เพื่อนตายที่โค้งยิ้ม

          เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้าเราสมัยยังเป็นวัยรุ่น  ช่วงนั้นรู้สึกว่าจะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สุด ชอบขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปดู หมอลำ หรือไปร้านเหล้ากลับมาอีกทีคือเช้าของอีกวัน มันเป็นเเบบนี้มาเรื่อยๆจนกระทั่งมีเหตุการ์ณที่ทำให้น้าของเราหยุดเที่ยวไปพักใหญ่ ในหมู่บ้านจะมีโค้ง โค้งนึงที่เด็กวัยรุ่นเเถวนั้นตั้งฉายาให้ว่า "โค้งยิ้ม" เพราะมันเป็นโค้งหักศอกเเบบที่ว่าถ้าใครไม่ชินทางเเล้วขับมาด้วยความเร็วก็เป็นเหตุให้เเหกโค้งกันไปเกือบทุกราย บางรายก็เสียชีวิตบางรายก็เเขนขาหัก ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านเลยหาศาสมาตั้งให้ปกติถ้าใครขับผ่านก็ต้องบีบเเตรรถมอเตอร์ไซค์ว่ากันว่าเพื่อขอทางเเต่ก็ยังมีพวกเด็กเเว้นหรือเด็กบ้านอื่นที่บ้างคนไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับโค้งนี้ก็จะขับรถเเหกโค้งไปตามๆกัน

          น้าของเราเล่าว่าวันนั้นมีหมอลำที่หมูบ้านใกล้ๆซึ่งก็ต้องขับผ่านโค้งยิ้มเนี่ยเเหละ ตอนนั้นก็ไม่ได้นึกกลัวกันเพราะว่าไปกันหลายคนเเละรถเเต่ละคันบ้างก็ซ้อน 2 ซ้อน 3 ไม่ได้ขับคนเดียวรถคันของน้าฝนมีเพื่อนผู้หญิงซ้อนไปด้วยกัน 2 คน คือคนขับเเละน้าเรานั่งรั่งท้ายตอนขาไปทุกคนก็บีบเเตรรถเพื่อขอทางจริงผ่านไปเเบบปกติบวกกับขับรถไม่ได้เร็วมากก็เลยเวลานั่งรถไปไหนมาไหนน้าเราเป็นคนติดมองกระจกบ่อยๆเเทบจะตลอดเวลาเลยด้วยซ้ำถ้าไม่ได้เป็นคนขับเอง พอมาถึงงานทุกคนก็เริ่มที่จะมีเเอลกอฮอล์ในร่างกายเยอะขึ้นความปากจัดความกร่างต่างๆก็เพื่มมาด้วยพวกกลุ่มผู้ชายที่เป็นเพื่อนน้าเราก็เหมือนจะมีเรื่องกัน พาลมาจนถึงพวกผู้หญิงซึ่งพวกผู้หญิงในกลุ่งของน้าเราโดยด่าหาว่าไปเเย่งผัวเเย่งเเฟนเจาเลยเกิดการตะลุมบอนตีกันยกใหญ่สุดท้ายกลุ่มของน้าเราสู้ไม่ไหวเพราะฝั่งนั้นมีคนเยอะกว่าเรียกได้ว่าไปมีเรื่องในถิ่นเขากลุ่มน้าเราเลยต้องพากันหนีตายกัน 

          เหตุการณ์นั้นทำให้น้าเราเสียเพื่อนผู้ชายไป 1 คน เนื่องจากกระเด็นไปกระเเทกหับเสากิโลคอหักตายคาที่