแต่ละคนจะต้องหมดค่าหนังสือต่อเดือน หรือต่อปี ประมาณหลักพัน หลักหมื่นเลยก็ว่าได้ โพสต์นี้ จึงอยากเป็นการแนะนำ 5 ทริค หรือเทคนิคการซื้อหนังสือราคาประหยัด ที่หลายคนน่าจะรู้แล้ว และทำเป็นประจำ มาแนะนำสำหรับทั้งนักอ่านหน้าเก่า และหน้าใหม่ เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกซื้อหนังสือด้วยราคาที่ถูกลง และยังได้สนับสนุนร้านหนังสือ สำนักพิมพ์ ให้สามารถคงอยู่ และผลิตผลงานดี ๆ ให้ได้อ่านกันไปอีกนาน ๆ

Pre Order1.ซื้อแบบ Pre Order อ่านก่อนใคร ในราคาพิเศษ
หนึ่งในการซื้อหนังสือที่ได้ราคาที่ถูก และยอดนิยมมาก ๆ ในยุคนี้ ก็คงไม่พ้นการ Pre Order หนังสือก่อนวางจำหน่ายจริง ๆ โดยการสั่งแบบ Pre Order นั้น ค่อนข้างจะเหมาะกับใครก็ตามที่เป็นแฟนคลับของหนังสือชุดนั้น ๆ หรือแฟนของนักเขียน หรือสำนักพิมพ์ เพราะการสั่งสั่งแบบล่วงหน้าแบบนี้ แน่นอนว่าเราจะไม่ได้เห็นตัวสินค้าแบบเต็ม ๆ อย่างแน่นอน เราจะไม่สามารถเปิดอ่านเนื้อหาคร่าว ๆ หรือได้สัมผัสกับรูปเล่มหนังสือใด ๆ ทั้งสิ้น ทำให้การสั่งแบบนี้คนซื้อต้องเชื่อมั่นในตัวสินค้า และผู้ผลิตพอตัว

Advertisement

Advertisement

ส่วนความพิเศษคือการสั่ง Pre Order อย่างแรกคือผู้ซื้อจะได้ซื้อของที่ต้องการในราคาพิเศษ โดยอาจได้ส่วนลดประมาณ 10-15% ส่วนค่าส่งนั้น แต่ละที่ก็ต่างกันไป มีทั้งส่งฟรี และเสียค่าส่ง และไปลดราคาของหนังสือแทน นอกจากนี้ทางสำนักพิมพ์อาจจัดทำโปรโมชั่นพิเศษ กับหนังสือบางเล่ม หรือบางชุด ด้วยการมีของที่ระลึกที่การซื้อแบบตามร้านไม่มี เช่น ที่คั่นหนังสือ โปสการ์ด หรือถุงผ้า ฯลฯ ที่นักสะสมจะต้องไม่ควรพลาด ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นนักสะสม หรือแฟนคลับของหนังสือใด ๆ ก็ตาม การ Pre Order นั้นถือว่าเป็นทางเลือกที่สะดวก และประหยัดค่าหนังสือไปได้ดีระดับนึงเลย

ช้อดี    :  สามารถ Pre Order ออนไลน์ โดยไม่ต้องออกจากบ้าน
ได้อ่านก่อนใคร เหมาะแก่คนที่กลัวสปอยล์ หรือใจร้อนเป็นอย่างยิ่ง
บางสินค้า อาจได้ของแถม ของที่ระลึกที่หาที่ไหนไม่ได้
ข้อเสีย : ไม่สามารถตรวจสอบหนังสือ หรือดูตัวอย่างหนังสือก่อนซื้อได้ (บางสำนักพิมพ์อาจมีตัวอย่าง สารบัญ และบทแรกของหนังสือมาให้อ่านเล็ก ๆ น้อย ๆ)
ระดับความประหยัด 10-15 %

Advertisement

Advertisement


สมาชิกรายปี2. สมัครบัตรสมาชิกรายปี ประหยัดค่าหนังสือได้ทั้งปี
เชื่อว่าใครที่เป็นคนเดินร้านหนังสือบ่อย ๆ คงจะคุ้นเคยดีเวลาถูกพนักงานถามตอนคิดเงินว่า "มีบัตรสมาชิกไหม ?" ซึ่งการมีบัตรสมาชิกนี้เองคืออีกหนึ่งทางเลือกสำคัญของนักอ่านที่เข้าร้านหนังสือเป็นประจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะบัตรสมาชิกจะเป็นส่วนลดที่ทำให้เมื่อคุณเข้าไปซื้อหนังสือร้านนั้น ๆ ในราคาที่ถูกลงกว่าปกติ โดยบัตรสมาชิกนั้นหลัก ๆ จะได้จาก 2 กรณีคือ การสมัครโดยตรงกับร้าน โดยอาจเสียค่าสมาชิกรายปี ประมาณ 300-500 บาท และได้จากโปรโมชั่น การซื้อหนังสือจำนวนมาก ๆ เช่นซื้อราคา 1,000 บาทขึ้นไป หรือสะสมคะแนน

