ไลฟ์แฮ็ก

6 สิ่งที่สามารถทำได้ในช่วงเวลาอันยากลำบาก

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
6 สิ่งที่สามารถทำได้ในช่วงเวลาอันยากลำบาก

สวัสดีคุณผู้อ่านครับ คุณกำลังมีช่วงเวลาที่กำลังยากลำบากอยู่หรือเปล่าครับ ? หากไม่ก็ยินดีด้วยครับ แต่หากกำลังรู้สึกเหมือนกำลังแบกโลกทั้งใบไว้ รู้สึกเหมือนเจอทางตันในอุโมงค์ ในบทความความนี้ผมมีคำแนะนำให้คุณครับ นี่คือสิ่งที่ผมอยากแนะนำให้คุณลองดูและผมเชื่อว่าหากคุณทำมันได้ชีวิตของคุณจะง่ายขึ้นไม่มากก็น้อยครับ

women sit on the hillภาพโดย Denys Nevozhai

1. คิดในแง่บวก

ผมรู้ว่ามันอาจฟังดูเป็นอะไรที่ซ้ำซาก แต่ความซ้ำซากนี้แหละมันถูกต้องแล้ว การคิดบวกนั้นแม้มันจะเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ในการก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากแต่มันก็เป็นส่วนที่สำคัญ

การที่คุณคิดบวกเข้าไว้นั้นมันหมายความว่าคุณกำลังนำตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันไม่เพียงแต่จะทำให้คุณผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้เท่านั้น แต่มันเป็นกระบวนการที่จะทำให้คุณกลายเป็นคนที่ดีขึ้นด้วย

Advertisement

Advertisement

จงเลือกเอาว่าคุณจะมองในแง่บวกและเตือนตัวเองว่าปลายทางของอุโมงค์ยังคงมีแสงสว่างอยู่และคุณจะผ่านพ้นมันไปได้ หรือเลือกที่จะเอาแต่โทษตัวเองแล้วก้มหน้าก้มตายอมรับการตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์เลวร้ายนี้

ผมไม่ได้บอกนะครับว่าคุณไม่สามารถมีวันที่แย่ ท้อแท้ หรือน้ำตาตกในได้เลย แต่ผมอยากบอกว่าคุณควรจะลุกขึ้นมาฟื้นฟูสภาพจิตใจและเดินหน้าต่อไปได้แล้ว

spider-manภาพโดย Road Trip with Raj

2. เรียนรู้จากช่วงเวลาที่ยาก

"การเผชิญกับความยากลำบากนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะเรียนรู้จากมันได้" – John Maxwell

หากคุณพบว่าคุณกำลังอยู่ในท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้าย คุณจะต้องเก็บเกี่ยวจากมันให้มากที่สุดและมองให้ออกว่าอะไรที่มันผิดพลาดและอะไรที่คุณไม่ได้ทำเพื่อให้มันแตกต่างออกไป เมื่อคุณเรียนรู้จากมันอยู่เสมอมันจะทำให้คุณมองเห็นภาพได้ชัดว่าอะไรที่คุณควรจะทำเพื่อให้แน่ใจว่าตัวคุณจะไม่ตกอยู่สถานการณ์เดิม ๆ อีก หรือถ้าหากคุณเจอสถานการณ์ที่คล้าย ๆ เดิม คุณจะรู้ว่าควรจะทำอะไรเพื่อทำให้สถานการณ์ที่ยากลำบากง่ายขึ้นได้

Advertisement

Advertisement

3. โฟกัสกับสิ่งที่ควบคุมได้

"โลกไม่ได้บอกให้คุณแบกมันไว้" ในบางสถานการณ์ที่มันอยู่เหนือการควบคุมของคุณ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรคุณก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ มันมีแต่จะทำให้คุณเกิดความหงุดหงิดและเสียอารมณ์หากคุณมัวแต่ทุ่มเทเวลาและเสียพลังงานไปกับสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ และคุณอาจกำลังทำให้สถานการณ์มันดูแย่ไปกว่าที่มันเป็นจริง ๆ เพราะคุณมัวแต่ไปโฟกัสกับด้านลบของมัน

