อื่นๆ
อร...หญิงสาวปริศนา ณ เรือนแถวฝั่งตรงข้าม
เป็นเวลาประมาณสองสัปดาห์ที่ปราโมทย์ พี่ชายของสามารถ ซึ่งเพิ่งย้ายไปรับราชการต่างจังหวัด แล้วเงียบหาย ขาดการติดต่อไป แม้จะคาดการณ์ได้ว่าพี่ชายคงอาจจะยุ่งอยู่กับการปรับตัวทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ณ ที่ทำงานใหม่ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ สามารถจึงเดินทางไปเยี่ยมเยียนปราโมทย์ที่บ้านพัก ซึ่งตนเคยไปส่งพี่ชายเมื่อวันที่เขาย้ายข้าวของเข้าอยู่วันแรก
เมื่อเข้าไปถึงบ้านพักข้าราชการ ซึ่งอยู่ในเรือนแถวสองชั้นหลายแถวอยู่ในละแวกเดียวกัน สามารถก็สบายใจและโล่งใจได้ เมื่อได้เจอปราโมทย์ที่บ้านพัก โดยไม่ปรากฎว่าพี่ชายมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยหรือมีปัญหาอะไร นอกจากสีหน้าที่เหมือนว่ากำลังครุ่นคิดหรือกังวลอะไรบางอย่าง สามารถจึงสอบถามสารทุกข์สุกดิบ แล้วก็ได้รับฟังคำบอกเล่าเรื่องราวชวนขนหัวลุกจากปราโมทย์
Advertisement
Advertisement
ปราโมทย์เล่าว่า ช่วงค่ำ ๆ ในคืนแรกที่เขาอยู่ลำพัง ณ บ้านพักหลังนั้น เขาเปิดประตูหลังบ้านออกมาทำความสะอาด และจัดระเบียบพื้นที่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้สอยสำหรับเก็บของ และมีพื้นที่สำหรับปลูกผัก โดยมีร่องน้ำเล็ก ๆ เป็นแนวยาวขนานกับเรือนแถวที่เขาพักอยู่ ถัดจากร่องน้ำออกไปเป็นด้านหลังของเรือนแถวบ้านพักข้าราชการอีกแถวหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกัน โดยมีสะพานไม้เล็กๆ สำหรับข้ามร่องน้ำไปยังเรือนแถวนั้นได้ สายตาของปราโมทย์ไปสะดุดกับร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หลังบ้านพักหลังหนึ่งในเรือนแถวฝั่งตรงข้ามนั้น จู่ ๆ ปราโมทย์ก็รู้สึกชอบเธอขึ้นมา อาจจะด้วยรูปลักษณ์ของเจ้าหล่อนที่พอมองเห็นได้ว่าเป็นคนรูปร่างหน้าตาดีคนหนึ่งเลยทีเดียว
หลังจากนั้น ในคืนวันต่อ ๆ มา ปราโมทย์ก็จะเห็นหญิงสาวคนนั้นออกมารดน้ำต้นไม้หลังบ้านในตอนค่ำ ๆ เสมอ และดูเหมือนว่าเธอเองก็จะรู้ตัวว่ามีสายตาของชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามส่งไปหา เธอหันมาส่งยิ้มให้เขา รอยยิ้มนั้นช่างเชิญชวนจนเขาอยากจะข้ามฝั่งไปหาเธอในเวลานั้นเสียทีเดียว แต่ด้วยความที่เขายังไม่รู้จักว่าเจ้าหล่อนเป็นใคร พักอาศัยอยู่กับใครที่บ้านหลังนั้น จึงบอกตัวเองให้อดใจไว้ก่อน
Advertisement
Advertisement
วันต่อมา ปราโมทย์ได้พูดคุยกับเธอครั้งแรก ตอนที่เธอเดินมาตักน้ำที่ร่องน้ำไปรดน้ำต้นไม้หลังบ้าน เนื่องจากระบบน้ำประปาที่เรือนแถวขัดข้องชั่วคราวในตอนค่ำ และปราโมทย์ถือโอกาสนั้นเดินไปตักน้ำที่ร่องน้ำนั้นเช่นกัน ก่อนจะทักทายและสนทนากับเธอ ทราบว่าเธอชื่อ อร เป็นบุตรสาวของข้าราชการรายหนึ่งซึ่งช่วงสัปดาห์นั้นไปปฏิบัติราชการชั่วคราวในจังหวัดใกล้เคียง จึงให้อรเฝ้าบ้านและดูแลต้นไม้ที่ปลูกไว้ ทั้งคู่พูดคุยกันถูกคอเพราะชอบต้นไม้เหมือนกัน ถึงขนาดที่ว่าปราโมทย์อาสาไปช่วยรดน้ำ ดูแลต้นไม้หลังบ้านของอรในตอนเย็นหลังเลิกงาน ซึ่งอรก็ไม่ปฏิเสธ นั่นทำให้ปราโมทย์แอบลิงโลดใจ เมื่อมองเห็นประตูแห่งความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอเปิดรออยู่แล้ว