สำหรับการลดราคา ด้วยการใช้บัตรสมาชิกจะเหมาะกับคนเข้าร้านหนังสือบ่อย ๆ หรือมั่นใจว่าเฉลี่ยการซื้อหนังสือต่อเดือนมากกว่า 1-2 เล่มขึ้นไป เพราะร้านจะลดราคาหนังสือจากราคาปกติประมาณ 5-10% ถือว่าช่วยประหยัดไปได้เล็กน้อย แต่บางร้านหนังสือมีการให้สะสมคะแนนในบัตรหากมีแต้มเยอะอาจสามารถลดราคาถึงหลักร้อย หรืออาจแลกของที่ระลึกต่าง ๆ จากทางร้านจำพวกถุงผ้า หรือร่ม ได้อีกด้วย

Advertisement

Advertisement

ข้อดี    : เหมาะกับคนเข้าร้านหนังสือบ่อย สามารถซื้อหนังสือนอกโปรฯ ในราคาที่ถูกลงได้
หากซื้อเยอะ อาจเก็บแต้มมาลดราคาเพิ่ม หรือแลกของที่ระลึกจากร้านได้
ข้อเสีย : ราคาบัตรค่อนข้างแพง และไม่เหมาะกับคนที่นาน ๆ เข้าร้านหนังสือ
บัตรจะลดราคากับหนังสือนอกโปรฯ หากซื้อหนังสือที่ลดราคาอยู่แล้วบัตรจะไม่ลดเพิ่ม
ระดับความประหยัด 5-10%


โปรโมชั่นตามร้าน3. โปรโมชั่นตามร้าน นานทีมีครั้ง แต่รับรองคุ้ม!!
เชื่อว่าใครที่เข้าร้านหนังสือบ่อย ๆ จะมีอยู่สองประเภทด้วยกัน คืออย่างแรก เป็นสมาชิกประจำร้านอย่างที่กล่าวไปในข้อก่อนหน้า และอีกแบบคือคนที่เข้าร้าน และรอซื้อหนังสือตามโปรโมชั่นที่ร้านนั้น ๆ จัดขึ้น ซึ่งโปรโมชั่นตามร้านนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดบ่อยนัก และจะคาดเดาไม่ค่อยได้ว่าจะจัดขึ้นเมื่อไหร่ โดยการจัดส่วนลดดังกล่าว จะขึ้นอยู่กับทางร้านว่าจะจัดรูปแบบไหน เช่น คิโนะคุนิยะ จะจัดโปรสำหรับหนังสือใหม่ ลด 10% ในช่วงเวลาจำกัด หรือร้านนายอินทร์ ที่จะลดราคาหนังสือแต่ละหมดในแต่ละเดือน ประมาณ 15% เป็นต้น นอกจากนี้บางครั้งร้านก็จะมีการโละสต็อกหนังสือที่มีตำหนิ มาขายในราคาถูกลง 50-70% ก็มี ดังนั้นใครที่เข้าร้านหนังสือบ่อย ถ้าไม่เป็นสมาชิกแนะนำให้รอโปรเหล่านี้น่าจะคุ้ม เพราะคุณไม่ต้องเป็นสมาชิกร้าน ก็ได้ส่วนลดของร้านนั้น ๆ เช่นกัน

ข้อดี    :  โปรโมชั่นเหมาะกับนักอ่านทุกคน ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกก็ได้ส่วนลด
บางร้านจะจัดโปรโมชั่น หมุนเวียนไปมาตลอดทั้งปี
ข้อเสีย : หนังสือที่ลดส่วนใหญ่จะมีเงื่อนไข หรือจำกัดหมวดหมู่ ทำให้เราอาจไม่ได้ซื้อเล่มที่อยากอ่านจริง ๆ
ระดับความประหยัด 15-70%


หนังสือมือสอง4. หนังสือมือสอง หนังสือเก่า ที่ยังเปี่ยมไปด้วยคุณค่า
หากใครที่เป็นนักอ่านที่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องความใหม่ หรือความงดงามของรูปเล่มหนังสือ หนังสือมือสองถือว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะมันเป็นหนังสือที่ผ่านการอ่านมาแล้ว แต่คนอ่านมือแรกอาจเบื่อ หรือมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ต้องขายหนังสือเล่มนั้นให้ทางร้านรับซื้อหนังสือมือสองแทน โดยในตอนนี้รูปแบบการซื้อหนังสือมือสองก็มีทางเลือกมากมาย ทั้งในเพจ หรือกลุ่ม Facebook หรือตามตลาดหนังสือมือสองเช่น สวนจตุจักร เป็นต้น ความโดดเด่นของหนังสือมือสองอย่างแรกคือ หนังสือจะราคาที่ถูกมาก ส่วนใหญ่จะมีราคาอยู่ที่ 50% จากปก เว้นแต่ว่าเป็นหนังสือที่หายากมาก ๆ เช่น นิตยสาร หรือหนังสือบางเล่มที่ไม่มีพิมพ์ซ้ำออกมาแล้ว บางเล่มอาจมีราคาเกินว่าปก 2-3 เท่าตัว (เช่น A Day เล่ม 1 ที่ทุกวันนี้อยู่ที่ราว ๆ 500 บาท)

