ไลฟ์แฮ็ก
How to เลิกผัดวันประกันพรุ่ง
“พรุ่งนี้แล้วกันนะ” ประโยคติดปากอันมหัศจรรย์ ที่ทำลายล้างสิ่งที่เรียกว่าวินัยมาแล้วแทบทุกสมรภูมิรบ มันน่าทรมานใจนักเมื่อความสำเร็จของเราถูกทำลายลงได้ด้วยตัวของเราเอง! แล้วจะมีวิธีไหนบ้างไหมนะ ที่จะช่วยให้เราเลิกผัดวันประกันพรุ่งได้น่ะ! บทความนี้แหละที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของมนุษยชาติ โดยเฉพาะจอมขี้เกียจตัวพ่อ ซึ่งคือตัวผู้เขียนเอง!
จะว่าไปไอ้เจ้าสาเหตุที่เรา “ผัดวันประกันพรุ่ง” กันเป็นอาชีพนี่มันคืออะไร? ผมเองก็อยากรู้ จึงลองไปค้นคว้าหาข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่งทั้ง อากู๋(google)หรืออาจารย์ยู(youtube) เพื่อมาเปรียบเทียบกับชีวิตตนเองดูว่าเป็นจริงตามเขาบอกบ้างไหม ผมว่าถ้าเราเห็นต้นตอปัญหาก่อนน่าจะแก้ไขได้ง่ายขึ้นนะ
รูปภาพจาก pixabay.com
เจอแล้ว! สาเหตุของการ “ผัดวันประกันพรุ่ง” มีคนกล่าวไว้หลายแบบ
Advertisement
Advertisement
- ในงานวิจัยจากวารสาร Psychological Science บอกเราว่า สมองของคนผัดวันประกันพรุ่งแบบเรานั้น มีส่วน amygdala ที่ใหญ่กว่าคนทั่วไป จึงสามารถจัดการอารมณ์ได้น้อยกว่าคนที่เขามีวินัยกัน
- เขาว่ากันว่า สมองต้องการหาความสุขให้เราด้วยวิธีการที่ง่ายที่สุด และใช้พลังงานน้อยที่สุด เพราะฉะนั้นเวลาที่เราคิดจะทำงาน แต่พอเห็นความหนักหนาของงานซึ่งกองอยู่ตรงหน้า แน่นอนว่าเราจะขอเลือนไปก่อนแบบ “ขอพรุ่งนี้ละกันนะเหนื่อย”
- ความเครียด หากเราเป็นคนเครียดซีเรียสง่าย หรือประสบอยู่ในสภาวะเครียดบ่อย ๆ แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่จะล้มเลิกแผนการ วินัยเราจึงพังทลายหายเป็นฝุ่นผง เนื่องจากเรามักเลือกตัวเลือกที่ทำให้เราเครียดน้อยกว่านั่นเอง
รูปภาพจาก pixabay.com
ถ้าวิเคราะห์สาเหตุหลัก ๆ ข้างต้น ผมว่ามันค่อนข้างเข้าเค้ากับชีวิตเราทีเดียวเชียว แน่นอนคนจำพวกอารมณ์ศิลปินแบบผม เคยผัดวันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ไอ้เราจะฝึกอารมณ์ให้สงบนิ่งสมองมันก็มักจะปลิวหายล่องลอยไปในอวกาศ พอคิดถึงงานอันหนักหนาสาหัสแถมเป็นเพอร์เฟ็ตชั่นนิสต์ขั้นสุดอีก ก็เหนื่อยก่อนจะทำงานซะแล้ว เลยไม่ทำมันล่ะ! พอเจอเรื่องเครียดก็ขอตัวกินขนมหวานชานมไข่มุกก่อนนะ ขอพักให้หายเครียดก่อน กลัวเวลาทำงานในโหมดโมโหโธโสแล้วจะพังยับเยิน จึงเกิดการผัดวันประกันพรุ่งไปตามสาเหตุที่เขากล่าวมาทั้งหมดเด๊ะอะดิ!
Advertisement
Advertisement
แล้วทำไงดี! นี่ฉันจะต้องฝึกควบคุมอารมณ์น่ะเหรอ! ทำไงดีอะ ใครก็ได้ช่วยด้วย!
รูปภาพจาก pixabay.com
How to เลิกผัดวันประกันพรุ่ง!
ข้อที่ 1.กฎห้าวินาที! ของคุณ Mel Robbins บอกว่าถ้าเราคิดจะทำอะไรอย่าคิดนานเกินห้าวินาที เนื่องจากถ้ารอเกินห้าวินาทีแล้วสมองจะเริ่มหาข้ออ้าง จนเราไม่เริ่มทำมันจนได้ ฉะนั้นถ้ามันเป็นสิ่งสำคัญ ให้ลองนับหนึ่งสองแล้วลุยเลย!
ข้อที่ 2.ทำแค่นิดเดียว ถ้างานมันยากไป ให้ซอยงานหั่นมันเป็นชิ้นเล็ก ๆ จนเหลือชิ้นละนิด ๆ เขาบอกว่าให้เราทำยังไงก็ได้ให้เราเริ่มลงมือก่อน พอลงแรงแล้วเดี๋ยวมันก็เสร็จจนได้ แต่ถ้าไม่ได้เริ่มนี่ไม่เสร็จแน่นอน เช่นผมอยากจะเขียนบทความบทความเจ๋ง ๆ สักเรื่อง ถ้าคิดเป็นการใหญ่คงขี้เกียจน่ะ เล่นเกมสบายกว่า เลยต้องทำให้การเขียนบทความง่ายกว่าการเล่นเกม ก็แค่เขียน 1 ประโยคพอ แน่นอนว่าเมื่อเริ่มแล้วมันก็ไหลมาเองจนถึงจุดนี้! ทีละนิด ทีละนิด
Advertisement
Advertisement
ข้อที่ 3.เพิ่มอารมณ์ด้านบวกให้ตัวเองบ่อย ๆ ความเครียดเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงของการทำงานโดยไม่ผัดวันประกันพรุ่ง หากเราเติมไฟบ่อย ๆ สามารถชาตพลังงานบวกด้วยวิธีการต่าง ๆ ได้ อย่างฟังเพลงเติมพลังใจ หรืออ่านหนังสือดี ๆ อยู่กับคนที่เราชอบเรารัก พอถึงเวลางานเราก็มีแรงจะทำงานง่ายกว่าตอนที่เราเครียดเสมอ!
รูปภาพจาก pixabay.com
อย่าลืมนะ! ถ้าเป็นเรื่องที่สำคัญกับชีวิต คิดแล้วทำเลย อย่ารอ! เริ่มลงมือทำก่อนแค่ทีละนิด ทีละก้าวสั้น ๆ ก็ถึงเส้นชัยแล้วล่ะ! หาความสุขด้วยนะ เติมพลัง! เติมไฟบ่อย ๆ แล้วลุยกัน เราจะทำสำเร็จได้ตอนเราเริ่มทำกันนี่แหละ!
ความคิดเห็น