อื่นๆ
สัมผัสที่หก สัญญาณหลอนจากความตาย

การมีสัมผัสที่หกหรือ Sixth sense ไม่ใช่ทุกคนจะมีหรือจะสัมผัสได้ ว่ากันว่าการจะมีสัมผัสที่หกได้นั้นมีหลักๆอยู่สามสาเหตุคือ
1. มีสัญญาณเก่ามาจากชาติที่แล้ว และเกิดในวันที่พิเศษไปกว่าคนอื่น เช่น เกิดเสาร์ที่ 5 เกิดในวันพระใหญ่ หรือเกิดในวันที่เรียกว่าวันแข็ง
2.เคยผ่านเหตุการณ์ที่เฉียดเป็นเฉียดตายมาแล้วจนทำให้ตาที่สามเปิด และ
3. การฝึกจิตจนสงบมีสมาธิจนสามารถรับรู้ถึงพลังงานวิญญาณและรับสัญญาณจากวิญญาณได้ ส่วนใหญ่คนที่มีสัมผัสที่หกดังกล่าวนี้อาจจะสัมผัสได้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะทางความฝัน ทางการมองเห็น ทางการมานิมิตให้เห็น ซึ่งวิญญาณที่ต้องการมาสื่อสารมักจะมีพลังไม่มากพอทำให้มีข้อจำกัดในการมาสื่อสาร โดยบางตนอาจไม่สามารถมาให้เห็นเป็นตัวเป็นตนได้
หมิว เป็นเด็กสาวที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัย เธอมีสัมผัสที่หกมาตั้งแต่เด็ก ส่วนมากเธอจะสัมผัสได้ในรูปแบบของความฝัน หมิวมักจะเจ็บป่วยออดๆแอดๆโดยมาจากสาเหตุเพียงเล็กน้อย เธอต้องวิ่งเข้าวิ่งออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง จนพ่อกับแม่พาเธอไปเปลี่ยนชื่อจริงกับหลวงพ่อ ซึ่งไมน่าเชื่อว่าหลังจากนั้นมาเธอก็ไม่ได้เข้าโรงพยาบาลบ่อยๆอีกเลย ในวันที่หมิวย้ายเข้ามาอยู่ที่หอพัก ตามปกติหมิวจะเป็นคนที่สวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำทุกคืน แต่ในวันนี้เป็นวันที่หมิวต้องย้ายมาอยู่คนเดียวครั้งแรกทำให้หมิวตั้งใจว่าวันนี้จะสวดมนต์บทใหญ่กว่าทุกๆวัน ซึ่งหนึ่งในบทสวดที่หมิวสวดนั้นคือบทสวดพระคาถาชินบันชร เมื่อสวดมนต์เสร็จหมิวก็เข้านอนตามปกติ ในคืนนั้นหมิวฝันไปว่ามีผู้คนมากมายมายืนอยู่รอบห้องของเธอ แต่มีคนแก่ผู้ชายและผู้หญิงเดินเข้ามาหาแล้วพูดกับเธอว่า “มาสวดไล่เขาทำไม เขาไม่มีที่อยู่ เขาอยู่ตรงนี้มานานแล้ว อย่าสวดมนต์บทนี้อีกนะ” ในเช้าวันต่อมาหมิวรู้สึกขนลุกกับความฝันของตัวเองมาก แต่หมิวก็เชื่อว่าพระคาถาชินบันชรนั้นทรงอานุภาพของพระพุทธคุณมากจริงๆ เพราะทุกครั้งที่เธอสวดในคืนนั้นเธอจะรู้สึกกระวนกระวาย นอนไม่ค่อยหลับ กว่าจะหลับได้ก็กินเวลาไปจนถึงดึก ทำให้หมิวสงสัยว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ เธอจึงไปค้นหาในกูเกิ้ลถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเรื่องนี้ก็มีคนประสบพบเจอแบบเดียวกับเธอ เธอเลื่อนไปเจอคอมเม้นต์หนึ่งบอกว่า การที่เราสวดมนต์บทที่ศักดิ์สิทธิ์มากๆนั้น ส่วนใหญ่ผู้ที่จะได้รับอานิสงค์ผลบุญที่เราสวดก็คือเทวดาที่มีจิตละเอียด ผ่องใส สามารถรับบุญที่มีอานิสงค์แรงกล้านี้ได้ แต่พวกสัมภเวสี ผีเร่ร่อนที่อยู่รอบตัวเรานั้นเขามีพลังบุญน้อยมีดวงจิตที่หยาบเกินไปจนไม่สามารถรับพลังบุญนี้ เขาจะรับบุญได้ก็ต่อเมื่อเราไปทำบุญกับพระที่วัดและกรวดน้ำมาให้เขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงมาก่อกวนเราในขณะหลับทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัว เพื่อให้เราไปทำบุญให้เขาด้วย ในเช้าวันต่อมาหมิวจึงลงไปซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งที่หน้าหอซึ่งเป็นสิ่งที่หาง่ายที่สุดสำหรับเด็กหออย่างเธอ เพื่อมาตักบาตรพระที่บิณฑบาตผ่านมาในตอนเช้า เมื่อตักบาตรเสร็จแล้วเธอก็ได้อุทิศบุญต่างๆให้ญาติผู้ลาวงลับและวิญญาณทุกตน และในคืนนั้นเองหมิวฝันเห็นปู่ที่ตายไปนานแล้วมาเข้าฝัน ในฝันหมิวคุยกับปู่ไปเรื่อยๆ จนหมิวถามปู่ว่า “ปู่กินข้าวหรือยัง” ซึ่งในฝันนั้นปู่ตอบกลับมาว่า “กินแล้ว กูก็กินข้าวกับหมูปิ้งของมึงนั่นหล่ะ” เมื่อตื่นเช้ามาหมิวจำเหตุการณ์ที่ฝันถึงปู่ได้ดี หมิวโทรคุยและเล่าเรื่องความฝันนี้ให้พ่อฟัง หมิวจึงถามพ่อว่า “ช่วงนี้มีใครไปทำบุญให้ปู่บ้างหรือเปล่าพ่อ” พ่อก็ตอบกลับมาแบบหัวเราะว่า “เออ ไม่มีใครนึกถึงแกเลย ไม่ได้ไปทำบุญให้แกมาพักใหญ่แล้ว เพราะยุ่งๆกันอยู่ สงสัยแกคงจะหิว ดีแล้วที่ลูกไปตักบาตรให้แก ” เรื่องนี้จะว่าเป็นเรื่องตลกหรือเรื่องเกินจริงก็ได้ แต่หมิวรู้สึกว่ามันคือเรื่องที่เธอสัมผัสได้จริงๆ หมิวไม่รู้ว่าความฝันเหล่านี้เรียกว่าสัมผัสที่หกได้หรือเปล่า แต่มันก็ทำให้เธอขนลุกได้เหมือนกัน
Advertisement
Advertisement
ช่วงวัยเรียนของหมิวผ่านไปอย่ารวดเร็วจนย่างเข้าสู่วัยทำงาน หมิวได้งานในบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ถือได้ว่าเงินค่อนข้างดีเพราะหมิวสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ หมิวถือได้ว่าเป็นคนที่มีหน้าตาน่ารัก ขาว ออกไปทาง หมวยนิดๆ ตัวเล็กเมื่อเธอทำงานที่นั้นได้ซักระยะก็เริ่มมีเพื่อนร่วมงานผู้ชายเข้ามาติดพัน ผู้ชายคนนี้เป็นรุ่นพี่ ซึ่งมักจะเข้ามาพูดคุยกับหมิวในเชิงจีบ อาสาไปรับไปส่งทั้งๆที่ไม่ได้สนิทกันเท่าใดนัก พี่ผู้ชายคนนี้ชื่อ เจ ไม่รู้ทำไม ทุกครั้งที่พี่เจเข้ามาวนเวียนใกล้ๆแล้วหมิวรู้สึกไม่ชอบพี่เจเอาซะเลย เรียกได้ว่ามีความรู้สึกไม่ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ หมิวพยายามปรึกษาพี่ๆในที่ทำงานว่าพี่เจเริ่มเข้ามาคุกคามเธอมากขึ้น เพื่อนร่วมงานต่างก็พากันเตือนหมิวว่า ให้ระวังพี่เจแกไว้ให้ดีๆ เพราะพี่แกขึ้นชื่อในเรื่องของความเจ้าชู้ ซึ่งทุกคนก็สงสัยเหมือนกันว่าแกหน้าตาก็ใช่ว่าจะดี แต่พอไปจีบใครเข้า ผู้หญิงเหล่านั้นมักจะตกเป็นของแกอย่างง่ายดาย และแกก็คบๆเลิกๆไม่รับผิดชอบและไม่เคยจริงจังกับใครเลย หมิวหนักใจมากเพราะทุกครั้งที่หมิวเจอพี่เจ พี่เจเริ่มจะเข้ามาแตะเนื้อต้องตัวเธอ และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่หมิวรู้สึกเห็นแวบๆที่หางตาว่ามีเงาผู้หญิงติดตามเธออยู่ เธอมักจะสัมผัสได้เวลาที่อยู่คนเดียว ตามความเชื่อและสัมผัสที่หมิวรับรู้นี้ หมิวเห็นว่าเริ่มมีอะไรไม่ชอบมาพากล เธอคิดว่าพี่เจคนนี้ต้องเล่นคุณไสยและพยายามส่งสิ่งไม่ดีเหล่านี้มาหาเธอเพื่อให้เธอยอมไปกับเขาเป็นแน่ หมิวจึงตัดสินใจโทรไปหาแก้วเพื่อนสนิทที่เคยเรียนด้วยกันสมัยมหาวิทยาลัย เพราะแก้วมักจะชอบฟัง ศึกษาและเชื่อเรื่องผี ความเชื่อ หรือสิ่งลี้ลับ ทุกครั้งที่หมิวเจอเหตุการณ์อะไรพวกนี้ หมิว มักจะเล่าให้แก้วฟังเป็นคนแรก เมื่อแก้วได้ฟังที่หมิวเล่า แก้วก็รู้สึกเป็นห่วง หมิวมาก แก้วแนะนำให้หมิวหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาพกติดตัวไว้เสมอห้ามถอด และแก้วก็นึกขึ้นได้ว่า เคยมีเหตุการณ์ที่หมิวสวดพระคาถาชินบันชรในหอพักแล้วทำให้ผีที่อยู่บริเวณนั้นอยู่ไม่ได้จนได้มาเข้าฝันบอกหมิว แก้วจึงรีบแนะนำหมิวให้สวดมนต์บทใหญ่และพระคาถาชินบันชรนี้ทุกคืน จนกว่าจะรู้สึกว่าทุกสิ่งที่หมิวเจออยู่นั้นค่อยๆคลายไป หมิวรู้อย่างนั้นก็ทำตามคำที่แก้วบอก จนเวลาผ่านไป หมิวรู้สึกว่าพี่เจเริ่มตีตัวออกห่างเธอเรื่อยๆโดยไม่ทราบสาเหตุ จากที่เคยทักก็ไม่ทัก จากที่เคยจะไปส่งไปรับหรือแม้แต่พูดคุย พี่เจก็ไม่เข้ามายุ่งกับเธออีกเลย หมิวก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าพี่เจไปเจอกับอะไรถึงได้เลิกสนใจเธอไปแบบดื้อๆเช่นนี้ แต่หมิวเชื่อว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นผลมาจากพุทธานุภาพของพระพุทธคุณ ที่คุ้มครองเธอให้รอดพ้นจากคุณไสยมนต์ดำเหล่านี้
Advertisement
Advertisement
การที่มีสัมผัสที่หกที่หมิวมีนั้นก็ใช่ว่าจะสามารถแก้กรรมให้กับคนอื่นได้ มีอยู่วันหนึ่งที่พี่สาวของหมิวมาขอนอนด้วย เนื่องจากเกิดปัญหาหลายๆอย่างในชีวิตทั้งปัญหาครอบครัว การเงิน การอย่าร้าง พี่สาวของหมิวจึงขอมาพักกับหมิวสักระยะเพื่อตั้งหลักชีวิต หมิวจึงจัดที่นอนให้นอนข้างๆกัน ในคืนนั้นหมิวฝันว่ามีเงาดำรูปร่างคล้ายผู้ชายนอนตะแคงเอามือค้ำหัว หันหน้ามามองที่พี่สาวของหมิวที่หลับอยู่ด้วยสายตาและสีหน้าเหมือนโกรธแค้น ในฝันหมิวร้องตะโกนใส่เงานั้นทันทีว่า “มึงเป็นใคร จะทำอะไรพี่สาวกู ” ทันทีที่เงาดำนั้นรู้ว่าหมิวมองเห็นมัน มันก็เหลือกตาสีแดงคู่นั้นมองมาที่หมิว แล้วบอกว่า “ มึงอย่ามายุ่ง ” หมิวตกใจสะดุ้งตื่น แล้วมองไปที่พี่สาว ก็พบว่าพี่สาวนอนหลับและไม่มีใครอื่นใดอยู่ในห้อง หมิวรับรู้ได้ว่านั่นคือเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังมาทวงแค้นกับพี่สาวของเธอ จึงทำให้ช่วงนี้ชีวิตของพี่สาวเธอไม่ค่อยราบรื่นนัก หมิวได้แต่บอกตัวเองว่ากรรมเป็นของใครคนนั้นก็ต้องรับกรรมนั้น ไม่มีใครรับหรือแก้กรรมแทนกันได้ ถึงแม้จะเป็นผู้ที่สัมผัสสิ่งเหล่านี้ได้ก็ตาม
Advertisement
Advertisement
เขียนโดย โลกา ผี วัฒน์ (facebook โลกา ผี วัฒน์)
ความคิดเห็น






