สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การทำ FEMTO LASIK เลสิกไร้ใบมีดที่โรงพยาบาลกลาง ตั้งแต่การจองคิวจนถึงหลังทำ บทความนี้ขอไม่เน้นสาระมาก เน้นประสบการณ์จริงในฐานะลูกค้า ขั้นตอนการจองคิว ขึ้นเขียง ลงเขียง เป็นต้นค่ะ ดังนั้นอาจหลงๆลืมๆเนื้อหาวิชาการที่คุณหมอและผู้ช่วยอธิบายมาบ้าง โปรดอภัยยยยยยการตัดสินใจเอาจริงๆแล้วเราอยากทำมานานแล้ว แต่ก็ใจเสาะเลยไม่ได้ทำสักที แล้วก็ไม่ได้หาข้อมูลเท่าไหร่ เราสั้นซ้าย 175 ขวา 250 เอียงนิดหน่อย อายุ 25 ปี ถือว่าสั้นน้อย แต่ก็ต้องใส่แว่น ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการทำกิจกรรมต่างๆ และแว่นที่ใช้อยู่ตัดมานานมาก มีรอยขีดข่วนเต็มไปหมด ได้เวลาเปลี่ยน อะไรๆในชีวิตจะได้สดใสขึ้น การทำครั้งนี้จึงค่อนข้างปุบปับมาก ด้วยความที่พี่สาวแนะนำโรงพยาบาลกลางเพราะเคยทำเลสิกที่นี่เมื่อนานมาแล้ว เราก็ไปศึกษาก็พบว่าที่นี่ก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงในการทำเลสิก ลองเปรียบเทียบราคากับที่อื่น และความใกล้บ้าน สรุปก็ตัดสินใจทำกับที่นี่แหละการจองคิวตัดสินใจได้ก็ทักเพจ Facebook โลดดด --> klanglasikก็ถามแอดมินเพจว่าสั้นเท่านี้ทำเลยดีไหมหรือรอให้สั้นกว่านี้ค่อยทำถึงจะคุ้มกว่า (งกแหละ) แอดมินแนะนำว่า เทียบกับ1-2 ปีที่ผ่านถ้าเปลี่ยนไม่เกิน 0.50 ก็สามารถตรวจและทำได้ค่ะ ประมาณ 30% ของคนอายุไม่ถึง 30 มีโอกาสสั้นเพิ่มได้ค่ะ พอตัดสินใจแน่แล้วว่าทำแอดมินจะส่งตารางแพทย์ออกตรวจให้ อยากได้หมอท่านไหน วันไหนก็เลือกเลย ส่วนตัวเราไม่เลือกหมอ เพราะเชื่อว่าหมอก็น่าจะเก่งทุกคน อาจเพราะเหตุนี้เลยได้คิวเร็ว จองวันเสาร์ นัดตรวจวันพฤหัส ผ่าเย็น ถ้าเป็น Femto ราคาผ่าใน-นอกเวลาราชการจะเท่ากัน วิธีอื่นจะราคาจะไม่เท่า เจ้าหน้าที่จะติดต่อมาทางโทรศัพท์เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมและนัดวันการเตรียมตัวก่อนทำเลสิกห้ามใส่คอนแทคเลนส์ 7 วันก่อนมา พยายามหยอดน้ำตาเทียมตาจะได้ไม่แห้งมาก ไม่ฉีดน้ำหอม ไม่แต่งหน้า ทาครีม ใส่เสื้อเชิ้ต แบบกระดุมผ่าหน้า ไม่ขับรถมา แอดมินจะแนะนำรายละเอียดต่างๆอีกทีค่ะขั้นตอนการตรวจตาพอถึงวันนัด นัดตรวจ 