อื่นๆ
ทางผีผ่าน สุดหลอน ขย่มขวัญ
ทางผีผ่าน สุดหลอน ขย่มขวัญ
เพื่อนๆหลายคนคงเคยมีโอกาสได้ไปจังหวัดระยองกัน เช่นเดียวกับผม
ที่เพิ่งได้เดินทางไปทำงานที่จังหวัดนี้ พวกผมเป็นทีมช่างภาพ 4 คน
มีผมและเพื่อนอีกสามคน ขอใช้ชื่อย่อว่า A ,B และ C ทำหน้าที่
เก็บภาพบรรยากาศในงานสัมมนาของบริษัทแห่งหนึ่ง
ทางบริษัทที่จ้างพวกผมก็ได้ทำการจองที่พักให้ เป็นรีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่ง
ดูภายนอกแล้วเป็นรีสอร์ทที่สวยงาม สไตล์ธรรมชาติ อยู่ติดกับทะเล
บรรยากาศดี มีสระว่ายน้ำ ห้องพักที่มีทั้งแบบห้องติดๆกัน และแบบเป็นบ้าน
ซึ่งพวกผมได้ที่พักเป็นบ้าน 1 หลัง อยู่กัน 4 คน
เปิดประตูบ้านเข้าไปจะเจอกับห้องรับแขกสไตล์ไทยๆ ต่อจากห้องรับแขก
จะเป็นห้องนอน มีเตียงใหญ่สองเตียงอยู่ฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นชั้นวางของยาวๆ
ภายในห้องก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนที่พักทั่วๆไป
แต่ก็มีเพื่อนของผมคนหนึ่งก็คือ C ที่ได้สังเกตเห็นอะไรแปลกๆ อย่างแรกเลยคือ
ประตูสามบานที่ตรงกัน เริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าบ้าน ที่ตรงกับประตูเข้าห้องนอน
และประตูห้องน้ำ ซึ่งตามความเชื่อของคนโบราณ การมีประตูสามบานที่ตรงกันนั้นคือ
“ทางผีผ่าน” จุดสังเกตต่อมาคือมีกระจกสองบานที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับทั้งสองเตียง
แบบนั่งอยู่บนเตียงก็จะมองเห็นหน้าตัวเอง ตามความเชื่อก็เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดีอีกเช่นกัน
แต่ขอออกตัวไว้ก่อนว่าพวกผม 4 คน ไม่ค่อยเชื่อเรื่องสิ่งที่มองไม่เห็นสักเท่าไหร่
และไม่มีใครที่เคยเจอกับตัวเลย พวกผมเลยไม่ได้ใส่ใจอะไร
Advertisement
Advertisement
ตกเย็นวันนั้น คุณแม่ของ B ได้โทรมาถามสารทุกข์สุขดิบ และได้พูดประโยคนึงว่า
มาอยู่ต่างที่อย่าลืมสวดมนต์ไหว้เจ้าที่เจ้าทางด้วยนะลูก แต่เพื่อนผมคนนี้
เป็นคนไม่นับถือศาสนา ก็เลยตอบกลับไปว่า “ไม่” ตามปกติของมัน
วันนั้นทุกคนทำงานกันปกติ เสร็จงานเวลา 22:30 น. ก็เข้าที่พัก อาบน้ำเปลี่ยนชุดนอน
แล้วก็นั่งคุยนั่งเล่นกันสักพัก จนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืน ทุกคนก็เข้านอน
โดยไม่มีใครได้สวดมนต์อะไรทั้งสิ้น A กับ B นอนเตียงริมประตูห้องน้ำ
ส่วนผมก็กับ C นอนเตียงติดกับประตูทางไปห้องรับแขก
พอหลับไปได้สักพักผมก็ได้สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงคนกำลังร้องโหยหวน
ด้วยความหวาดกลัว ตอนนั้นผมตกใจมาก ในห้องตอนนั้นมืดสนิท แล้วก็มี B
ที่เข้ามาเขย่าตัวผมให้ตื่นแล้วพูดว่า “เห้ย ไปดูไอ A ดิ๊ มันเป็นไรไม่รู้”
ผมก็เหลือบไปมองที่ประตูห้องรับแขก ก็เห็นเงาลางๆเป็นคนกำลังตะกุยตะกาย
พยายามจะเปิดประตูเหมือนกับกำลังหนีอะไรสักอย่าง ผมกับ C ที่ตื่นขึ้นมา
ก็รีบลุกไปเปิดไฟ แล้วก็เห็น A กำลังเปิดประตูหน้าแล้วทำท่าจะวิ่งออกนอกบ้าน
พอเห็นแบบนั้น B จึงได้ตะโกนเรียก “เห้ย!…ไอ A !!” ทันใดนั้น
A ที่ได้ยินเสียงตะโกนเรียกก็หยุดแล้วหันกลับมา พร้อมสีหน้าที่หวาดกลัว
หน้าซีดตัวสั่นและหายใจแรงมาก ทุกคนพยายามพูดให้ A ได้สติมากขึ้น
หลังจากนั้นจึงพา A ออกไปนั่งข้างนอก บริเวณที่เป็นร้านค้า 24 ชม.ของรีสอร์ท
Advertisement
Advertisement
จากนั้น B ที่เป็นคนเห็นเหตุการณ์คนแรกเพราะนอนอยู่ข้างๆ ก็ได้เล่าว่า
อยู่ดีๆ A ก็ร้องตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัว พร้อมพุ่งเข้ามาบีบคอ B
ที่กำลังนอนอยู่ B รู้สึกตกใจมากจึงผลัก A ลงจากเตียง หลังจากนั้น A
ก็ยังร้องโหยหวนและพยายามจะวิ่งตะกุยตะกายไปที่ประตูเพื่อจะออกจากห้อง
B จึงปลุกผม กับ C ให้มาช่วยกันห้าม
หลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมดจาก B แล้ว A ก็ได้เล่าต่อว่า ในตอนที่กำลังนอน
อยู่ดีๆก็มีมือสีขาวซีดโผล่ออกมาจากความมืดจำนวนมาก และพยายามกด A
ลงกับที่นอน พยายามดิ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งโดนกดลงมาเรื่อยๆ จนเริ่มหายใจไม่ออก
A จึงได้พยายามรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีแล้วดีดตัวเองขึ้นมาจากที่นอนแล้วพยายามหนี
ส่วนเรื่องที่ไปบีบคอ B นั้น A ก็ไม่รู้ตัวเลย พอเล่าจบ ทุกคนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
จึงมองไปรอบๆรีสอร์ท ก็ได้สังเกตเห็นศาลตายายที่ดูเก่ามาก
กับห้องพระที่เป็นกระจกใสขนาดใหญ่ พวกผมจึงตัดสินใจเข้าไปไหว้เพื่อความสบายใจ
พอเริ่มทำใจได้ก็เดินกลับบ้านพัก ระหว่างทางกลับพวกผมก็ได้สังเกตว่า
บ้านหลังที่พวกผมอยู่นั้นตั้งอยู่ระหว่างทางสามแพร่งพอดี
สรุปคืนนั้นพวกผมก็ไม่มีใครได้นอนกันจนถึงเช้าเลยครับ และจนถึงตอนนี้
ก็ยังไม่มีใครหาข้อสรุปของเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ได้….
Advertisement
Advertisement
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ
ความคิดเห็น