ตรวจแสงออร่าทำได้ไม่ยาก

หลาย ๆ ท่านในกลุ่มผู้สนใจเรื่องพลังงาน พลังจิต เรื่องที่สายตามนุษย์มองไม่เห็นคงเคยได้ยินคำว่า "ออร่า"  "Aura"  กลุ่มคนทางตะวันตกให้ความสนใจเรื่องนี้กันมากเพราะสามารถพิสูจน์ได้ด้วยการถ่ายจากกล้องถ่ายภาพเฉพาะที่ทำขึ้น  ในแถบเอเชียออร่า คือ พลังจักระนั่นเองคะ มีสีต่าง ๆ เป็นสนามพลังงานรอบตัวเราหลายสี แตกต่างกันไปตามความคิด  อารมณ์ และสุขภาพของเราเองในขณะนั้น

ออร่า (Aura) คือ การเปล่งรังสีแสงของสิ่งมีชีวิตหรือรัศมีเรืองรองบางอย่างออกมารอบตัว อาจจะเป็นแสงเรืองสีต่าง ๆ กันซึ่งตาเปล่ามองเห็น   จริง ๆ แล้วก็คือสนามพลังงาน แสงสีที่เกิดจากเซลล์ต่าง ๆ และอวัยวะส่วนสมองของเรานี่แหละค่ะ โดยแสงสีนี้จะสามารถบ่งบอกถึงสภาวะจิต ความรู้สึกนึกคิด และสุขภาพร่างกายของตัวเจ้าของได้

ตามศาสตร์ของโยคะแล้ว สีออร่านี้จะขึ้นอยู่กับ 7 จุดจักระใหญ่ และต้องมั่นดูแลจุดจักระให้แข็งแรง เพราะมีความเชื่อว่าถ้าจักระใดทำงานไม่ปกติ อวัยวะของร่างกายในส่วนนั้นก็จะมีอาการไม่ปกติตามไปด้วย วันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าวิธีการตรวจแสงออร่าด้วยตนเองจากประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟังคะ  ลองนำไปฝึกเองได้นะคะผู้เขียนใช้เวลาฝึกอยู่ประมาณ 3 - 4 วันก็มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มาเริ่มกันเลยคะ

1. สีแดงเข้มคล้ำ  จะเกิดขึ้นเมื่อมีอารมณ์ขุ่นข้องหมองใจ อยู่ในโทสะจริตหรือกำลังลุ่มหลงด้วยโลภราคะ
2. สีน้ำตาล  จะปรากฏขึ้นเมื่อเกิดอารมณ์ตระหนี่ หึงหวง หรือเกิดความงก
3. สีแดงดอกกุหลาบ  เกิดขึ้นเมื่อยู่ในอารมณ์แห่งความรัก ความใคร่ทางกาม
4. สีเหลือง  จะเกิดขึ้นถ้าอยู่ในอารมณ์เป็นกลางหรือในขณะใช้ความคิดทางสติปัญญา
5. สีม่วงจะปรากฏออกมาเมื่อเกิดอารมณ์สงบ วิเวก
6. สีน้ำเงิน ปรากฏได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในอารมณ์เชื่อมันมีจิตศรัทธาเกี่ยวกับศาสนา

มาฝึกตรวจออร่าด้วยตัวเองกันได้คะ  มีหลากหลายวิธีท่านใดสนใจก็ต้องค้นคว้ากันต่อในอินเตอร์หรือหนังสือเกี่ยวกับพลังจิตมีเขียนออกมามากมายน่าสนใจ มีการถ่ายรูปได้ด้วยกล้องเฉพาะที่ทำขึ้น  ทั้งนี้และทั้งนั้นถึงแม้ว่าเราจะฝึกแล้วฝึกอีกก็ยังมองไม่เห็นแสงออร่า ไม่ต้องกังวลคะเพราะการตรวจแสงออร่า จะมีประโยชน์ต่อเมื่อเราดูแลร่างกายและจิตใจให้ดีอยู่เสมอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ  คิดบวก มองโลกในแง่ดี พอกายและใจเราดี อะไรดี ๆ ก็จะตามมาเองคะ จะมองเห็นแสงออร่าหรือไม่เห็นไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับเราใส่ใจดูแลกายใจตัวเอง แต่ไม่ลองไม่รู้คะ มาฝึกกันวิธีนี้จะไปกระตุ้นตาที่สามด้วยถึงไม่ให้ทำหน้ากระจกในห้องมืด ๆ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่........ว.บุญแสงทอง

ภาพปกจาก: Karin Henseler จาก Pixabay

ภาพที่ 1 จาก: LillyCantabile จาก Pixabay

ภาพที่ 2 จาก Okan Caliskan จาก Pixabay

ภาพที่ 3 จาก: Manfred Antranias Zimmer จาก Pixabay

ภาพที่ 4 จาก : Manfred Antranias Zimmer จาก Pixabay

อัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !