ด้วยความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมเมืองบ้านเราเชื่อได้ว่าทุกคนล้วนยากที่จะหลีกเลี่ยงมลภาวะเป็นพิษอันเกิดจากน้ำมือมนุษย์เรานี่เอง และการที่เราต้องอยู่ในภาวะแวดล้อมที่มีความเป็นพิษอยู่แล้วนั้น ก็อาจเป็นเหตุปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ ถึงกระนั้นปัจจัยที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันในการก่อให้เกิดโรคมะเร็งก็คือ พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราในเรื่องการกินอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยที่เราพอจะสามารถควบคุมดูแลได้ และจะกินอย่างไรให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งนั้น ในวันนี้เราได้นำข้อมูลความรู้ที่ได้รับจากการอบรมการดูแลผู้สูงอายุมาฝากกันค่ะ เป็นที่ทราบกันดีว่าโรคมะเร็งเป็นโรคที่ร้ายแรง เรื้อรัง และมีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการนำไปสู่การเสียชีวิต ด้วยเหตุนี้การควบคุมดูแลปัจจัยด้านอาหารที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งจึงมีส่วนสำคัญยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ การกินอาหารที่มีวิธีการประกอบอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น การใช้น้ำมันที่ร้อนจัดและใช้น้ำมันทอดซ้ำ เนื้อสัตว์ที่ปรุงด้วยความร้อนสูงย่างจนไหม้ อาหารกระป๋องที่มีสารตะกั่วปนเปื้อน สารก่อมะเร็งในอาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า อาหารที่ใส่สี อาหารที่ใช้สารฟอกขาว เช่น ถั่วงอก ขิงฝอย การใช้สารไนไตร์ทเพื่อให้เนื้อมีสีแดงเช่น แหนม ไส้กรอก อาหารที่มียาฆ่าแมลง สารหนู อาหารที่เก็บไว้นานและมีความชื้นจนเกิดเชื้อรา เช่น ถั่วลิสง เมล็ดข้าวโพด ฯลฯ ล้วนเป็นอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ดังนั้นการเลือกกินอาหารที่สดใหม่ สุก สะอาดและถูกสุขลักษณะ ไม่มีสารพิษ สารเคมี และเชื้อรา กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ กินอาหารที่มีไขมันน้อย คอเลสเตอรอลต่ำ กินอาหารที่มีโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่วเมล็ดแห้ง เต้าหู้ เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานโรคให้แข็งแกร่งอยู่เสมอ และกินพืชผักผลไม้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีสารอาหารต้านมะเร็งเป็นองค์ประกอบอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสารอาหารจำพวกวิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ ซึ่งบางชนิดมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง ป้องกันไม่ให้เซลล์ปกติเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็ง ได้แก่1. เบต้าแคโรทีน พบมากในพวกพืชผักใบเขียว เช่น ใบตำลึง ผักบุ้ง ฯลฯ ผักผลไม้ที่มีสีเหลือง สีส้มหรือสีแดงส้ม เช่น แครอท ฟักทอง มะละกอสุก ซึ่งมีใยอาหารสูงช่วยป้องกันท้องผูก และช่วยดูดซับสารพิษแล้วขับถ่ายออกจากร่างกาย2. วิตามินซี เช่น ผักและผลไม้สด เช่น พริกหวานสีต่างๆ คะน้า มะระขี้นก บรอกโคลี่ ดอกกะหล่ำ ฝรั่ง สตรอเบอรี มะขามป้อม กีวี3, วิตามินอี มีมากในพวกน้ำมันพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง พบในจมูกข้าว ไข่แดง นม เนย เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้และถั่วต่างๆ4. ซิลีเนียม เป็นเกลือแร่ที่มีมากในปลา กุ้ง หอย ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด ข้าวกล้อง ข้าวที่ไม่ขัดสี5. สังกะสี เป็นเกลือแร่ที่มีมากใน ขิง เมล็ดฟักทอง แครอท กะหล่ำปลี แตงกวา และส้ม6. ทองแดง เป็นเกลือแร่ที่มีมากในพวกถั่วฝักยาว ถั่วแขก ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ เช่น อัลมอนด์7. แมงกานีส เป็นเกลือแร่ที่มีในอาหารทะเล ตับสัตว์ ข้าว ไข่แดง แครอท หัวปลี คะน้า เมล็ดทานตะวัน จากข้อมูลความรู้เรื่องสารต้านอนุมูลอิสระดังกล่าวข้างต้น ที่พบในสารอาหารจำพวกวิตามินและเกลือแร่ที่อยู่ในพืชผักผลไม้ต่างๆ รวมไปถึงอาหารทะเล ข้าวไม่ขัดสี และพวกถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ นั้น เพื่อให้ร่างกายได้รับสารจำพวกนี้ได้ครบถ้วนเพียงพอต่อการนำไปใช้ในการช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ดี ส่งเสริมให้เซลล์ปกติมีความแข็งแรงยากต่อการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์มะเร็งได้นั้น เราจึงจำเป็นต้องบริโภคอาหารให้หลากหลายด้วย โดยส่วนตัวนั้นก็ได้ลองนำความรู้ที่ได้รับมาปฏิบัติดู เช่น เลิกทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ติดมันที่ปิ้งย่างจนไหม้เกรียม ลดการทานของทอด และทานอาหารที่ปรุงสุกด้วยการต้มและนึ่งเป็นส่วนใหญ่ รวมทั้งพยายามเพิ่มการทานผักผลไม้ที่หลากหลายมากขึ้น ผลที่เห็นได้ชัดและสัมผัสได้ก็คือ น้ำหนักลดลง รู้สึกสดชื่นขึ้นไม่ง่วงนอนในตอนกลางวัน ที่สำคัญคือ แทบไม่เกิดอาการท้องผูกอีกเลย ท้ายสุดนี้หวังว่าเนื้อหาสาระต่างๆ และประสบการณ์บางส่วนในการเลือกกินอย่างไรมาแบ่งปันไว้ ณ ที่นี้ จะเป็นประโยชน์และสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการเลือกกินอาหารอย่างไรให้..ห่างไกลโรคมะเร็งตามสไตล์ที่ตนออกแบบได้ เพื่อให้ได้รับสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนกันทุกคนนะคะเครดิตภาพภาพที่ 1 Maksim Ilyukhin/Pexelsภาพที่ 2 tookapic/Pixabay ภาพที่ 3 wichai bopatay/Pixabayภาพที่ 4 Marta Branco/Pexelsภาพปก Engin Akyurt/Pexels ชวนแต่งแฟนซี หลอน สวย เซ็กซี่หรือสร้างสรรค์ ถ่ายภาพหรือวิดีโอ แล้วโพสต์ที่ TrueID Community ห้อง "13 สยองขวัญ"สำหรับผู้ที่ยอดกดไลค์สูงสุด 5 อันดับแรกอันดับที่1 : (ต้องมียอดไลค์เกิน 150 ไลค์) เงินรางวัล 3,000 บาทอันดับที่ 2-5: (ต้องมียอดไลค์เกิน 50 ไลค์) เงินรางวัล รางวัลละ 1,000 บาท (รวม 4 ท่าน 4,000 บาท)STAR COVER ส่งภาพเข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 65 ถึง 3 พฤศจิกายน 65***