ไลฟ์แฮ็ก
5 เคล็ดลับการตั้งเป้าหมายให้ทำสำเร็จ

ตอนนี้ก็ใกล้จะปีใหม่แล้วนะครับ หลายคนคงมีเรื่องที่อยากจะปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาให้ตัวเองดีขึ้นในแต่ละด้าน เช่น พัฒนาภาษาอังกฤษ ออกกำลังกาย ฝึกเล่นกีตาร์ ออมเงินให้มากขึ้น ฝึกทำอาหาร แต่จนแล้วจนรอดพอทำไปได้สักระยะก็เกิดความท้อแท้เบื่อหน่ายหมดกำลังใจและล้มเลิกในที่สุด
วันนี้ผมจึงอยากจะชวนทุกคนมาตั้งเป้าหมาย New Year’s Resolution กันครับ ด้วยเคล็ดลับดีๆที่นำมาฝากรับรองว่าทุกคนสามารถทำตามได้ และเห็นผลแน่นอน
1.อย่าตั้งเป้าหมายมากจนเกินไป
การตั้งเป้าหมายที่มากเกินไปทำให้เราเกิดความเครียดได้ เช่น อยากจะลองออกไปวิ่ง อยากลองลงทุนในหุ้น อยากลองอ่านหนังสือเดือนละ 1-2 เล่ม แรกๆถ้าเราทำตามเป้าหมายที่เราวางไว้ได้สำเร็จทุกเรื่อง เราจะมีความรู้สึกภูมิใจและมีกำลังใจทำต่อไปเรื่อยๆ แต่ในระยะยาวเราจะคิดถึงอนาคตว่า ถ้าเรายังต้องทำแบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ ชีวิตเราคงไม่มีความสุขแน่ๆ และในที่สุดก็ทำให้เราละทิ้งเป้าหมายและกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม
Advertisement
Advertisement
คราวนี้อยากให้ทุกคนหากระดาษมา 1 แผ่น เขียนในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกยังพกพร่องและต้องการพัฒนาให้ดีขึ้น จากนั้นให้เราตัดสินใจเลือกสิ่งสำคัญที่เราต้องการพัฒนามากที่สุดเพียงแค่ 1 ข้อ และเลือกสิ่งนั้นเป็นเป้าหมายของเราครับ การมุ่งมั่นตั้งใจในเป้าหมายเพียงอย่างเดียวไม่นานเราก็จะทำสำเร็จได้อย่างแน่นอน ดีกว่าเลือกทำหลายๆอย่างแต่ไม่เต็มที่กับสักอย่าง แบบนี้อาจทำให้เรายอมแพ้คิดถอดใจก่อนไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
การฝนกระดาษโดยโฟกัสแค่จุดเล็กๆจุดเดียวไม่นานก็ทำให้กระดาษขาดเป็นรูได้ แต่ถ้าฝนเป็นวงใหญ่ๆบางทีเราอาจต้องหยุดพักเพื่อเหลาดินสอ ก่อนที่กระดาษจะขาดก็เป็นได้
2.ตั้งเป้าหมายเล็กๆที่สามารถทำได้จริงและวัดผลได้
หลายคนตั้งเป้าหมายที่ไกลเกินเอื้อม และเป็นไปได้ยาก ทำให้เราหมดกำลังใจไปก่อน เช่น อยากลดน้ำหนัก 8 กิโลกรัม ภายใน 4 เดือน แค่คิดก็เหนื่อยแล้วใช่ไหมครับ คราวนี้อยากให้ลองตั้งเป้าหมายง่ายๆดูครับ เปลี่ยนเป็นบอกตัวเองว่า “วันนี้จะออกไปวิ่งตอนเย็น 30 นาทีนะ” “วันนี้จะกินของทอดของมันให้น้อยลงนะ” บอกตัวเองแบบนี้ทุกวัน คราวนี้ทุก 2 สัปดาห์ ก็ให้ชั่งน้ำหนักเพื่อเป็นการวัดผล ถ้าเกิดน้ำหนักลดลงมา 1 กิโลกรัม ก็เท่ากับทำตามเป้าหมายที่วางไว้สำเร็จ จะช่วยให้เรามีกำลังใจทำเป้าหมายต่อไป จนกระทั่งลดน้ำหนักได้ครบ 8 กิโลกรัมนั่นเอง
Advertisement
Advertisement
3.แจกแจงรายละเอียดของเป้าหมาย
การแจกแจงรายละเอียดต่างๆออกเป็น mind mapping ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมได้ชัดขึ้น และรู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นได้สำเร็จ เช่น ตั้งเป้าหมายว่า อยากเก็บเงินซื้อกล้องราคา 20,000 บาท เราก็ต้องแจกแจงก่อนว่าเราได้เงินมาจากช่องทางไหนบ้าง ได้จากพ่อแม่ ได้จากงานพาร์ทไทม์ ได้จากการเก็บออม จากนั้นก็นำมาคิดคำนวณว่าเราต้องใช้เวลาเท่าไรถึงจะสามารถซื้อกล้องได้ การทำแบบนี้ทำให้เราทราบว่าเราเข้าใกล้เป้าหมายของเรามากแค่ไหนแล้ว และต้องวางแผนอย่างไรเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น
4.อย่าลืมให้รางวัลตัวเอง
ทุกความสำเร็จต้องมีการเฉลิมฉลอง
การที่เราเคร่งเครียด และตีกรอบให้ตัวเองมากจนเกินไป อาจทำให้เราไม่มีความสุข และหมดกำลังใจไปก่อน รวมถึงส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตจนอาจเป็นโรคซึมเศร้าเลยก็ได้ เราจึงควรให้รางวัลกับตัวเองเพื่อเป็นการตอบแทนบ้าง เช่น ถ้าเราอ่านหนังสือเตรียมสอบทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง แล้วในที่สุดเราก็อ่านจนจบเล่ม เราอาจหยุดพักสักวัน ออกไปกินอาหารร้านที่ชอบ ออกไปปาร์ตี้ ออกไปช็อปปิ้งกับเพื่อนๆ หรือ ออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ เพื่อเป็นชาร์จแบตตัวเอง และทำให้เรามีกำลังใจจะอ่านเล่มอื่นๆต่อไป
Advertisement
Advertisement
5.ถ้าทำพลาดอย่าซ้ำเติมตัวเอง
หลายครั้งที่เราออกนอกลู่นอกทางไม่ได้ทำตามแผนที่วางไว้ ขออย่าซ้ำเติมและคิดโทษตัวเองเด็ดขาด เพราะนั่นอาจทำให้เราหมดกำลังใจและละทิ้งเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งหมด ถ้าผิดพลาดก็แค่เริ่มใหม่เท่านั้นเอง เราไม่ได้ถูกลงโปรแกรมให้ทำตามแผนเป๊ะๆ มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาให้สมบูรณ์แบบสักหน่อย ฉะนั้นการผิดพลาดจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ถ้าหากเรายังไม่คิดล้มเลิกความตั้งใจ ผมเชื่อว่าสักวันเราต้องทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน
โลกนี้มีคนอยู่ล้มเหลว 2 ประเภท
คนที่ล้มเหลวแล้วยอมแพ้ กับ คนที่ล้มเหลวแล้วลุกขึ้นสู้
คุณอยากเป็นคนแบบไหน?
ความคิดเห็น
