อื่นๆ

ผีพรายที่ปลายท่า

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ผีพรายที่ปลายท่า

ผีพรายที่ปลายท่า

ภาพประกอบ ที่บ้านของผมเมื่อก่อนนี้ประกอบอาชีพประมง มีหลายครั้งที่ต้องเดินทางไปลากเรือจากปากอ่าว เพื่อเข้าเทียบท่าหน้าบ้านเนื่องจากน้ำในคลองแห้งเกินจะขับเข้าเทียบท่าได้ จำเป็นต้องรอน้ำขึ้นกลางดึก

ตอนนั้นผมอายุ 12 ปีเห็นจะได้ ผมต้องออกไปกับพ่อเพื่อช่วยกันลากเรือกลับบ้าน ระยะทางจากปากอ่าวเข้าถึงท่าหน้าบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร เวลาตอนนั้นประมาณ 5 ทุ่ม เราสองคนลากเรือเข้ามาถึงครึ่งทางใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ระหว่างการลากเรือ ผมชอบที่จะเล่นวาดมือไปตามน้ำคลอง เพราะมันสว่างขึ้นจากพรายน้ำมองดูสวยงามมากๆ

ภาพจาก Twitter ระยะทางเหลืออีกไม่มาก ประมาณ 500 เมตร ก็จะเข้าถึงท่า และน้ำเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ในตอนนั้นมีเสียงคล้ายคนกระโดดน้ำ ตามท่าน้ำตลอดทางที่เดินผ่าน พ่อขอผมเรียกให้ผมปีนขึ้นเรือทันที ผมยังสนุกกับการเล่นน้ำ และยังไม่เหนื่อยอะไร จึงบอกพ่อว่า ผมยังยังไม่เหนื่อย ยังช่วยลากได้

Advertisement

Advertisement

" มึงรีบขึ้นเรือเดี๋ยวนี้! " เสียงพ่อแข็งขึ้นทันที ทำเอาผมตกใจ แล้วรีบขึ้นเรือตามที่พ่อสั่ง พ่อให้ผมไปนั่งช่วงหัวเรือพร้อมให้ถือ สปอร์ต ไลท์ เอาไว้ ในขณะที่พ่อกำลังต่อไฟให้กับสปอร์ต ไลน์ ตอนนั้นผมมองไปรอบๆ เพราะอยู่บนเรือทำให้มุมมองสูงและกว้างขึ้น สามารถมองสะพานท่าเรือรอบข้างได้ชัดกว่าตอนเดินในน้ำที่มองเห็นแต่เสาสะพาน แต่มองไม่เห็นอะไรบนสะพานเลย

พ่อพูดเบาๆ แต่พอที่จะได้ยินว่า "ไม่ว่ามึงจะเห็นอะไร มึงหุบปากเอาไว้นะ ห้ามพูดอะไรเด็ดขาด เข้าใจไหม" ในตอนนั้นผมก็ไม่เข้าใจอะไร เราจะมองเห็นอะไรกัน ก็มืดซะขนาดนี้ แต่ไม่นานครับ สะพานท่าเรือที่ผมมองไม่เห็นอะไรในตอนแรกนั้น เต็มไปด้วยเงาดำๆ คล้ายกลุ่มคนนั่งอยู่บนสะพานนั้น เมื่อเรือลอยเข้าไปใกล้กลุ่มก้อนนั้นก็หันมา แสงเรืองๆ สีแดงๆ มันก็หันมาทางเราสองคนพ่อลูก ผมนั่งตัวแข็งงงกับภาพที่เห็น พ่อเสียบสายไฟสปอร์ต ไลท์ ติดพอดี ผมฉายไฟไปทางกลุ่มก้อนั้นทันที แต่ยังไม่ทันที่จะส่องถึงกลุ่มก้อนนั้นก็ส่งเสียงแปลกๆ แล้วกระโดนลงน้ำทัน เสียงกระโดดลงน้ำดังไปทั่วทุกท่าเรือที่ผ่าน

Advertisement

Advertisement

สักพักใหญ่ๆ เราก็เทียบท่าหน้าบ้าน ผมรีบเอาเชือกคล้องเสารั้งเรือให้เทียบท่าไว้แล้วปีนขึ้นสะพาน แต่ว่าสะพานนั้นเต็มไปด้วยน้ำคลองและคราบตะกอน โคลน เวลานี้ไม่มีใครจะมาลงคลองทำอะไรกันแล้ว นี่ก็ปาเข้าไป ตี 3 กว่าๆ แล้ว กว่า 4 ชั่วโมงที่เราลากเรือจนมาถึงท่าหน้าบ้าน ผมรีบขนของที่พ่อส่งให้แล้วเดินเข้าบ้านไปโดยมีพ่อเดินตามหลังมา

เช้าวันรุ่งขึ้นผมเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ยายฟัง ยายบอกว่า มันคือ ผีพราย แล้วเมื่อคืนคือคืนเดือนมืดพวกเขาออกมาเล่นน้ำตามท่าน้ำ เป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่ไม่ลงไปหาของในคลองกัน เพราะมีหลายคนที่โดนฉุดขาจนเกือบจมน้ำตาย และหลายคนที่จมน้ำก็หาศพยากมากกว่าจะพบศพ ยายบอกว่าพวกเขาชอบเอาไปซ้อน และคนที่ตายเหล่านั้นก็จะไปอยู่แทนที่พวกเขาเพื่อรอให้ใครสักคน มาอยู่แทนที่ต่อไป

ภาพจาก : twitter และ Google image

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์