อื่นๆ

เมื่อผี...ตามฉันมาจากโรงพยาบาล

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เมื่อผี...ตามฉันมาจากโรงพยาบาล

เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน และฉันก็ยังคงจำมันได้ น่าจะเป็นเพราะความน่ากลัวของเรื่องนี้ ที่ทำให้ฉันจำไม่ลืม เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม แม่ของฉันเข้าโรงพยาบาลเพราะเป็นโรคหัวใจ จำได้ว่าช่วงนั้น ฉุกละหุกมาก เพราะทั้งฉันและพี่สาวของฉันยังไม่มีใครตั้งตัวติดเลย เราต่างกังวลอาการป่วยของแม่ จิตใจของเราอ่อนแอ ทำให้อะไรๆ ครอบงำเราได้ง่ายๆ ช่วงกลางวัน เราจะไปนอนเป็นเพื่อนแม่ที่โรงพยาบาล ห้องที่แม่อยู่เป็นห้องคนไข้รวม โดยแพทย์ให้เหตุผลว่าสามารถดูแลได้อย่างใกล้ชิดมากกว่าการอยู่ห้องพิเศษ  วันนั้น วันที่เกิดเหตุการณ์ ฉันนำรถไปจอดที่ริมถนนตรงประตูด้านหลังของโรงพยาบาล ที่จอดรถในโรงพยาบาลหายาก

มาก การเดินไกลๆ เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ส่วนพี่สาว ฉันปล่อยให้เธอลงที่ตึกซึ่งแม่นอน

โรงพยาบาล

Cr. https://pixabay.com/

วันนั้น เรานั่งคุยเป็นเพื่อนแม่ทั้งวัน ปอกผลไม้ให้แม่ทาน ชวนแม่คุยเป็นเพื่อน คนป่วยต้องการการเอาใจใส่เป็นพิเศษ ฉันรู้ดี เราอยู่เป็นเพื่อนแม่จนสองทุ่ม ในที่สุด อาของฉันก็มา เราตกลงกันไว้ว่าคืนนี้อาจะเป็นผู้นอนเฝ้าไข้แม่ เพราะฉันและพี่สาวผลัดกันเฝ้ามาหลายคืนแล้ว หลังจากนั้นฉันกับพี่สาวเดินไปที่รถ โรงพยาบาลยามค่ำคืนมีทั้งจุดที่สว่างและมืด แย่หน่อยตรงที่จุดที่ฉันจอดรถ (ประตูหลังโรงพยาบาล) ค่อนข้างเปลี่ยว ฉันพาพี่สาวเดินไปด้านหลัง ประตูหลังโรงพยาบาลประตูนี้ปิด ฉันเองไม่ทราบมาก่อน (รถจอดอยู่ที่ด้านนอก บริเวณริมถนน) เอาละซี ฉันคิดในใจ นี่คงไม่ต้องเดินอ้อมไปประตูหน้าเพื่อเดินไปที่รถหรอกนะ

Advertisement

Advertisement

โรงพยาบาล

Cr. https://pixabay.com/

พี่สาวเงียบ ปกติเธอเป็นคนขี้บ่นมาก แต่วันนี้เธอเงียบ คงด้วยความเครียดจากการที่แม่ป่วย ชะรอย เรามองไปเห็นประตูเล็กๆ อีกประตูหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่มากนัก คงเป็นของเจ้าหน้าที่ใช้เข้าออก  ระหว่างที่เราเดินเพื่อไปยังประตูนั้น เราผ่านอาคารเล็กๆ อาคารหนึ่ง ป้ายด้านหน้าเขียนว่า "ห้องดับจิต" เอาละซี...ในใจฉันกลัวขึ้นมาเป็นคำรบสอง รอบด้านมีแต่ความเงียบ มีเพียงเสียงฝีเท้าของเราสองพี่น้อง สุดท้าย ...เราก็เดินกลับมายังรถได้โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น (อย่างที่ฉันนึกหวาดกลัว) เรากลับมาบ้าน อาบน้ำอาบท่า หาข้าวทานแบบฝืนๆ เพราะจิตใจไม่ผ่อนคลายเอาเสียเลย  เราสองพี่น้องเข้านอนแต่หัวค่ำ และหลับไปอย่างรวดเร็ว

ฉันรู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีเพราะพี่สาวปลุก เวลานั้นราวๆ 02.00 น. เห็นจะได้ พี่สาวลุกขึ้นนั่งบนเตียง และกำลังร้องไห้อยู่

Advertisement

Advertisement

"น้อง... พี่ฝันร้าย พี่ฝันว่ามีผู้ชายมาที่นี่ บอกกับพี่ว่าเขาเห็นพวกเราที่โรงพยาบาล เขาชอบพวกเรา อยากให้พวกเราไปอยู่กับเขาด้วย"

ฉันลุกขึ้นไปเปิดไฟในห้องนอนให้สว่าง ความสว่างเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับมนุษย์เสมอ  เมื่อไฟสว่าง ความน่ากลัว ความชั่วร้ายจะลดลงไป... ฉันซักถามพี่สาวอีกหลายคำ และให้เธอเล่าให้ฟังอีกรอบ  ออกตัวก่อนว่าโดยพื้นนิสัยของฉันเป็นคนจิตแข็ง เคยถูกผีหลอกมาก็หลายครั้งหลายหน แต่ทุกครั้งที่เจอสิ่งผิดปกติใดๆ ก็ตาม ฉันจะข่มจิตใจ และบอกกับตัวเองว่า "เขาอยู่คนละภพกับเรา เขาไม่สามารถทำอะไรเราได้"  พี่สาวเล่าให้ฟังซ้ำอีกครั้งว่าฝันถึงชายแก่บอกว่าชอบเราสองคนพี่น้อง อยากให้ไปอยู่ด้วย ฉันกอดพี่สาวฉันเอาไว้ บอกว่าไม่เป็นไร และชวนออกมาจากห้องนอน เมื่อออกมาจากห้องนอนแล้ว ฉันให้เธอล้างหน้าล้างตา ทำจิตใจให้เข้มแข็ง และสวดมนต์ขอพระผู้เป็นเจ้าให้คุ้มครอง เธอยอมทำตามแต่โดยดี ที่บ้านมีน้ำมนต์จากผู้แสวงบุญที่ตักมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่ ฉันให้เธอดื่มพร้อมอ้อนวอนขอพระผู้เป็นเจ้าในใจ หลังจากนั้น เรานั่งข้างนอกสักพัก แล้วค่อยกลับเข้าไปนอน ก่อนนอนฉันให้เธอสวดมนต์อีกครั้ง พร้อมกับบอกเธอว่า เธอจะไม่ฝันร้ายอีก

Advertisement

Advertisement

เมื่อรุ่งเช้า เราตื่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน ฉันยิ้มให้เธอและถามว่า เมื่อคืนนี้มีอะไรผิดปกติไหม เธอยิ้มและส่ายหน้า แสงอรุณร่งส่องลอดผ้าม่านเข้ามา เผยให้เห็นความสว่างของโลกใบนี้ ความน่าหวั่นเกรงในยามค่ำคืนได้ผ่านไปแล้ว

พวกเรากอดกันอีกครั้ง  เตรียมตัวเผชิญกับสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ของวันนี้

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์