อื่นๆ
ทางผ่านป่าช้าโบราณ

ป่าดงรังเป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกขานกันจนติดหูมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายเพราะเป็นป่าที่รกร้าง ชาวบ้านใช้เป็นที่ฟังศพในสมัยก่อน ต่อมาจึงช่วยกันบริจาคเงินมาสร้างเป็นวัดป่า แต่ยังคงสภาพความเป็นป่าช้าที่เย็นยะเยือกเช่นเดิม ป่าดงรังนี้เป็นป่าช้าเก่ามาแต่โบราณ ซึ่งในสมัยนั้นชาวบ้านยังไม่มีพิธีเผาศพเหมือนปัจจุบัน แต่จะเป็นการทำพิธีฝังในป่าช้า ถ้าหากมีคนตายก็จะทำพิธีสวดที่บ้านจากนั้นจะนำเสื่อมาห่อม้วนศพแล้วหามมาที่ป่าช้าก่อนจะขุดหลุมฝัง โดยนิมนต์พระมาทำพิธีสวดและฝังลงไปในดิน ซึ่งในป่าช้าก็จะมีหลุมศพเรียงรายกันอยู่มากมายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ในทางความเชื่อของคนภาคอีสานนั้น ถ้าหากเกิดการตายที่ผิดธรรมชาติหรือตายโหง จะไม่นำศพมาสวดที่บ้านเพราะเป็นเรื่องที่ผิดครรลองครองธรรม เป็นการตายก่อนสิ้นอายุขัย จะนำโชคร้ายเข้ามาในหมู่บ้าน จึงต้องนำศพไปตั้งสวดและทำพิธีที่วัดแทน และวัดป่าดงรังแห่งนี้จะมีถนนเส้นหลักตัดผ่านข้างๆวัด ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีการกั้นกำแพงแต่จะเป็นต้นไม้รกๆขึ้นเรียงกันเป็นแนวยาวไปจนสุดท้ายป่าช้า มีศาลพระภูมิเก่าๆ ผุพังถูกวางทิ้งไว้เป็นจำนวนมากและไม่มีไฟส่องสว่างข้างทาง เป็นจุดที่น่าขนลุกเวลาผ่านไปผ่านมา
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย bertvthul จาก Pixabay
เรื่องเล่าเกี่ยวกับความอาถรรพ์ของป่าช้าโบราณแห่งนี้ผู้เขียนก็มักจะได้ยินอยู่เรื่อยๆ ซึ่งอาของผู้เขียนนั้นจำเป็นต้องผ่านป่าช้าแห่งนี้เพื่อไปทำงานในช่วงค่ำจนถึงตอนดึก ทำให้อาจะต้องขับรถผ่านป่าช้าแห่งนี้ทุกวัน ในค่ำคืนวันหนึ่งอาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่าในช่วงระหว่างตี 2 เห็นจะได้ อาเลิกงานและขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้านเป็นปกติเช่นทุกวัน แต่วันนี้อารู้สึกได้ว่าอากาศหนาวเย็นกว่าปกติ ระหว่างที่อาขับรถผ่านบริเวณป่าช้าซึ่งมีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร อาก็พบเข้ากับกลุ่มหมอกควันหนาแน่นที่ลอยมาปกคลุมจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า และเมื่ออาขับรถไปถึงกลุ่มหมอกควันนั้นก็รู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกน่าขนลุก อาแทบจะมองไม่เห็นทางจึงค่อยๆขับช้าๆเพราะกลัวอุบัติเหตุ จนสามารถพยุงรถขับพ้นออกมาได้ เมื่ออากลับถึงบ้านก็พลันนึกขึ้นได้ถึงคำที่ชาวบ้านเล่าลือกันมาว่าถนนบริเวณนั้นเป็นอาถรรพ์ มักมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งส่วนใหญ่ไม่มีใครรอด เพราะพระท่านเคยบอกไว้ว่า ที่ตรงนั้นเป็นจุดศูนย์รวมวิญญาณจำนวนมาก
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย DarkWorkX จาก Pixabay
วันเวลาผ่านไปลูกชายของอากำลังจะแต่งงานในวันพรุ่งนี้ ซึ่งในตอนเย็นจะมีพิธีสู่ขวัญน้อยเจ้าบ่าวก่อน ( เป็นประเพณีที่คนอีสานทำสืบทอดกันมาเพื่อเป็นการเรียกขวัญและกำลังใจ ) ซึ่งค่ำวันนั้นทุกคนต่างชุลมุนเพื่อจะเตรียมงาน เมื่อเจ้าบ่าวได้เข้าพิธีสู่ขวัญเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ๆ ก็มีญาติวิ่งมาบอกว่า หลานชายของอาขับรถมอเตอร์ไซค์ชนท้ายสิบล้อเข้าเต็มแรงตรงบริเวณเส้นทางผ่านวัดป่าดงรัง รถสิบล้อคันนั้นไฟท้ายรถเสียจึงทำให้หลานของอามองไม่เห็นเพราะทางตรงนั้นมืดมาก ทำให้ชนเข้าอย่าจัง กะโหลกศีรษะยุบและรถลื่นไถลลงข้างทางเสียชีวิตคาที่ ทุกคนรู้สึกตกใจ และเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันและเป็นวันเดียวกับที่ลูกชายของอากำลังจะแต่งงาน เหตุที่ชาวบ้านรู้ว่าเป็นหลานของอานั้นก็เพราะว่าดูชื่อและนามสกุลจากบัตรประชาชน ซึ่งนามสกุลของทั้งลูกและหลานนั้นคือนามสกุลเดียวกัน หรือจะเป็นไปได้ไหมว่า จากความเชื่อเรื่องมารผจญเวลาที่คนๆ นั้นกำลังจะข้าสู่พิธีมงคล ทำให้มักมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น ซึ่งลูกชายของอากำลังจะแต่งงานแต่หลานชายก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต และเป็นความบังเอิญที่ว่า คนที่มีนามสกุลเดียวกันเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มีวันแต่งงานและวันศพในวันเดียวกัน ญาติๆ ทุกคนรวมถึงผู้เขียนเองก็ทำใจไม่ได้ และไม่รู้ว่าเราควรจะมีความรู้สึกอย่างไรก่อนดีเพราะมันผสมทั้งความยินดีและความเสียใจในเวลาเข้าด้วยกัน
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย S. Hermann & F. Richter จาก Pixabay
ความคิดเห็น






