อื่นๆ
ยายเลื่อนเก้าอี้

สวัสดีค่ะ เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับครอบครัวผู้เขียน ในปี พ.ศ 2541 ในขณะที่ผู้เขียนอายุ 11 ปี ในตอนนั้น ยายของผู้เขียนได้ล้มเจ็บเป็นอัมพาตเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถลุกขยับเดินได้มาหลายปีแล้ว ตอนนั้นครอบครัวของผู้เขียนอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ ยาย แม่ พี่ชายคนรอง และผู้เขียน ส่วนพ่อและพี่ชายคนโตไปทำงานต่างประเทศ
ทุกๆเย็นหลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ พี่ชายคนรองของผู้เขียนก็จะออกจากบ้านไปหาเพื่อนฝูง (ซึ่งเป็นเหมือนเรื่องปกติของ ชายหนุ่มอีสานเมื่อ 20 ปีก่อน ) ภาษาอีสาน คือ ไปหาคุยสาว แล้วจะกลับมา ช่วง 4 ทุ่ม 5 ทุ่มแล้วแต่บ้างคืน เวลากลับไม่แน่นอน วันนั้นพี่ชายคนรองของผู้เขียนกลับมาประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง พอกลับมาถึงบ้านแล้ว ก็ขึ้นไปนอนบนบ้าน (บ้านของผู้เขียน เป็นบ้านสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ผู้เขียนและแม่ นอนอยู่ชั้นล่าง เฝ้ายาย) ส่วนพี่ชายคนรองนอนบนบ้านคนเดียว หลังจากนั้น ประมาณเที่ยงคืนครึ่ง เกือบๆตี 1 ในขณะที่ผู้เขียนกำลังหลับ แม่ของผู้เขียนได้เขย่าตัวขึ้น แม่ถามว่า ได้ยินเสียงอะไรไหม….. ผู้เขียนก็เงียบ เงี่ยหูฟัง
Advertisement
Advertisement
เสียงเหมือนคนลากเก้าอี้พลาสติก ถูกับพื้น (เหมือนเก้าอี้พลาสติกที่วางให้คนนั่งตามร้านขายก๋วยเตี๋ยว) แต่เสียงเหมือนอยู่บนบ้าน…..ช่วงแรกๆเสียงก็ห่างๆ สักพักเสียงเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ แม่บอกผู้เขียนว่า ….. นอนรอตรงนี้น่ะ เดี๋ยวแม่ขึ้นไปดูข้างบนก่อน ….. มีเหรอที่ผู้เขียนจะนอนรอคนเดียว ผู้เขียนก็กระโดดกอดแขนแม่ไปด้วย แม่ก็บ่นใหญ่ โตจนปานนี้แล้ว กลัวอะไรนักหนา ผู้เขียนก็เงียบแต่ขอไปไหน ไปด้วย …..พอเราไปถึงชั้นสอง
แม่:เรียกชื่อพี่ชาย “เค’’
พี่ชาย:ขานรับทันที “ครับ”
แม่:ถามว่า ได้ยินเสียงอะไรไหม ?
พี่ชาย: ได้ยิน ได้ยินเสียงเหมือนคนลากเก้าอี้ ข้างล่าง
ผู้เขียนกับแม่ได้แต่มองหน้ากัน จากนั้นแม่ก็ไปเอาเก้าอี้ทุกตัวที่มีในบ้าน เอามาช้อนทับกัน จับขาตั้งขึ้น และพี่ชายก็มาขอนอนด้วย เราสามคนนอนด้วยกัน เก้าอี้ทุกตัวถูกช้อนทับขาตั้งขึ้น ไฟเปิดตรงห้องนั่งเล่น แต่ที่ผู้เขียนนอน แม่ไม่ยอมให้เปิดไฟ แม่บอกว่าแสบตา นอนไม่หลับ ขณะนั้นเป็นเวลาตีสองกว่า ทุกอย่างก็เหมือนว่าจะจบแต่เพียงเท่านั้น แต่…..แต่ …….กื้อ….กื้อ……กื้อ…..เสียงลากเก้าอี้ก็ยังดังขึ้น แต่เหมือนจะเพิ่มความหลอนอีก เพราะตอนแรกเสียงลากอยู่บนบ้าน …..ตอนนี้ เสียงลากอยู่ตรงห้องรับแขก ….ซึ่งไฟเปิดอยู่…..และห่างที่ผู้เขียนนอนไม่กี่ก้าว….. ถ้าหากผู้เขียนอยู่สองคนกับยายก็คงจะฉี่ราดไปแล้ว แต่นี้แม่และพี่ชายก็ยังอยู่ และผู้เขียนยังใช้สิทธิ์ลูกคนสุดท้อง นอน กลาง ตอนนั้นมีความคิดที่ว่า ถ้าหากผีมา ก็คงจะมาหาแม่กับพี่ชายก่อน ก็เลยอุ่นใจเนอะ แม่ลุกขึ้นเดินไปดูเก้าอี้ ก็ยังขาตั้งชี้ฟ้า แล้วเสียงมาจากไหน ?? เสียงแม่บ่น
Advertisement
Advertisement
“เสียงมากจากไหนก็ช่างเถอะแม่ ถ้าหากเป็นอย่างนี้เราไม่ได้นอนแน่ๆ แม่ไม่ต้องสนใจหรอก มานอนเถอะ”
เสียงพี่ชายร้องบอกแม่
คืนนั้นง่วงก็แสนจะง่วง แต่ก็ข่มตาไม่หลับ เพราะเสียงลากเก้าทั้งคืน จนถึงตี4 พระตีระฆังเสียงนั้นก็เงียบหายไป ตอนเช้า ก่อนที่ผู้เขียนจะไปโรงเรียนผู้เขียนจะต้องไปหายายก่อน ….พอยายเห็นหน้าแม่และผู้เขียน ยายก็สั่งเสียบอกให้แม่ดูแลลูกและหลานให้ดีๆ เพื่อนๆมาชวนไปเที่ยว จะไปเที่ยวกับเพื่อน ยายถามว่า เพื่อนยายมาเต็มเมื่อคืนไม่เห็นเหรอ ยายมีก็มา ?? “ ยายได้ลากเก้าอี้ให้เพื่อนนั่งทั้งคืน” ผู้เขียนกับแม่ได้แต่มองหน้ากัน ….ทันใดนั้นพี่ชายของผู้เขียนก็ได้กระโดดมุดมุ้งยายเข้ามานั่งข้างๆ ผู้เขียนร้องไห้ “บอกไม่ให้ยายไป ให้ยายอยู่กับผู้เขียน”แล้วยายก็พูดอะไรอีก ตอนนี้ผู้เขียนจำไม่ได้แล้ว แม่ได้ไปถามคนเฒ่าคนแก่แถวบ้านว่ายายมีเพื่อนชื่อมีไหม เพราะว่าแม่ไม่รู้จัก ยายแถวบ้านบอกว่า ยายของผู้เขียนเคยมีเพื่อนสนิทชื่อมี แต่ตายไปหลายสิบปีแล้ว หลังจากนั้นประมาณ สองอาทิตย์ยายของผู้เขียนก็ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ในวัย 75 ปี
Advertisement
Advertisement
ความคิดเห็น