ฉะนั้นคุณควรโฟกัสกับสิ่งที่คุณควบคุมได้เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่จะทำให้มันเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น เขียนรายการทุกอย่างที่คุณสามารถทำได้ออกมาและเริ่มโฟกัสกับสิ่งเหล่านั้น อะไรที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ก็ไม่ต้องไปสนใจ

Walkingภาพโดย Joshua Ness

4. รู้ตัวว่าคุณเดินมาไกลแค่ไหนแล้ว

บางครั้งเราก็มัวแต่โฟกัสกับเส้นทางตรงหน้าจนลืมที่จะหันกลับไปมองว่าเราผ่านอะไรมาแล้วบ้าง ชื่มชมกับสิ่งที่ตัวเองทำสำเร็จมาแล้วบ้าง มันจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจกับตัวเอง หากคุณได้รู้ตัวว่าเดินมาไกลขนาดไหนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์มันจะสว่างขึ้น

Advertisement

Advertisement

5. เอ็นดูกับตัวเองหน่อย

การจะเอาชีวิตผ่านเส้นทางที่โหดร้ายนั้น คุณควรจะดูแลตัวเองบ้าง ออกไปเดินเล่นที่สวน ออกกำลังกาย ยกเวท อ่านหนังสือดี ๆ ไม่สำคัญว่าคุณจะทำอะไรแค่จงทำสิ่งที่ทำให้จิตใจและร่างกายของคุณมีระดับสูงขึ้นจนไม่ไปมัวหมกหมุ่นอยู่กับการสมเพชตัวเอง

forgiveภาพโดย Ian Schneider

6. ให้อภัย

หากมีใครบางคนทำผิดพลาดหรือทำสิ่งแย่ ๆ จนทำให้คุณตกไปอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ตามธรรมชาติของมนุษย์แล้วคุณคงจะมีโกรธหรือขุ่นเคืองใส่คนคนนั้น แต่ถ้าหากคุณให้อภัยคนคนนั้น ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่มีความแค้นต่อพวกเขา คุณจะรู้สึกดีขึ้นแน่นอน เพราะแทนที่คุณจะมัวไปโฟกัสกับความรู้สึกด้านลบต่อคนคนนั้น คุณจะสามารถโฟกัสกับการก้าวไปข้างหน้า คุณจะไม่สามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้หากเอาสมาธิไปจดจ่ออยู่กับความรู้สึกไม่สบายใจของคุณที่มีต่อคนที่ทำให้คุณเกิดปัญหา มันมีแต่จะทำให้ทุกอย่างมันยุ่งยากขึ้น

หรือแม้แต่การที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเพราะสิ่งที่ตัวเองทำ จนไม่สามารถยกโทษให้ตัวเองได้ บางครั้งผมก็เคยตกอยู่ในช่วงแบบนั้นนะครับ แต่ผมอยากจะแนะนำให้รู้จักคำ ๆ นี้ครับ "ปล่อยวาง" นั่นคือหนึ่งในหลักศาสนาพุทธที่ใช้ได้กับแทบทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเลย

"ปล่อยวางและเลิกยึดติด" มันอาจคล้ายกับการให้อภัยนะครับแต่มันลึกกว่านั้น การปล่อยวางและเลิกยึดติดนั้นในที่นี้นั้นคือการที่เราละทิ้งอารมณ์ความโกรธแค้น ละทิ้งความรู้สึกผิดต่อตัวเอง ละทิ้งความรู้สึกด้านลบทิ้งไป เลิกยึดติดกับเรื่องผิดพลาด อะไรที่มันเกิดขึ้นแล้วก็ปล่อยให้เกิดขึ้นไป เราทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินหน้าต่อ การยึดติดและไม่ยอมให้อภัยกับคนอื่นและตัวเองนั้นมีแต่จะยิ่งทำให้สถานการณ์ทวีคูณความเลวร้ายมากขึ้นครับ แก้ปัญหาด้วยใจที่ปล่อยวางจะทำให้คุณมีแรงใจที่จะนำไปคิดแก้ปัญหาได้มากกว่าครับ


ภาพปกโดย Ksenia Makagonova

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์