อย่างไรก็ตามอย่ามองว่าหนังสือมือสอง จะเป็นหนังสือเก่า สภาพเยิน หรือเต็มไปด้วยตำหนิเท่านั้น เพราะหนังสือมือสองหลาย ๆ เล่มทางร้าน ได้มีการตรวจหนังสืออย่างละเอียดก่อนรับมา ทำให้มั่นใจได้ระดับนึงว่า หนังสือที่ได้อ่านแม้จะไม่สภาพใหม่เอี่ยม กลิ่นกระดาษหอมฉุยเหมือนหนังสือออกจากโรงพิมพ์ตามร้านทั่วไปก็ตาม แต่สภาพของหนังสือถือว่ายังได้อรรถรสเต็มเปี่ยมแน่นอน โดยหนังสือมือสองอาจมีตำหนิในส่วนของหน้าปก ที่อาจเยินเล็กน้อย หรือบางหน้ากระดาษอาจมีการพับ และรอยเปื้อนเล็ก ๆ น้อย ๆ รวม ๆ คือความสมบูรณ์ของหนังสือจะอยู่ที่ 60- 90% นอกจากนี้ความสนุกของการซื้อหนังสือมือสอง คือการคาดเดาไม่ได้ว่าในร้านจะมีหนังสืออะไรบ้าง และนั่นอาจทำให้นักอ่านได้หนังสือแรร์ ๆ ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ มาในราคาประหยัดด้วยก็เป็นได้

ช้อดี    : หนังสือราคาถูกลงจากปกมาก ส่วนใหญ่คือ 50% จากปก
มีหนังสือหายาก หรือที่หาซื้อไม่ได้ตามร้านอีกแล้ว
ข้อเสีย : หนังสือสภาพไม่ใหม่ และมีตำหนิอยู่พอสมควร
หนังสือที่ร้านนำมาจำหน่ายจะคาดเดาไม่ค่อยได้ว่าจะมีเล่มไหนบ้าง
ระดับความประหยัด 30-50%


งานหนังสือ5. งานหนังสือ มหกรรมลด แลก แจก แถม ที่คอหนังสือไม่ควรพลาด!!
ถ้าใครเป็นนักอ่านแล้วล่ะก็ งานสัปดาห์หนังสือคือสิ่งที่ทุกคนต้องเคยไปสักครั้งในชีวิต หรือแทบจะเรียกว่าเป็นกิจกรรมประจำปีของหลาย ๆ คนด้วยซ้ำ โดยงานสัปดาห์หนังสือจะเป็นงานที่จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ซึ่งภายในงานได้มีการรวบรวมหนังสือทุกสำนักพิมพ์ทั่วฟ้าเมืองไทยมาจัดจำหน่าย พร้อมด้วยโปรโมชั่นแต่ละร้านที่เรียกได้ว่านักอ่านจะต้องฟินอย่างแน่นอน ส่วนลดจะเริ่มตั้งแต่ 15% ไปจนถึง 70% พร้อมมีของแถม ของแจกภายในงานอีกด้วย

ซึ่งงานนี้ก็เหมาะกับนักอ่านทุกแนวไม่ว่าจะเป็น นักอ่านนิยาย ที่จะได้มาจับจองนิยายเล่มใหม่ที่รอคอย ,นักอ่านสายสารคดี ประวัติศาสตร์ งานวิชาการ ที่มีทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ที่ต้องการหาความรู้ผ่านหน้ากระดาษ หรือนักอ่านที่มาเชียร์ มาให้กำลังใจนักเขียนคนโปรดของตัวเอง ซึ่งในงานนี้ก็ได้เปิดโอกาสให้คนอ่าน และนักเขียน ได้เจอหน้ากัน ได้ขอลายเซ็น และเก็บความประทับใจที่การซื้อหนังสือออนไลน์ หรือในร้านปกติไม่สามารถมอบให้ได้

ข้อดี    : จัดเต็มด้วยหนังสือลดราคา ทั้งใหม่เก่า
มีหนังสือให้เลือกหลากหลายกว่าเดิม ใครที่หาหนังสือหายาก อาจได้ในงานนี้้เท่านั้น
เป็นงานที่เปิดโอกาสให้นักเขียน และนักอ่าน ได้เจอกันตัวเป็น ๆ
ข้อเสีย : ใครที่บ้านไกลสถานที่จัดงาน อาจเดินทางไป กลับ ลำบาก
ระดับความประหยัด 15-70%

สำหรับทั้ง 5 เทคนิคที่แนะนำไป ทั้งหมดผู้เขียน ได้ถ่ายทอดมาจากประสบการณ์ส่วนตัว จากการติดตามซื้อหนังสือเป็นประจำจากร้านต่าง ๆ และคาดหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักอ่านในยุคนี้ได้ไม่มากก็น้อย สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านสนุกกับการอ่านหนังสือที่ชื่นชอบครับ

Cr. ภาพ ปก / 1 / 2 / 3 / 4 / 5

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์