ทั้งคู่สนิทสนมกันมากขึ้น แม้จะได้พบเจอกันเพียงช่วงเวลาเย็นหรือค่ำ และปราโมทย์ก็ยังไม่ได้รู้จักอรมากขึ้นกว่าที่เธอบอกเล่าในวันแรกก็ตาม
Advertisement
Advertisement
จนเมื่อสามวันก่อน ปราโมทย์ไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนที่สถานบันเทิงในตัวเมือง เมื่อกลับมาบ้านพักในตอนดึก เขาอดไม่ได้ที่จะเปิดประตูหลังบ้านออกไปยืนมองบ้านพักของอรที่เรือนแถวฝั่งตรงข้าม เขาเห็นชั้นบนของบ้านเปิดไฟสว่างอยู่ แล้วสักพักอรเปิดหน้าต่างออกมา เธอเห็นเขาและยิ้มให้ ซึ่งไม่รู้ว่าด้วยความมึนเมาหรืออารมณ์เปลี่ยวของชายหนุ่ม ทำให้มองเห็นว่ารอยยิ้มของเธอที่เขามองเห็น มันช่างยั่วยวนและแสดงถึงการเชิญชวนอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ปราโมทย์ผลุนผลันเดินข้ามสะพานไปยังบ้านเจ้าหล่อน ทั้งที่อยู่ในสภาพมึนเมาแทบจะทรงตัวไม่อยู่ อรคงมองเห็นสภาพของเขาที่เดินข้ามฝั่งไปหา จึงลงมาเปิดประตูหลังบ้าน ประคองร่างของชายหนุ่มเข้าไปในบ้าน
แล้วคืนนั้นทุกอย่างก็ลงเอยที่ห้องนอนของอร
เช้าวันรุ่งขึ้น วิมานอันแสนสุขของปราโมทย์และอรก็ล่มสลาย เมื่อชายหนุ่มตื่นมาพบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงเก่าๆ ในห้องนอนที่มีสภาพอันแสดงว่าไม่มีคนใช้งานเป็นเวลานาน เขาผลุนผลันออกมาจากห้อง ตกตะลึงกับสภาพภายในบ้านที่เกือบจะเป็นบ้านร้าง เมื่อลงมาเปิดประตูหน้าบ้านออกมาก็พบกับสายตาประหลาดใจของผู้ที่พักอาศัยอยู่บ้านข้างเคียง ที่ให้คำบอกเล่าแก่เขาว่า หลายปีก่อน บ้านหลังดังกล่าวเคยเป็นที่พักของข้าราชการรายหนึ่ง ซึ่งพาบุตรสาวชื่อ อร ที่มีอาการป่วยด้วยโรคซึมเศร้าเนื่องจากเลิกรากับคนรักมาพักอาศัยอยู่ด้วย แล้ววันหนึ่งก็มีข่าวว่าอรเสียชีวิตเนื่องจากกินยานอนหลับเกินขนาด อยู่บนเตียงในห้องนอนชั้นบนของบ้าน หลังจากนั้นไม่นาน บิดาของอรก็ย้ายออกไป และไม่มีใครกล้าเข้าพักอาศัยในบ้านหลังนั้นอีก
ปราโมทย์เล่าให้น้องชายฟังต่อว่า่ หลังจากได้รับฟังคำบอกเล่าเรื่องอร เขากลับเข้ามาบ้านพักด้วยอาการขวัญผวา ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดประตูหลังบ้านออกไปพบเห็นสภาพแวดล้อมเดิม ๆ ที่เขาเคยพบเจออรที่บ้านในเรือนแถวฝั่งตรงข้าม และต้องอาศัยอยู่ในบ้านด้วยอาการเหมือนคนประสาท ถึงขาดได้ยินเสียงและรู้สึกเหมือนว่ามีคนพยายามเดินข้ามสะพานไม้ที่ร่องน้ำข้ามมา
เล่ามาถึงตรงนี้ ปราโมทย์ก็บอกสามารถว่า เขาขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน
ในระหว่างที่ปราโมทย์ไปเข้าห้องน้ำ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น สามารถจึงเดินไปเปิดประตูหลังบ้าน ออกไปยืนดูสภาพด้านหลังของเรือนแถวและบริเวณร่องน้ำ สายตาของเขาสะดุดเข้ากับวัตถุขนาดใหญ่ลอยติดอยู่เชิงสะพานข้ามร่องน้ำ เมื่อเดินไปดูใกล้ๆ สามารถก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อเห็นว่าสิ่งนั้นเป็นศพคน สภาพขึ้นอืด เหมือนว่าตายมาแล้วไม่ต่ำกว่าสามวัน แต่ยังมองเห็นเค้าโครงใบหน้าของศพนั้นได้
มันคือใบหน้าของปราโมทย์ พี่ชายของเขานั้นเอง!!
ขอบคุณภาพประกอบ ImaArtist จาก Pixabay
ความคิดเห็น