07:00-07:30 เจ้าหน้าที่ก็จะพาไปตรวจตา วัดความโค้งกระจกตา ความหนาของกระจกตา และโรคทางตาต่างๆ มีหยอดยาขยายรูม่านตา กว่าจะขยายก็ประมาณ 9:30 ตาเหมือนนกฮูกเลย แล้วคุณหมอก็ตรวจๆ เขาให้ไปไหน ก็ไป บอกให้ทำอะไรก็ทำ ความโค้งกระจกตาเราประมาณ 530 อยู่ในค่าเฉลี่ยปกติ สามารถผ่าได้ทุกวิธี พยาบาลก็อธิบายว่าแต่ละวิธีต่างกันยังไง ถ้าเป็นเลเซอร์แบบใบมีด จะแยกชั้นกระจกตาด้วยใบมีด ใช้มือหมอ ก็อาจกินเนื้อกระจกตาเยอะได้ อาจไม่เรียบเนียนเท่าใช้เครื่องเลเซอร์ (ประมาณนี้ ถ้าผิดขออภัย) ถ้าเป็นเฟมโต คีย์ค่าต่างๆใส่คอมพิวเตอร์ก็จะเรียบเนียน และถ้าอนาคตต้องการทำอีก อาจจะสามารถทำได้อีกครั้งขึ้นอยู่กับค่าสายตา ตอนแรกตั้งใจว่าจะเอาแบบถูกที่สุด แต่สุดท้ายก็เลือกเฟมโตตั้งแต่ได้ยินคำว่ามือหมอละ พอตรวจช่วงเช้าเสร็จ หมอก็บอกระหว่างนี้ไปพักผ่อน เดินเล่น กินข้าวได้ ต้องรอรูม่านตาหดประมาณ 3-4 โมงเย็นถึงจะผ่าได้ วันนั้นศูนย์เลสิกไม่ค่อยมีคนเยอะ พี่ๆพยาบาลต่างก็คอยมาเช็คตลอด เอาไฟฉายส่องว่ารูม่านตาหดยัง จะได้เริ่มเพราะคนไข้ (เรา) อยากกลับบ้านไว ไม่มีอะไรทำระหว่างรอแล้ว ประทับใจเจ้าหน้าที่มาก พยาบาลสุภาพและให้คำแนะนำดีมากเลย เรียกหนู เรียกลูกตลอด ถึงแม้จะตัวไม่หนูแล้วก็เถอะ เจ้าหน้าที่เลยให้เข้าห้องตรวจไปนอนรอ ปิดไฟ ห่มผ้าให้ พร้อมนอนสุดๆ ระหว่างรอก็ไปจ่ายเงิน ค่าผ่าตัด 50,000 บาท ค่ายาประมาณ 1,000 (รวมเบ็ดเสร็จไม่เกิน 52,000 บาท) สแกนจ่ายได้น้าได้เวลาขึ้นเขียงเริ่มผ่าอีกทีตอน 15:30 ก่อนทำกินยาคลายกังวล (ยานอนหลับ) ใส่เสื้อคลุมที่คลุมผม ใช้เวลาผ่าไม่ถึงครึ่งชม. เร็วมาก ตอนผ่าห้ามกรอกตา ห้ามบีบตา ห้ามหลับ จะมีลูกบอลให้บีบระหว่างทำ เราก็บีบเต็มที่เลย เกร็งไปหมด กลัวกรอกตาไปมา มึนๆน่าจะเพราะยา ผู้ช่วยจะคอยเชียร์ บอกขั้นตอนตลอด เริ่มแรกก็หยอดยาชา ยาฆ่าเชื้อนู่นนี่นั่น แล้วหมอจะใส่ที่ถ่างตาเลยไม่ต้องกังวลว่าเราจะกระพริบตา แล้วเอาอุปกรณ์มาวางที่ตา ก็รู้สึกอยู่นะแต่ไม่เจ็บ จะต้องมองแสงสีม่วง น่าจะแยกกระจกตา จะมืดไปชั่วขณะ ทำสองข้างแล้วก็หมุนเตียงเปลี่ยนไปมองแสงสีเขียว รู้สึกเหมือนหมอกำลังเอาอะไรสักอย่างมาคีบเปิดกระจกตาเหมือนเปิดพลาสติกเลยแต่ไม่เจ็บนะ เราสั้นไม่มาก ซ้าย 175 ขวา 250 เอียงนิดหน่อย ก็จะใช้เวลาเลเซอร์ปรับความโค้งกระจกตาไม่นานประมาณ 6 วินาที (แต่ความรู้สึกคือนานมาก) ผู้ช่วยบอกตอนนี้สำคัญมากต้องตั้งสติ ห้ามหลับ ทำข้างขวาก่อน พอทำข้างซ้าย พยาบาลบอกให้ลืมตาขวาช่วยเบิกตากว้างๆสู้แสง เราก็พยายามลืมนะ แต่ไม่รู้ว่ามันลืมขึ้นไหมเพราะมึนมาก แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ด้วยดี เสร็จแล้วหมอหรือผู้ช่วยจะหยอดตาต่างๆให้ครบ เริ่มชัดแล้วนะแต่ยังฟุ้งๆอยู่ วันแรกจะมองเห็น 50% วันต่อมา 80% แล้วก็ลุกมาตรวจตา ใส่ที่ครอบตาให้แล้วกลับบ้านได้ ควรมีคนมารับตอนแรกยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรนอกจากเคืองตา ผ่านไปสักระยะจะแสบตา ลืมตาแทบไม่ขึ้น สู้แสงไม่ค่อยได้ น้ำตาไหลพรากๆ ได้ผ้าก๊อซมาเช็ดน้ำตา กลับถึงบ้าน กินข้าว กินยาที่หมอให้ พารา 1 เม็ด ยานอนหลับ 1 เม็ด สลบตั้งแต่ 5 โมงเย็น ถึง 6 โมงเช้าอีกวันโลกสดใส...บอกลาแว่นตาลืมตาตื่นขึ้นมาโลกนี้ช่างสดใส ยังไม่ถอดที่ครอบตานะ แอบมองผ่านรูที่ครอบ Full HD สุดๆ ไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบเลย แค่เคืองหน่อยๆเหมือนมีอะไรอยู่ในตา นัดตรวจเช้ามาถอดที่ครอบตาออก ตอนนี้คืออยากจะมองไปซะทุกอย่าง ผู้ช่วยก็จะคอยหยอดตา ทำความสะอาด รับยาหยอดตาฆ่าเชื้อ ยาลดบวม น้ำตาเทียม และบอกวิธีดูแล วิธีหยอดตา ห้ามโดนน้ำ ห้ามสระผมหรือไปที่ร้านสระแล้วเอาผ้าบังตา ใส่แว่นกันแดดไปข้างนอก ใส่ที่ครอบตาตอนกลางคืน 7 วันอันตราย ห้ามออกกำลังกาย (มีข้ออ้างไม่ออกกำลังกายละ) รอบดวงตาต้องใช้สำลีกับน้ำเกลือเช็ด บลาๆ นัดอีกที 1 สัปดาห์ หลังจากนี้ก็เล่นมือถือ ใช้คอมได้เลยไม่มีข้อห้าม แต่ก็จะมีตาแห้ง กลางคืนมองแล้วแสงพร่า ต้องคอยหยอดน้ำตาเทียมเรื่อยๆ หลังทำก็ต้องรักษาสายตาดีๆ เพราะอย่างที่บอกตอนต้น ประมาณ 30% ของคนอายุไม่ถึง 30 มีโอกาสสั้นเพิ่มได้สรุปโดยรวมคือพอใจที่ได้ทำ อยากบอกว่าใครที่อยากทำแต่กลัว ทำเถอะ แค่วันเดียวแล้วการมองเห็นจะเปลี่ยนไป หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังสนใจทำเลสิกบ้างนะคะเครดิตภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !